"บิ๊กตู่" แจง ครม.ไฟเขียวซื้อรถถัง VT-4 จากจีน ให้ ทบ.เป็นไปตามแผนพัฒนา 10-20 ปี ชี้มีความจำเป็น หากซื้อจากตะวันตกแพงกว่า 3 เท่า ย้ำจะดีหรือไม่ดี ก็มีคณะกรรมการรับผิดชอบอยู่แล้ว...

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวกรณีที่ ครม.เห็นชอบตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เสนอโครงการจัดซื้อรถถัง VT-4 จากจีน วงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้ต้องดูว่ามีความจำเป็นหรือไม่ หากจำเป็นก็ต้องมีกระบวนการจัดซื้อ ซึ่งเมื่อซื้อก็ต้องอยู่ในแผนการพัฒนากองทัพในช่วง 10-20 ปี เพราะรถถังหนึ่งคันใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 20-30 ปี โดยที่ผ่านมา รถถังรุ่นเก่าหลายคันปลดประจำการไปหลายสิบปีแล้ว ดังนั้นจึงต้องจัดหาเพื่อทดแทน โดยต้องดูว่าจะต้องเปลี่ยนกี่กองพัน ทั้งนี้หลักการในการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยนั้น นำต้นแบบมาจากสหรัฐอเมริกา ทั้งโครงสร้างการศึกษาและการกำหนดหน่วย โดยมีการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์เทียบกับทหาร 1 ต่อ 3 มีรถถังหนึ่งกองพันต่อหนึ่งกรม

"ทีนี้ก็ต้องมาดูว่าเราจะซื้อจากใคร แล้วเรายังมีเงินหรือไม่ หากซื้อจากประเทศตะวันตกในราคา 3 เท่า ส่วนประเทศตะวันออกราคาเท่าเดียว แล้วเราจะซื้อใคร ซึ่งขีดความสามารถในอาวุธต้องเป็นที่ยอมรับ จะดีหรือไม่ดี ก็มีคณะกรรมการรับผิดชอบอยู่แล้ว วันนี้ทุกอย่างมีการพัฒนามามาก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ว่า หากมีความจำเป็นก็ต้องจัดหา โดยคุณภาพจะต้องเป็นไปตามความเหมาะสม วันนี้มีคนโจมตีเรื่องนี้ตามเว็บไซต์ต่างๆ โดยมีอดีตทหารด้วย คิดว่าคนเหล่านี้ใช้ไม่ได้ ถือว่าทำลายระบบกองทัพเพราะเขียนในสิ่งที่ไม่ใช่เท็จจริง อย่างไรก็ตาม วันนี้กองทัพมีความมั่นคง เพราะคนเก่าๆ ที่ไม่ดีออกไปแล้ว

...

สำหรับ รถถัง VT-4 ม้าเหล็กคันใหม่ผู้มาแทน M-41 ผลิตโดยบริษัทนอร์ริโค พัฒนาต่อยอดมาจาก รถถังหลักรุ่น Type-90-II ของกองทัพจีน เป็นเวอร์ชั่นส่งออกของรุ่น MBT-3000 จัดเป็นรถถังหลักยุคที่ 3 ที่ได้อัพเกรดนำเอาระบบต่างๆ มากมายมาติดตั้งไว้ในตัวรถแบบเดียวกับ Type-99A ที่มีใช้งานในกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ก่อนหน้านี้ไทยได้สั่งซื้อแล้วจำนวน 28 คัน เมื่อปี 2016 กำลังเสนอขายให้กับปากีสถานและเปรู ใช้พลประจำรถ 3 นาย คือ ผู้บังคับการรถถัง พลขับ และ พลยิง 

จุดเด่น คือ มีเกราะปฏิกิริยาที่สามารถระเบิดหัวรบเจาะเกราะ ติดที่ลำตัวด้านข้าง แผ่นปิดสายพาน และป้อมปืน ระบบป้องกันตัว GL5 มีเครื่องยิงลูกระเบิดสังหาร และเครื่องยิงลูกระเบิดควัน ระบบแจ้งเตือนเมื่อถูกล็อกด้วยเลเซอร์ชี้เป้า ระบบพิสูจน์ฝ่าย หรือ IFF ระบบป้องกันสงครามนิวเคลียร์ อาวุธชีวเคมีทั้งแบบบุคคล และแบบรวม ระบบดูดซับแรงระเบิด เครื่องดับเพลิงอัตโนมัติ และระบบปรับอากาศ

ในส่วนของอาวุธประจำรถก็มีป้อมปืนหลักขนาด 125 มม.ลำกล้องเรียบพร้อมระบบป้อนกระสุนอัตโนมัติ ใช้งานหัวรบได้หลากหลาย อาทิ หัวเจาะเกราะลูกดอกสลัดครอบพร้อมครีบทรงตัว (APFSDS) หัวระเบิดแรงสูงกะเทาะเกราะ (HESH) หัวระเบิดแรงสูง (HE) และอาวุธปล่อยต่อต้านรถถัง ในส่วนอาวุธรองเป็นป้อมปืนกลหนัก 12.7 มม. บังคับด้วยรีโมตแบบ โดยมีระบบควบคุมการยิงแบบ hunter-killer ที่มีขีดความสามารถในการเล็งด้วยเลเซอร์ กล้องเล็งพาโนรามิก และกล้องเล็งโดยระบบสร้างภาพด้วยความร้อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง