ศาลทหารพิพากษาจำคุก "ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ" 4 ปี 6 เดือน ฐานครอบครองวัตถุระเบิดและยุทธภัณฑ์ หลังยื่นอุทธรณ์ พร้อมส่งตัวเข้าเรือนจำ มทบ.11
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 60 ที่ศาลทหารสูงสุด องค์คณะตุลาการศาลทหารสูงสุด ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีดำที่ 35/50 สืบเนื่องจากที่ศาลทหารกรุงเทพเคยมีคำพิพากษา 3 ผู้ต้องหา ได้แก่ จำเลยที่ 1 ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ อดีตนายทหารสารบรรณที่รับผิดชอบงานในภาคใต้ จำเลยที่ 2 พ.อ.มนัส สุขประเสริฐ อดีตนายทหารรักษาความปลอดภัยผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) และจำเลยที่ 3 พ.อ.สุรพล สุประดิษฐ์ หรือ เสธ.ตี๋ อดีตนายทหารแผนกการเงิน กอ.รมน. ในคดีข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียบเคียง และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 236 และมาตรา 63 อีกทั้งร่วมกันเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดและพาไปในเขตเมืองโดยไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันมียุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมโทษทุกกระทงจำคุกจำเลยทั้ง 3 คน 6 ปี ปรับคนละ 4,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยที่ 1 คือ ร.ท.ธวัชชัย ให้การเป็นประโยชน์จึงให้ลดโทษเหลือ 4 ปี 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2552
จากนั้น ร.ท.ธวัชชัย ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลทหารกรุงเทพต่อศาลทหารสูงสุด ทั้งนี้ องค์คณะตุลาการศาลทหารสูงสุดได้พิจารณา และมีคำพิพากษายืนตามองค์คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพ ให้ลงโทษ ร.ท.ธวัชชัย ตามเดิม คือ จำคุก 4 ปี 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) จ.นครปฐม ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2549 หน่วยรักษาความปลอดภัยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจสอบพบรถเก๋งยี่ห้อแดวู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฐฉ 3085 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บริเวณข้างสะพานข้ามแยกบางพลัด ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขบวนรถของนายทักษิณต้องผ่าน ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยของนายทักษิณจึงได้ประสานกับหน่วยอรินทราช 191 และตำรวจท้องที่ตรวจค้น จนสามารถจับกุมชายคนหนึ่ง และตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบวัตถุระเบิดทีเอ็นที ซีโฟร์ ถังแกลลอนบรรจุน้ำมันเบนซินผสมปุ๋ยยูเรีย แผงวงจรควบคุมระเบิด โดยองค์คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพในขณะนั้น ได้พิจารณามีคำพิพากษาความผิดในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิด แต่ในส่วนข้อหาพยายามฆ่า นายทักษิณ นั้นได้พิจารณายกฟ้อง
...