ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มี 3 พระราชบัลลังก์ และพระราชอาสน์สำคัญ คือ "พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์" หรือพระราชยานพุดตานทอง "พระที่นั่งภัทรบิฐ" และ "พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์" ที่มีการเชิญมาเพื่อการพระราชพิธีสำคัญนี้มาแล้วหลายรัชกาล รวมถึงการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 นี้

"พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์" ประดิษฐานภายในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน เป็นพระราชบัลลังก์ทองขนาดย่อม ทำด้วยไม้แกะสลักปิดทอง มีรูปครุฑและเทพนมประดับเรียงรายโดยรอบฐานทั้ง 2 ชั้น เมื่อมีพระราชพิธีจะเชิญมาทอดบนพระราชบัลลังก์ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตรอีกชั้นหนึ่ง เรียกว่า “พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์” พระมหากษัตริย์เสด็จขึ้นประทับในพระราชพิธีสำคัญ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาเพื่อรับการถวายพระพรชัยมงคล

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระมหาพิชัยมงกุฎ ประทับพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนพระแท่นราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร แวดล้อมด้วยมหาดเล็กเชิญเครื่องอิสริยราชูปโภคตามตำแหน่ง เสด็จออกมหาสมาคมในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ ท้องพระโรง พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระมหาพิชัยมงกุฎ ประทับพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนพระแท่นราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร แวดล้อมด้วยมหาดเล็กเชิญเครื่องอิสริยราชูปโภคตามตำแหน่ง เสด็จออกมหาสมาคมในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ ท้องพระโรง พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อใช้เป็นพระราชยาน เรียกว่า “พระราชยานพุดตานทอง” โดยที่พระมหากษัตริย์ประทับในการเสด็จพยุหยาตราทางสถลมารคเลียบพระนคร และเสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนราบใหญ่

อย่างในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพยุหยาตราสถลมารคเลียบพระนคร ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช เมื่อปี 2454 และในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพยุหยาตราสถลมารคเลียบพระนคร เมื่อปี 2468

ต่อมาในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประทับ “พระราชยานพุดตานทอง” เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนราบใหญ่ ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปทรงมนัสการ พระศรีรัตนตรัย ประกาศ พระองค์เป็นอัครศาสนูปถัมภก ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2493

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประทับพระที่นั่งราชยานพุดตานทอง เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนราบใหญ่ จากหน้าพระทวารเทเวศรรักษา ผ่านประตูสนามราชกิจไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประทับพระที่นั่งราชยานพุดตานทอง เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนราบใหญ่ จากหน้าพระทวารเทเวศรรักษา ผ่านประตูสนามราชกิจไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก

สำหรับ "พระที่นั่งภัทรบิฐ" ซึ่งประดิษฐานภายในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ด้านทิศตะวันตก พระที่นั่งมีลักษณะคล้ายเก้าอี้มีกงเท้าแขน ด้านหลังมีพนักพิงและตั้งโต๊ะเคียง 2 ข้าง สลักปิดทองประดับ กระจก ขาเป็นรูปพญานาคราช สำหรับทอดเครื่องราชกกุธภัณฑ์และเครื่องราชูปโภค แต่เดิมรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 8 ปักสัปตปฎลเศวตฉัตรกางกั้น ครั้นในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เปลี่ยนเป็นกางกั้นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับพระที่นั่งภัทรบิฐ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องบรมราชาภรณ์ และเครื่องพระราชอิสริยยศ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2468
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับพระที่นั่งภัทรบิฐ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องบรมราชาภรณ์ และเครื่องพระราชอิสริยยศ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2468

สำหรับ "พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์" ประดิษฐานภายในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ด้านทิศตะวันออกป็นพระแท่นทำจากไม้อุทุมพรหรือ “มะเดื่อ” ทรงแปดเหลี่ยมสลักปิดทองประดับกระจก กางกั้นด้วยสัปตปฎลเศวตฉัตร เป็นพระที่นั่งสำหรับพระมหากษัตริย์ประทับรับน้ำเทพมนตร์จากพระราชครูวามเทพมุนี น้ำอภิเษกเวียนไปทั้ง 8 ทิศ 

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ประทับพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงรับน้ำอภิเษก ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2468
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ประทับพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงรับน้ำอภิเษก ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2468

ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ประทับพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงรับน้ำอภิเษกของราชบัณฑิต พราหมณ์ผู้ถือพรต พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระราชาธิบดี ประธานาธิบดีนานาประเทศ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

ทั้งนี้ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 นี้ ตามหมายกำหนดการนั้น วันที่ 4 พฤษภาคม เวลาฤกษ์ 10.09-12.00 น. ทรงสรงพระมุรธาภิเษก ณ มณฑปพระกระยาสนาน บริเวณชาลา พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน จากนั้นทรงรับน้ำอภิเษก ณ "พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์" จากนั้นทรงรับพระสุพรรณบัฏจารึกพระปรมาภิไธย เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องบรมขัตติยราชวราภรณ์และพระแสงราชศัสตราวุธ ณ "พระที่นั่งภัทรบิฐ"

ในเวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ประทับ "พระที่นั่งพุดตานทอง"โดยขบวนราบใหญ่ ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และในวันที่ 5 พฤษภาคม เวลา 16.30 น.เสด็จฯ ประทับ "พระที่นั่งพุดตานทอง" พระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราสถลมารคเลียบพระนคร

ที่มา : ข้อมูล ภาพ จากหนังสือประมวลองค์ความรู้พระราชพิธีบรมราชาภิเษก กระทรวงวัฒนธรรม และการบรรยาย โดย ศ.ดร.ม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ ประธานอนุกรรมการ ด้านสารัตถะ และสร้างสรรค์ผลิตสื่อ ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ “งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562" วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562