ขณะที่กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพรตรุษจีนผ่านวีดิทัศน์แก่คนไทยเชื้อสาย จีน ในงานตรุษจีนเยาวราชฯ ส่วน 3 คนดังฮ่องกง “หมีเซียะ-เยิ่นต๊ะหัว-โรเจอร์ วู” ที่ได้รับเกียรติบัตร โล่ประกาศเกียรติคุณจาก ททท. ในฐานะผู้มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยขึ้นเวทีร่วมอวยพร ขณะเดียวกัน เกิดปรากฏการณ์ใหม่ วัยรุ่นฟันน้ำนมแห่กรี๊ดเพลงฮิต “ทรงอย่างแบด” ร่วมร้องเพลงกับสองนักร้องหนุ่มดังสนั่นเยาวราช ส่งให้บรรยากาศยิ่งคึกคักฉลองปีเถาะ “สิริมงคล รุ่งเรือง โชคดี ปีกระต่าย”

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. เวลาประมาณ 15.27 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ บริเวณด้านหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงประกอบพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน พุทธศักราช 2566

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน ธูป ที่โต๊ะเครื่องสังเวย ทรง จุดธูปหางแล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีทรงจุดธูปหางแล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสร็จแล้วพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี ทรงเผากระดาษเงินกระดาษทอง สมควรแก่ เวลาจึงเสด็จขึ้นพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

“พระราชพิธีสังเวยพระป้าย” เริ่มมีมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 ดัง รายละเอียดปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 7 ตอนที่ 37 หน้า 324 วันที่ 14 ธันวาคม จุลศักราช 1890 “พระราชพิธีสังเวยพระป้าย” หรือ “การแต้ม ป้ายตามพิธีจีน” ซึ่งเป็นธรรมเนียมของชาวจีนที่ดีงาม สำหรับพระป้ายนั้น ชาวจีนเรียกว่า เกสิน หมายถึง ป้ายชื่อของบรรพบุรุษ บุพการีที่ตั้งไว้สำหรับบูชาประจำบ้าน เป็นประเพณี ธรรมเนียมจีน ที่เคารพนับถือ กตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ การบวงสรวง บูชา เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ ส่งผลให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้ปฏิบัติ และครอบครัว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพระราชพิธีขึ้น และได้เป็นพระราชพิธีสำคัญในช่วงตรุษจีนของทุกปีจวบจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ตลอดวันตามชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ทั่วประเทศต่างจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันตรุษจีนหรือวันปีใหม่จีนกันอย่างคึกคัก มีทั้งจุดประทัด จัดขบวนแห่มังกรทอง ขบวนแห่เทพเจ้า เชิดสิงโต ฯลฯ ซึ่งมีคนไทยเชื้อสายจีนและนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมงาน เนืองแน่น เช่นเดียวกับตามวัดและศาลเจ้าต่างๆ คนไทยเชื้อสายจีนแห่เข้าทำบุญ กราบไหว้ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรเนื่องในวันปีใหม่จีนอย่างไม่ขาดสาย

วันเดียวกัน ที่โรงแรมสินธร เคมปินสกี กรุงเทพฯ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตร ไทยแลนด์ พรีวิเลจ การ์ด Friends of Thailand และโล่ประกาศเกียรติคุณ แก่เซเลบริตี้ระดับตำนานของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จำนวน 3 ท่าน ได้แก่ Ms.Michelle Yim (หมีเซี๊ยะ) Mr.Yam Tat Wah (เยิ่นต๊ะหัว) และ Mr.Roger Wu (โรเจอร์ วู) เพื่อ ขอบคุณ ยกย่องในฐานะบุคคล ซึ่งทำประโยชน์และมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยนายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.ขอขอบคุณบุคคลทั้งสาม “หมีเซี๊ยะ” และ “เยิ่นต๊ะหัว” ถือเป็นผู้ส่งมอบน้ำใจและความจริงใจอันไม่สิ้นสุดแก่ประเทศไทยด้วยการประชาสัมพันธ์ให้ชาวฮ่องกงร่วมส่งแรงอธิษฐานและกำลังใจ ยืนหยัดเคียงข้างประเทศไทยในช่วงเวลาที่ยากลำบาก รวมทั้งมีความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวไทยปลอดภัย

ขณะที่ “โรเจอร์ วู” โดดเด่นด้วยบทบาทของผู้สนับสนุนการท่องเที่ยวไทยอย่างยอดเยี่ยม เป็นผู้ริเริ่มผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ นำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวและแพลตฟอร์ม Thailandfans ของโรเจอร์ วู ซึ่งมีคนไทยและคนฮ่องกงติดตามเป็นจำนวนมาก ทางแฟนเพจประมาณ 9 แสนคน กลายมาเป็นสุดยอดคู่มือท่องเที่ยวไทยสำหรับนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง

นายยุทธศักดิ์กล่าวอีกว่า ปี 2566 คาดว่านักท่องเที่ยวฮ่องกงจะเดินทางมาเที่ยวไทยประมาณ 800,000 คน หรือประมาณร้อยละ 80 ของจำนวน นักท่องเที่ยวฮ่องกงที่เข้าไทยในช่วงปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวฮ่องกงเข้าไทยประมาณ 1 ล้านคน สร้างรายได้รวม 42,973 ล้านบาท

ด้าน “หมีเซียะ” กล่าวเป็นภาษาไทยว่า ดีใจและขอบคุณที่มอบรางวัลนี้ให้ ที่ผ่านมาหลายสิบปีดีใจที่ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศไทย หวังว่าเราทุกคนจะรักกันเช่นพี่น้องเพื่อความสุขที่ยั่งยืน ฉันรักประเทศไทยมากๆ และประเทศไทยเป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยว และคนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาอาศัย

ขณะที่ “เยิ่นต๊ะหัว” กล่าวว่า รักคนไทยและประเทศไทยมากๆ เคยมาประเทศไทยมากกว่า 100 ครั้ง เพราะเป็นประเทศที่มาแล้วอยากกลับมาอีก ตนคุ้นเคยประเทศไทยมาก รู้จักทุกสถานที่ของประเทศไทย รอยยิ้มจากหัวใจหาได้ที่นี่ประเทศไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะมาไทย มากขึ้นและคนไทยทุกคนจะสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน ขอต้อนรับสู่ประเทศไทย ส่วน “โรเจอร์ วู” ได้กล่าวขอบคุณทั้งน้ำตาที่ ททท. มอบรางวัลให้ในครั้งนี้ โดยบอกว่า วันนี้เป็นวันปีใหม่ทำตนน้ำตาไหล ตนรักประเทศไทย พยายามทำให้คนรู้จักประเทศไทยมากขึ้น

จากนั้นในช่วงเย็น ที่เวทีใหญ่หน้าเทียนฟ้า มูลนิธิ วงเวียนโอเดียน ถนนเยาวราช นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเปิดงานตรุษจีนเยาวราช 2566 ที่จัดระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค.2566 ท่ามกลางชาวไทยเชื้อสายจีนที่สวมเสื้อสีแดงเข้ามาร่วมงานอย่างเนืองแน่น โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ได้อ่านสารอวยพรเนื่องในวันตรุษจีนและมีการแลกเปลี่ยนของที่ระลึก 2 ประเทศ เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่มีต่อกันมายาวนาน 48 ปี

ลำดับต่อมา นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานจัดงานตรุษจีนเยาวราช 2566 ได้อัญเชิญพรพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานพรผ่านวีดิทัศน์ถึงคนไทยและคนไทยเชื้อสายจีนเนื่องในวันตรุษจีน ความว่า “เนื่องในวันตรุษจีนปีนี้ ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุข ปลอดภัย ร่างกายและจิตใจแข็งแรงและสมความปรารถนาทุกประการ” จากนั้นเป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมผสมผสานไทย-จีน โดยมี 3 คนดังจากฮ่องกง หมีเซียะ เยิ่นต๊ะหัว และโจเจอร์ วู ขึ้นเวทีร่วมกล่าวอวยพร ต่อด้วยการแสดงมังกรทอง และการแสดงดนตรีจากวง Paper Planes เจ้าของเพลงฮิต “ทรงอย่างแบด” ที่ดังทั่วบ้านทั่วเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มวัยรุ่นฟันน้ำนมที่ผู้ปกครองพาเข้ามารอชมเพลงโปรดอย่างล้นหลาม และได้ร่วมตะโกนร้องเพลงตามวลีเด็ด “ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย” อย่างสนุกสุดเหวี่ยงตลอดเวลา 1 ชั่วโมง นับว่าเป็นครั้งแรกที่งานตรุษจีนเยาวราชมีเด็กๆเข้ามาร่วมงานจำนวนมาก ขณะที่บนเวทียังมีการแสดงของศิลปินวงมีน สลับการแสดงศิลปวัฒนธรรมจีนไปจนถึงเที่ยงคืน

สำหรับบรรยากาศบนถนนเยาวราช ที่มีการประดับโคมไฟสีแดงตลอดแนวถนนกว่า 1 พันโคม พร้อมอุโมงค์ไฟ ตั้งแต่วงเวียนโอเดียน ไปตามถนนเยาวราช ระยะทาง 45 เมตร ก็เนืองแน่นและคับคั่งไปด้วยผู้คนที่เข้ามาถ่ายรูปและวิดีโอความสวยงามของไฟประดับอย่างไม่ขาดสาย ขณะเดียวกัน มีการออกร้านอาหารชื่อดังตั้งเรียงรายไปตลอดสองฝั่งถนนเยาวราช แต่ละร้านเต็มไปด้วยคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเดินเลือกซื้อเลือกกินอาหารที่มีขายมากมาย

ส่วนในวันที่ 23 ม.ค. งานเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น. มีการแสดงโชว์การเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมย การเชิดสิงโต 12 หัว การปรุงอาหารจีนร่วมสมัยเมนู “ปอเปี๊ยะแท่งทอง” กระทะยักษ์จาก ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล (เชฟป้อม) เวลา 18.35 น. ผู้ว่าฯ กทม.จะเป็นประธานจุดเทียนชัยถวายพระพร มีการแสดงโชว์เอ็งกอ การแสดงศิลปวัฒนธรรมจีน คอนเสิร์ตจากศิลปินวงเยส อินดีด และวงบิ๊กแอส