นายกรัฐมนตรีนำผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ เข้าร่วมฝึกซ้อม ริ้วขบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ท่ามกลางความตื่นตาตื่นใจของประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมรับชมการซ้อม ที่สิ้นสุดลงอย่างสง่างามและสมพระเกียรติ

ที่พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 21 เม.ย. คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ที่มี พล.อ. พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน จัดให้มีการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พยุหยาตราทางสถลมารค เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 5 พ.ค.2562 โดยเป็นการฝึกซ้อมใหญ่ครั้งที่ 2 ในพื้นที่จริง ตามเส้นทาง เวลา และลำดับขั้นตอนปฏิบัติในหมายกำหนดการวันพระราชพิธีจริง ทั้งนี้ ก่อนการปฏิบัติจะเริ่มขึ้น มีการติดตั้งเกยสำหรับเทียบพระราชยานพุดตานทอง เตรียมพร้อมไว้ที่วัดสำคัญทั้ง 3 แห่ง คือ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พร้อมระดมจิตอาสานับพันคนซักซ้อมการเฝ้ารอรับเสด็จและถวายความปลอดภัย ร่วมกับกำลังทหารนักเรียนนายร้อยทุกเหล่าทัพ ตลอดเส้นทางที่ริ้วขบวนยาตราผ่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาทหาร-ตำรวจ ประกอบด้วยพล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.สส. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม และ พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชาญชัย ช้างมงคล รมช.กลาโหม ฯลฯ เข้าร่วมในการฝึกซ้อม ในตำแหน่งแถวตอนผู้อำนวยการ ซึ่งนำหน้าส่วนตอนพระราชยานพระที่นั่งพุดตานทอง และในส่วน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 เข้าร่วมฝึกซ้อมในแถวแซงเสด็จฝั่งซ้ายเคียงคู่พระราชยานพุดตานทอง

ทั้งนี้ ในเวลา 16.00 น. ริ้วขบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่ 3 ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เริ่มตั้งแถวประจำตำแหน่งภายในพระบรมมหาราชวัง อันประกอบด้วย ตำรวจม้า ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ร.11 รอ. ร.1 รอ. กรมพลาธิการทหารบก กรมสรรพาวุธทหารบก หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กรมขนส่งทหารบก วงดุริยางค์ทหาร นักเรียนเตรียมทหาร กองทัพเรือ ข้าราชบริพารในพระองค์ สำนักพระราชวัง พระที่นั่งอัมพรสถาน คณะพราหมณ์ ฯลฯ รวมกว่า 1 พันคน พร้อมเครื่องประกอบพระราชพิธีฯ เช่น พระราชยานจำลองฉัตร เครื่องสูง เครื่องประโคม แตรสังข์ ปี่ กลองชนะ กลองมโหระทึก ธงชัยราชกระบี่ยุทธ ธงชัยพระครุฑพ่าห์จำลอง เครื่องราชกกุธภัณฑ์จำลอง พระแสงอัษฎาวุธ พระแสงหว่างเครื่อง เป็นต้น

จากนั้น เวลา 16.30 น. พล.ท.ณัฐวัฒน์ อัคนิบุตร ทำหน้าที่แจ้งลำดับพระราชพิธีเพื่อเริ่มการฝึกซ้อมริ้วขบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร ตามลำดับขั้นตอน ตั้งแต่จำลองเหตุการณ์เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาถึง พระราชยานพุดตานทอง เทียบเกยพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท จำลองเหตุการณ์ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯประทับพระที่นั่งพุดตานทอง ต่อมาเลขาธิการพระราชวัง กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตยาตราริ้วขบวน เจ้าพนักงานให้สัญญาณกรับ เวลาประมาณ 16.37 น. ริ้วขบวนที่ 3 ก็ยาตราจากพระบรมมหาราชวัง มุ่งหน้าไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นสถานที่แรก ระยะทางราว 2 กม. ผ่านประตูพิมานไชยศรี ประตูวิเศษไชยศรี เลี้ยวขวาถนนหน้า พระลาน เลี้ยวซ้ายถนนราชดำเนินใน เลี้ยวขวาถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินกลาง เลี้ยวซ้ายถนนตะนาว เลี้ยวขวาถนนบวรนิเวศ เลี้ยวขวาถนนพระสุเมรุ

สำหรับริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 3 แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ขบวนหน้าเป็นขบวนนำ ประกอบด้วย ตำรวจม้านำ วงดุริยางค์วงนำ กองบังคับการกองผสม และกองพันทหารเกียรติยศนำเสด็จพระราชดำเนิน ร.1 รอ. ส่วนที่ 2 ขบวนกลาง หรือขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ประกอบด้วย ตอนนำริ้ว ตอนเครื่องประโคม ตอนอำนวยการริ้วขบวน ส่วนพระราชยาน ได้แก่ ตอนเครื่องสูงหน้า ตอนพระราชยาน แถวแซงเสด็จ ตอนเครื่องสูงหลังและส่วนที่ 3 ขบวนหลัง ประกอบด้วย วงดุริยางค์วงตาม และกองพันทหารเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ร.11 รอ. สำหรับลักษณะการเดินในริ้วขบวนเป็นแบบกึ่งสวนสนาม ตามจังหวะดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ 6 เพลง ที่บรรเลงโดยวงดุริยางค์ คือ มาร์ชราชวัลลภ ยามเย็น ใกล้รุ่ง สรรเสริญเสือป่า สรรเสริญพระนารายณ์ และมาร์ชธงชัยเฉลิมพล

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อริ้วขบวนเสด็จ พระราชดำเนินเลียบพระนคร ถึงยังวัดบวรฯ และหยุดพักเพื่อซ้อมเทียบพระราชยาน ที่เกยหน้าวัดบวร และลำดับขั้นตอนการเสด็จพระราชดำเนินในพระอุโบสถ วัดบวรฯ เสร็จสิ้นแล้วจึงเคลื่อนต่อไปยังวัดราชบพิธฯ ระยะทางประมาณ 3 กม. ด้วยเส้นทางผ่านถนนพระสุเมรุ เลี้ยวขวาที่ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เข้าถนนราชดำเนินกลาง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายถนนบำรุงเมือง เลี้ยวขวาถนนเฟื่องนครเมื่อถึงวัดราชบพิธฯ แล้วเทียบพระราชยานที่เกยข้างวัดราชบพิธฯ เพื่อซักซ้อมขั้นตอนเสด็จพระราชดำเนินในวัดลำดับต่อมา ริ้วขบวนที่ 3 ยาตราต่อไปวัดพระเชตุพนฯ ระยะทางประมาณ 650 เมตร ผ่านถนนเฟื่องนคร เจริญกรุง โดยเมื่อถึงที่แล้วเทียบพระราชยานที่เกย ตามลำดับการเสด็จพระราชดำเนินเข้าพระอุโบสถ วัดพระเชตุพนฯ เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนตามหมายกำหนดการแล้ว ก็เคลื่อนกลับสู่พระบรม มหาราชวัง ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ผ่านถนนท้ายวัง เลี้ยวขวาถนนมหาราช เลี้ยวขวาถนนหน้าพระลาน แล้วเลี้ยวขวาเข้าพระบรมมหาราชวัง เข้าสู่ประตูวิเศษไชยศรี แล้วผ่านเข้าประตูพิมานไชยศรี เทียบพระราชยานพุดตานทอง ที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท การฝึกซ้อมจึงยุติ รวมระยะทางการเคลื่อนริ้วขบวนรวมทั้งสิ้น ประมาณ 7 กม.เศษ มีระยะการก้าวอยู่ที่ 20-30 เมตร ต่อนาที สำหรับในวันที่ 28 เม.ย.คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค จะจัดให้มีการฝึกซ้อมริ้วขบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อความพร้อมเพรียงในวันพระราชพิธีฯจริง

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางที่ขบวนฯ เคลื่อนผ่าน ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยว ต่างใช้กล้องมือถือถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกไว้เป็นระยะ แม้จะเป็นการฝึกซ้อมริ้วขบวนฯ ที่ยังไม่ได้แต่งกายเต็มยศแบบในวันพระราชพิธีฯ จริงก็ตาม