ตั้งท่าลาออกลงสมัครส.ส.กกต.แบ่งเขตแล้วมี350คนนายกฯนัดแถลงหลังครม.
โปรดเกล้าฯ รธน.ฉบับผ่านประชามติ 6 เม.ย. นายกฯเตรียมแถลงรายละเอียดวันประชุม ครม. 4 เม.ย. แม่น้ำ 5 สาย ขยับรับไทม์ ไลน์ โรดแม็ป สปท.-สนช.กว่า30 คน เตรียมลาออก รอลงสมัคร ส.ส.ภายใต้เงื่อนไขรธน.ใหม่ กกต.คลอดระบบเขตเลือกตั้ง ส.ส. 350 คน ลดลงจากเดิมที่มี 375 คน “เรืองไกร” แทงหนังสือจี้ “วิษณุ” แจงบัญชีทรัพย์สินพร้อมรายการเสียภาษี เจ้าตัวยักไหล่เฉยๆ ยันมีหลักฐานเงินงอก เสียภาษีถูกต้องไร้กังวล กกต.เสียงเขียวใส่ กรธ.โยนรับผิดชอบถ้าระบบผู้ตรวจการเลือกตั้งไม่เวิร์ก
กระบวนการขับเคลื่อนประเทศไทยตามโรดแม็ปของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตลอดจนกระบวนการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายลูก ใกล้จะได้เห็นทิศทางและวันเวลาที่ชัดเจน หลังจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ กำลังจะได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ในวันที่ 6 เม.ย.นี้
โปรดเกล้าฯ ประกาศใช้ รธน. 6 เม.ย.
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. สำนักพระราชวัง เผยแพร่หมายกำหนดการ พระราชพิธีประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีในตำแหน่งบังคับบัญชาสำนักพระราชวัง รับพระราชโองการเหนือเกล้าฯ สั่งว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการประกาศพระราชพิธีประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ดังรายการต่อไปนี้ วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน เจ้าพนักงานเตรียมการพระราชพิธีที่พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต ไว้พร้อมสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน ไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต
เวลา 15.00 นาฬิกา เสด็จออก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงยืนหน้าพระราชอาสน์ หน้าพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร แวดล้อมด้วยเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศ มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านเปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรอิสระ ข้าราชการฝ่ายทหารและพลเรือน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ตามตำแหน่งเป็นมหาสมาคม
...
เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ทูลเกล้าฯถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลง พระปรมาภิไธยแล้ว พระราชทานแก่นายกรัฐมนตรี เจ้าพนักงานอาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ประทับพระราชลัญจกรแล้วเชิญไปประดิษฐานบนพานทองที่เสาบัวหน้ามหาสมาคม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านกระแสพระราชปรารภประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จบแล้ว ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร ดุริยางค์ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่ฝ่ายละ 21 นัด และวัดทั่วราชอาณาจักรย่ำระฆังและกลอง
ครั้นสุดเสียงปืนใหญ่ มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินกลับการแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายนพรัตนราชวราภรณ์ หรือสายสะพายสูงสุด สำนักพระราชวัง วันที่ 1 เมษายน พุทธศักราช 2560
“บิ๊กตู่” ทูลเกล้าฯ ไปก่อนหน้านี้ 48 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่หมายกำหนดการ พระราชพิธีประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้นำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯถวาย เมื่อวันที่ 17 ก.พ.60 หากมีการโปรดเกล้าฯร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 เม.ย. ถือว่าผ่านไป 48 วันจากที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ 90 วัน
เตรียมแถลงรายละเอียด 4 เม.ย.
เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีการเผยแพร่หมายกำหนดการพระราชพิธีประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ว่า ขอให้อยู่ในความสงบ แล้วรอฟังรายละเอียดในวันที่ 4 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. จะแถลงเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ หลังจากได้รับแจ้งจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะตนก็เพิ่งได้รับทราบว่ามี 2-3 จุด ยังไม่แน่นอน แต่จะชัดเจนในไม่ช้า เมื่อชัดเจนแล้วนายกฯ คงจะแจ้งให้ทราบในวันที่ 4 เม.ย. ส่วนจะมีโรดแม็ปเลือกตั้งออกมาเลยหรือไม่ยังไม่ทราบ เมื่อถามว่า ไทม์ไลน์การเลือกตั้งจะเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้เลยหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ทราบ ขอให้รอฟัง จากนั้นนายวิษณุได้ขอดูหมายกำหนดการจากสื่อมวลชน ก่อนระบุว่า “เอกสารนี้คือหมายกำหนดการที่ถูกต้อง”
แจงวาระทำงานแม่น้ำ 5 สาย
นายวิษณุยังกล่าวถึงสถานะของสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า สนช.จะยังทำหน้าที่จนถึง 15 วัน ก่อนวันการเลือกตั้ง ส่วน สปท.จะทำหน้าที่จนกว่ากฎหมายปฏิรูปจะออกมาภายใน 4 เดือน หลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า หมายกำหนดการในพระราชพิธีประกาศใช้รัฐธรรมนูญ มีการยิงปืนใหญ่ทุกครั้งหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า เมื่อใดที่มีพระราชพิธีพระราชทานก็จะมีเช่นนี้ หากไม่มีพระราชพิธีก็ไม่ต้องทำอะไร
30 สปท.-สนช.เล็งไขก๊อกรอสมัคร ส.ส.
นายวันชัย สอนศิริ สปท. เปิดเผยว่า ภายหลังจากมีข่าวรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติจะประกาศใช้วันที่ 6 เม.ย.นี้ ตนได้พูดคุยกับสมาชิก สปท.และ สนช.หลายคน ทราบว่าจะมี สปท.ประมาณ 20 คน และ สนช.ประมาณ 10 คน ลาออกจากตำแหน่งเพื่อให้ได้สิทธิลงสมัคร ส.ส.ได้ ตามมาตรา 263-266 ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ ที่ระบุให้บุคคลที่จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จะต้องลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ภายใน 90 วันเพื่อป้องกันข้อครหาในเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ส่วนบุคคลดังกล่าวจะสมัคร ส.ส.จริงหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่เป็นการเตรียมคุณสมบัติไว้ สำหรับตนขอตัดสินใจอีกครั้งว่าจะขอลาออกหรือไม่ ถ้าจะลาออกจริงจะเปิดเผยให้รับทราบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บทเฉพาะกาล มาตรา 263-266 ของรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ ได้กำหนดห้ามแม่น้ำ 4 สาย ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี (ครม.) คสช. สนช. สปท. ลงสมัครรับเลือกตั้ง เว้นจะต้องลาออกจากตำแหน่งภายใน 90 วันหลังร่างรัฐธรรมนูญประกาศใช้
กกต.คลอดเขตเลือกตั้ง ส.ส.350 คน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึงผอ.เลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อให้เตรียมความพร้อมการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยมีจังหวัดที่มี ส.ส. 1 คน จำนวน 8 จังหวัด จังหวัดที่มี ส.ส.มากกว่า 1 คน จำนวน 68 จังหวัด และจังหวัดกรุงเทพฯมีจำนวน ส.ส. 30 คน รวม ส.ส.ทั้งหมด 350 คน โดยข้อมูลจำนวนราษฎร ณ วันที่ 30 มี.ค.2560 มีประชากร ส.ส. 1 คน ต่อราษฎร 188,375.857 คน จังหวัดที่มี ส.ส.มากที่สุด 5 อันดับแรก คือ กรุงเทพฯ 30 คน นครราชสีมา 14 คน ขอนแก่น 10 คน อุบลราชธานี 10 คน และเชียงใหม่ 9 คน
“เรืองไกร” ย้อนเกล็ดภาษี “วิษณุ”
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ขอให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นระหว่างปี 2548-2557 และค่าใช้จ่ายที่ส่งบุตรไปศึกษาต่อปริญญาโทและปริญญาเอกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าเงินที่ส่งบุตรไปเรียนรวมทั้งสิ้นเท่าใด มีที่มาจากแหล่งใด เพื่อดูว่าทรัพย์สินทั้งหมดได้เสียภาษีครบถ้วนหรือไม่ เนื่องจากการแสดงบัญชีทรัพย์สินของนายวิษณุสมัยดำรงตำแหน่งรองนายกฯเมื่อปี 2548 จนถึงปัจจุบันมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 87.5 ล้านบาท เฉลี่ยต่อปี 9.7 ล้านบาท แต่การยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งล่าสุดนายวิษณุและภรรยามีทรัพย์สินเพิ่มเพียง 3 ล้านบาท ไม่สอดคล้องกัน นายเรืองไกรกล่าวว่า ถ้านายวิษณุไม่มีการเปิดรายละเอียดดังกล่าว จะเดินทางไปยื่นกรมสรรพากรและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องต่อไป เมื่อถามว่า การยื่นให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์ครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปหรือไม่ นายเรืองไกรตอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะที่ผ่านมาประเด็นหุ้นชินฯถูกมองเป็นประเด็นทางการเมือง ตนจึงอยากให้กรณีนายวิษณุเป็นประเด็นทางกฎหมายสามารถตรวจสอบได้ทุกคน ทุกรัฐบาล และตรวจสอบให้เหมือนกัน ไม่ใช่เลือกตรวจสอบฝั่งใดฝั่งหนึ่งเท่านั้น
“วิษณุ” เฉยๆยันมีหลักฐานเงินงอก
ต่อมาเวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ขอชี้แจงกับคนทั่วไป ถ้ามีข้อสงสัยมีหน่วยงานของรัฐที่ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว ทั้งกรมสรรพากร และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถ้าหน่วยงานเหล่านี้มีข้อสงสัยยินดีชี้แจงทุกประการ มีเอกสารหลักฐานต่างๆเรียบร้อย ไม่มีปัญหา นายเรืองไกรไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าทุจริต เพียงแต่สงสัยว่าทำไมถึงมีทรัพย์สินเพิ่ม และไม่ใช่เป็นการสังเกตจากการยื่นบัญชีทรัพย์สินขาเข้าตอนรับตำแหน่ง และยื่นตอนขาออกจากตำแหน่งเดียวกัน แต่เป็นการตรวจบัญชีทรัพย์สินขาออกจากตำแหน่งสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2548 แล้วทิ้งช่วงไป 9 ปี ระหว่างนั้นตนทำมาหากิน ไปเป็นกรรมการบริษัท เมื่อกลับมาดำรงตำแหน่งอีกในรัฐบาลนี้ ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินว่ามีเงินได้และทรัพย์สินที่งอกเงยขึ้นมาอย่างไรภายใน 9 ปี โดยมีจำนวน 87 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของทรัพย์สิน ไม่ใช่เรื่องของรายได้หรือเงินสดที่มากองอยู่ ถ้าทรัพย์สินเหล่านั้นมางอกเงยตอนกำลังดำรงตำแหน่งอย่างนั้นจะผิดปกติ แต่นี่มันทิ้งช่วงไปแล้วไม่ใช่ช่วงเวลาที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินอะไร
ไม่กังวลเสียภาษีถูกต้องทุกอย่าง
เมื่อถามว่า ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเสียภาษีถูกต้องใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ถูกต้อง เพราะถ้างอกเงยจากเงินได้ต้องเสียภาษี แต่ถ้างอกเงยจากที่ดินที่ได้รับมาจากการให้มีทั้งประเภทต้องเสียภาษีและไม่เสียภาษี ทรัพย์สินส่วนหนึ่งของตนที่งอกเงยขึ้นมาคือเงินที่ลงทุนใน LTF และ RMF ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่ถือว่ามาก แต่ที่เพิ่มขึ้นมา 70-80 ล้านบาท เป็นอสังหาริมทรัพย์เสียส่วนใหญ่ กรณีนี้คล้ายกับกรณี 60 นักการเมืองที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่า เสียภาษีไม่ถูกต้อง โดยมีการชี้แจงกับกรมสรรพากรจนทราบว่าไม่พบความผิดปกติและปล่อยหลุดไปเกือบหมดแล้ว แต่มีบางส่วนที่ยังไม่มาชี้แจงกับกรมสรรพากร ส่วนตนอยู่ในข่ายนั้นบางทีการได้ทรัพย์สินมาระหว่างนั้นไม่ว่าจะเป็นมรดกหรืออะไรก็ตาม ถ้าสงสัยว่าได้มาโดยนิติกรรมอำพรางสามารถตรวจสอบได้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ส่วนการส่งลูกไปเรียนหนังสือต่างประเทศใครๆก็ส่งลูกไปเรียนกันทั้งนั้น ไม่ได้ปกปิดหรือปิดบังอะไร ต่อข้อถามว่า เป็นประเด็นทางการเมืองที่ฝ่ายตรงข้ามจ้องเอาคืนหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ขอตอบอะไร แต่วิญญูชนย่อมรู้ได้ด้วยตนเอง เลยไม่ตื่นเต้นอะไร
สนช.สัมมนาทุจริตเชิงนโยบาย
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องสารนิเทศ อาคารรัฐสภา 1 คณะกรรมการวิจัยและพัฒนาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จัดสัมมนาวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ในกระบวนการนิติบัญญัติเรื่อง “การทุจริตเชิงนโยบาย : มาตรการในทางกฎหมาย เพื่อการควบคุมและป้องกันปัญหาการทุจริตเชิงนโยบายในประเทศไทย” นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. กล่าวเปิดงานสัมมนาว่า การคอร์รัปชันเป็นปัญหาเรื้อรังในระบบเศรษฐกิจทั่วโลก นับวันจะมีพัฒนาการที่ซับซ้อนมากขึ้น การตรวจสอบทำได้ยากลำบาก ในประเทศไทยถือเป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน ฝังรากลึกลงในทุกภาคส่วน แม้จะพยายามตั้งหน่วยงานเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่ เพราะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่างมีความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางการเมือง และยังพบว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน จากโครงการหรือ นโยบายของรัฐบาลที่เรียกว่าการทุจริตเชิงนโยบาย การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันของไทยจึงถูกหยิบยกเป็นวาระแห่งชาติ ภายใต้การดำเนินงานของคณะ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีกลไกในร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชามติ และกฎหมายลูกว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ต้องตัดไฟต้นลมเพิ่มโทษอาญา
นายอุดม รัฐอมฤต โฆษก กรธ. กล่าวว่า การทุจริตเชิงนโยบายมีแบบแผนที่ดำเนินการโดยองค์ความรู้และบุคลากรที่มีอำนาจ ยกตัวอย่างโครงการรับจำนำข้าวที่ใช้เงินจำนวนมาก เราต้องมาดูว่าโปรเจกต์ใหญ่ๆของรัฐอยู่ที่ใคร รัฐเสียเงินจำนวนมากไปกับโครงการทุจริตเชิงนโยบาย เพราะจัดการกับผู้กำหนดเชิงนโยบายไม่ชัดเจน ดังนั้น ต้องกำหนดโทษกับผู้กำหนดนโยบายให้ชัดนายปกป้อง ศรีสนิท อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การป้องกันการทุจริตที่ดีคือการปราบปรามที่มีประสิทธิภาพ การแก้ไขปัญหาจะต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม กำหนดให้การสมคบคิดจะกระทำทุจริตเชิงนโยบายเป็นฐานความผิดทางอาญา ไม่ต้องรอให้เกิดความเสียหายจากการดำเนินนโยบายก่อน นอกจากนี้ ควรต้องมีมาตรการคุ้มครองพยานด้วย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการกระทำของผู้มีอิทธิพล
ขอ ป.ป.ช.ช่วยหาข้อมูลทุจริตซีซีทีวี
ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ให้สัมภาษณ์ถึงการทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด (cctv) ภายในบริเวณอาคารรัฐสภา ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนแสวงหาข้อเท็จจริง คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภา (กร.) กำลังพิจารณาอยู่ ได้มอบหมายให้ พล.อ.อ.วีรวิทย์ คงศักดิ์ เป็นประธานการตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องอาศัยข้อมูลจาก ป.ป.ช. เข้ามาช่วย เพราะเขามีอำนาจในการเรียกหาข้อมูล หากที่สุดแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐทำผิดขั้นตอนก็ต้องเอาผิดทันที เราพยายามควบคุมการทุจริต โดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ให้ล็อกสเปกได้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ผ่านการประชามติเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ได้วางกลไกไว้แล้ว โดยเฉพาะเรื่องตรวจสอบนโยบายที่จะนำไปสู่การคอร์รัปชัน
กกต.จัดประกวดทำคลิปการเมือง
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง พร้อมด้วยนายจิระ มะลิกุล และนายวิทยา ทองอยู่ยง ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังค่าย GDH ร่วมแถลงข่าวเปิดการประกวดคลิปวีดิโอหัวข้อ “การมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์” นายสมชัยกล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมทางการเมือง พัฒนาประชาธิปไตยและการเลือกตั้งผ่านคลิปวีดิโอความยาว 1-3 นาที การประกวดจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คิดว่าการทำคลิปวีดิโอของคนแต่ละช่วงวัยจะสามารถสร้างความเข้าใจให้กับคนในช่วงวัยเดียวกันได้ง่ายกว่า คือระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาและอาชีวะศึกษา ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป เงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท ทั้งนี้ สามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 เม.ย. ผู้ที่สนใจ ติดตามรายละเอียดและกติกาการประกวดได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน กกต.
ขู่ กรธ.รับผิดชอบถ้าผู้ตรวจเหลว
นายสมชัยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ กรธ.ไม่บัญญัติ กกต.จังหวัดลงในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ว่า กกต.ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของ กกต.จังหวัดไปแล้ว เชื่อว่าเป็นกลไกที่สุจริตและเที่ยงธรรม หาก กรธ.เห็นต่าง จะใช้ระบบผู้ตรวจการเลือกตั้งก็เป็นสิทธิที่จะพิจารณา แต่ไม่เคยปรากฏที่ไหนในโลกมาก่อน จากนี้ไปขึ้นอยู่กับ สนช.จะพิจารณาสิ่งที่ กรธ.ออกแบบ หรือรับฟังความเห็นของ กกต. เรายินดีนำรูปแบบดังกล่าวไปใช้และพยายามทำให้ดี แต่ถ้าใช้แล้วเกิดปัญหา คนที่คิดต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย สำหรับรูปแบบ กกต.จังหวัดที่ กกต.ได้เสนอไปก็ไม่ใช่รูปแบบเดิม เช่น เลือกคนที่มีประสบการณ์ ผู้ที่เกษียณอายุราชการแล้ว เป็นที่ยอมรับจากคนในพื้นที่มาทำหน้าที่กำกับการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งอยู่ในมือประชาชน ไม่ใช่รูปแบบเดิมที่เป็นข้าราชการในพื้นที่ และรับเงินเดือนประจำ แต่เมื่อเสนอ กรธ.แล้วไม่เห็นด้วย ก็ต้องรอดูว่าการพิจารณาของ สนช.จะเห็นอย่างไร ส่วนที่มีการระบุว่า กกต.ล็อบบี้ สนช.นั้น กกต.ไปพบตามคำเชิญ ไม่ได้ไปล็อบบี้ กกต.ไม่เคยทำ
นายกฯปลื้มหนี้ครัวเรือนลดรอบ 11 ปี
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ยินดีที่ได้รับทราบข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยว่า หนี้ครัวเรือนของไทยลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี การกู้เงินของประชาชนและการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินอย่างระมัด ระวัง มีส่วนทำให้หนี้ครัวเรือนของประเทศลดลง โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อรายบุคคลที่ก่อนหน้านี้ที่เป็นตัวก่อหนี้จำนวนมาก รัฐบาลจึงอยากให้ประชาชนรักษาวินัยในการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม รู้จักทำบัญชีรายรับรายจ่าย สร้างรายได้จากอาชีพเสริมและออมเงิน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้สินรุงรังในอนาคต สำหรับปัญหาหนี้นอกระบบ รัฐบาลออกมาตรการ เช่น เปิดลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สนับสนุนสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพ กองทุนการออมแห่งชาติ เป็นต้น แต่สำคัญสุดต้องช่วยกันปลูกฝังค่านิยมใหม่แก้ไขพฤติกรรมการบริโภคที่เกินตัว
ดันรถถังจีน VT4 ลอต 2 เข้า ครม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ครม. วันที่ 4 เม.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม จะยังไม่นำโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ Yuan Class S26T จากจีน ของกองทัพเรือจำนวน 3 ลำ วงเงิน 36,000 ล้านบาท เข้า ครม. เพราะอยู่ ระหว่างการตรวจความถูกต้องเรื่องสัญญาและรายละเอียดด้านอื่นๆของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แต่จะมีการนำโครงการจัดซื้อรถถัง VT4 จากจีนของกองทัพบก ในระยะที่ 2 จำนวนเงินประมาณ 2,000 ล้านบาทเข้า ครม. สำหรับโครงการจัดซื้อรถถัง VT4 ของกองทัพบก เป็นการจัดซื้อเพื่อทดแทนรถถังเบา M41 ของสหรัฐอเมริกา โดยก่อนหน้านี้กองทัพบกได้ลงนามซื้อรถถัง VT4 จากประเทศจีน ไปแล้ว 28 คัน ในสมัย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี เป็น ผบ.ทบ. ขณะที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ได้พิจารณาจัดหาต่อในระยะ 2 เพื่อให้ครบ 1 กองพัน ในปีงบประมาณ 2560 โดยผูกพันงบประมาณ 3 ปี
“บิ๊กแดง” เรียก “วัชระ” ทำความเข้าใจ
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ถนนราชดำเนิน นายวัชระ เพชรทอง และน ายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ตามที่นัดขอให้มาพบ โดยใช้เวลาพูดคุยนานราว 1 ชั่วโมง พล.ท.อภิรัชต์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า เนื่องจากนายวัชระได้แถลงข่าวและโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเรื่องโควตาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล จนสร้างความสับสนให้กับสังคม จึงเชิญมาทำความเข้าใจ พร้อมอธิบายขั้นตอนในการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลให้กับผู้จำหน่าย ยืนยันว่าตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่ประธานคณะกรรมการสลากกิน แบ่งรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาได้แล้วกว่าร้อยละ 80 แต่บางอย่างต้องบังคับใช้ด้วยกฎหมายอาจจะล่าช้าไปบ้าง ขณะที่นายวัชระเผยว่า พล.ท.อภิรัชต์บอกว่ากรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลรวมชุดมีราคาแพงที่ชาวบ้านร้องเรียนตนนั้น กำลังแก้ไขปัญหา ในยุคของ พล.ท.อภิรัชต์ได้จัดการแก้ไขปัญหาการผูกขาดสลากกินแบ่งรัฐบาลจากกลุ่ม 5 เสือแล้ว
ถอนคดี คปพ.ชุมนุม
วันเดียวกัน ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้อง กรณีที่พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณามีคำสั่งยุติการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย หรือ คปพ.ในข้อหาการละเมิดพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 จากกรณีที่กลุ่ม คปพ. รวม กลุ่มชุมนุมคัดค้านการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียมของ สนช. ที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ศาลแพ่งจึงออกหมายเรียกนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำกับพวกรวม 10 คน มาไต่สวน ภายหลังใช้เวลา 1 ชั่วโมง นายปานเทพกล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ผู้ร้อง แถลงขอถอนคำร้องเนื่องจากผู้ชุมนุมยกเลิกการชุมนุมแล้ว แกนนำ คปพ.ไม่คัดค้านคำร้อง ศาลจึงอนุญาตให้ถอนคำร้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
“วีระ” อ้างไม่ได้ไปร่วมชุมนุม
เมื่อเวลา 15.00 น. นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รอง ผกก. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีที่ถูกแจ้งข้อหา นำข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) เดินทางมาที่ฝั่งตรงข้ามอาคารรัฐสภา คัดค้าน พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีปิโตรเลียม นายวีระเผยว่า มาตามความคืบหน้าคดีที่ถูกกล่าวหาเรื่องโพสต์โพลสำรวจรัฐบาล และมารับทราบข้อกล่าวหา ไม่แน่ใจข้อหาหมิ่นประมาทหรือไม่ แต่เป็นคดีใหม่ คาดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ตนไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่าตำรวจใช้อำนาจแกล้งประชาชน นอกจากนี้ยังทราบว่าตำรวจ สน.ดุสิตได้ออกหมายเรียกให้ไปพบวันที่ 7 เม.ย. ยังไม่รู้ว่าข้อหาอะไร แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องการที่ตนไปอยู่แถวสวนสัตว์ดุสิต วันนั้นไม่ได้ไปร่วมชุมนุม ไปหาเพื่อนแล้วก็กลับ ส่วนหมายเรียกต้องกลับไปดูที่บ้านก่อน ไม่รู้มาหรือยัง
“ศุภชัย” ซาบซึ้ง ศก.พอเพียง
ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน” ในงานมหกรรมส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดขึ้น ว่า สหประชาชาติเห็นความสำคัญของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการพัฒนาด้านการเกษตรและนำไปปฏิบัติตาม ปัญหาของระบบทุนนิยมทำให้หลักเศรษฐกิจพอเพียงมีความหมายยิ่งขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกมีปัญหา จึงต้องกลับมาคิดว่าการพึ่งพาตลาดทุนนิยมเป็นสิ่งถูกต้องหรือไม่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 รับสั่งเสมอว่าศาสตร์ของพระองค์ไม่มีอะไร เพราะไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แต่เป็นเรื่องการปฏิบัติ สร้างภูมิคุ้มกัน ไม่เบียดเบียนคนอื่น รู้จักประเมินตน ทุกอย่างเป็นปรัชญาชีวิต เชื่อมโยงกับงานของประเทศไทยที่ต้องใช้เงินช่วยเหลือคนที่มีการลงทะเบียนคนจนมีรายได้น้อย การช่วยเหลือเพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภคจึงต้องระวังเป็นอย่างมาก ต้องมีการพัฒนาช่วยให้เกิดความรู้สึกสำนึกด้านการอดออม แนวคิดของพระองค์ท่านถือเป็นเข็มทิศทางจริยธรรมอันใหม่
บัวแก้วไม่นอนใจคำสั่ง “ทรัมป์”
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีข่าวที่ไทยเป็น 1 ใน 16 ประเทศที่อยู่ในรายชื่อที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งผู้บริหารให้ตรวจสอบเพื่อแสวงหามาตรการตอบโต้ประเทศฉ้อโกงที่ทำให้สหรัฐฯเสียดุลการค้าว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานเรื่องมายังกระทรวงแล้ว ไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ คำสั่งผู้บริหารทั้ง 2 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตไทยในสหรัฐฯจะทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการตรวจสอบความคืบหน้าและประเมินผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว ยังไม่อยากให้ตื่นตระหนก เพราะเป็นการประกาศภาพรวมกว้างๆ ไม่ได้ระบุชื่อประเทศใดเป็นการเฉพาะ แต่เข้าใจว่าข้อมูลดังกล่าวน่าจะมาจากรายชื่อประเทศที่สหรัฐฯขาดดุลการค้าอยู่ ฝ่ายสหรัฐฯก็ต้องใช้เวลาในการประเมินข้อเท็จจริงอีก 90 วัน
ม.44 ปฏิรูปการศึกษาภูมิภาค
วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการโดยมีเนื้อหาโดยสรุปว่า อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว หัวหน้า คสช.มีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 10/2559 11/2559 38/2559 และ 1/2560 โดยให้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนการ ปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค มี รมว.ศึกษาธิการเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ กำหนดทิศทางการดำเนินการของกระทรวงศึกษาฯระดับภูมิภาค เกลี่ยอัตรากำลังข้าราชการและงบ ประมาณเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปการศึกษา สั่งให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งต่างๆในหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัดหยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือให้พ้นจากตำแหน่ง พร้อมทั้งกำหนดให้มีสำนักงานศึกษาธิการภาค จำนวน 18 ภาค ขับเคลื่อนการศึกษาระดับภาคและจังหวัด กำหนดยุทธศาสตร์และบทบาทการพัฒนาภาคต่างๆ และกำกับดูแลประเมินผลการดำเนินงานของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบ และในแต่ละจังหวัดให้มีคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด เรียกโดยย่อว่า “กศจ.” มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน กำหนดยุทธศาสตร์แนวทางการจัดการศึกษา และส่งเสริมการจัดการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท เร่งรัดติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาฯ สั่ง ณ วันที่ 3 เม.ย. พ.ศ. 2560
ลาออกยกเซตค้านมติ ป.ป.ช.
วันเดียวกัน มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) มีคำสั่งมหาวิทยาลัยมหิดลที่ 976/2560 เรื่อง ให้พนักงานมหาวิทยาลัยออกจากตำแหน่งประเภทผู้บริหาร โดยระบุว่า ตามที่มหาวิทยาลัยได้มีคำสั่งแต่งตั้งรองอธิการบดีฝ่ายต่างๆของสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 13 ราย บัดนี้บุคคลดังกล่าวมีความประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยพิจารณาแล้วเห็นสมควรอนุมัติให้ลาออกจากตำแหน่งประเภทผู้บริหารได้ตามความประสงค์ จำนวน 13 ราย สั่ง ณ วันที่ 31 มี.ค. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป ขณะเดียวกันยังมีคำสั่งมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ 977/2560 เรื่องแต่งตั้งผู้รักษาการแทนรองอธิการบดี โดยระบุว่าเพื่อให้การดำเนินงานและการบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง ถูกต้อง และเหมาะสม อธิการบดีจึงเห็นสมควรแต่งตั้งผู้รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายต่างๆจำนวน 13 ราย โดยรายชื่อ 13 ราย เป็นชื่อเดียวกับที่ลาออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลาออกดังกล่าว เกี่ยวข้องกับมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ให้รองอธิการบดีต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ระหว่างวันที่ 3 เม.ย.-2 พ.ค.2560 ตามมาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เนื่องจากเกิดความยุ่งยากและขัดข้องในด้านการบริหาร มองว่าระเบียบบังคับขึ้นมากลางคัน ไม่เป็นธรรมต่อผู้ปฏิบัติงาน