ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ พิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณของทหาร-ตำรวจ 6,812 นาย จาก 39 กองพัน ทั่วประเทศ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และวันกองทัพไทย ณ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2563 เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารและตำรวจ 6,812 นาย จาก 39 กองพัน ทั่วประเทศ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และวันกองทัพไทย ณ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร ถนนพหลโยธิน ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี โดยมี พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จ
สำหรับการสวนสนามเทิดเกียรติฯครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรัชสมัยรัชกาลที่ 10 ที่ทหาร-ตำรวจทุกหมู่เหล่า มาร่วมพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณโดยพร้อมเพรียงกัน ในชุดเครื่องแบบเต็มยศสง่างามเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความสามัคคี ความสามารถ ความเข้มแข็ง และความพร้อมเพรียงของเหล่าทัพ และเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็น “องค์จอมทัพไทย” โดยเหล่าทัพได้นำยุทโธปกรณ์เกือบทุกแบบที่มีประจำการเข้าร่วม ไม่ต่างจากสวนสนามแสนยานุภาพ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2539 ที่ลานพระราชวังดุสิต ในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ การจัดกำลังสวนสนามแบ่งออกเป็นกำลังภาคพื้น 10 กรมสวนสนาม และ 1 กองพันทหารม้า ประกอบด้วย 7 กรมสวนสนามเดินเท้า (กรมละ 4 กองพัน ), 2 กรมยานยนต์สวนสนาม และ 1 กองพันทหารม้า รวมถึงกำลังทางอากาศจำนวน 37 เครื่อง ประกอบด้วยหมู่บิน AU-23 บินปล่อยควันสีรูปธงชาติ ตามด้วยหมู่บินเฮลิคอปเตอร์ 4 เหล่าทัพ โดยบินหมู่ 6 และหมู่ 9 รวมถึงหมู่เครื่องบินรบ ทำการบินหมู่ 9 และ หมู่ 10
นอกจากนี้ ในส่วนของกองทัพบกยังนำยุทโธปกรณ์มาสวนสนาม เช่น ยานเกราะล้อยาง Stryker BTR-3E1 รถถัง M60A3 ปืนใหญ่ 105 มม.,155 มม. ปตอ. 35 มม. รถบรรทุกจรวด จรวดหลายลำกล้อง รถถัง OPLOT รถถัง VT-4 กองทัพเรือ เช่น รถสะเทินน้ำสะเทินบก AAVP ยานเกราะล้อยาง BTR-3E1 จรวด TOW ปืนใหญ่ 155 มม. กองทัพอากาศ เช่น เครื่องบิน F-5, F – 16, T-50, Gripen JAS-39 และเฮลิคอปเตอร์ แบบ EC 725
เมื่อกองพันสวนสนาม สวนสนามผ่านหน้าพระที่นั่งชุมสายเรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลาในการสวนสนาม ประมาณ 50 นาที วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสดุดีจอมราชา กำลังพลสวนสนามทหาร-ตำรวจ และผู้ร่วมในพิธีฯ ร่วมกันร้องเพลงถวาย จุดพลุเฉลิมพระเกียรติ 500 นัดจากนั้นเสด็จฯ ประทับรถยนต์พระที่นั่งเปิดประทุน เสด็จออกจากลานสวนสนาม ศูนย์การทหารม้า พลโทธรรมนูญ วิถี ผู้บังคับกองผสม กล่าวนำถวายพระพร "ทรงพระเจริญ" 3 ครั้ง เสด็จกลับ.