มท.ผุดกฎ 6 ข้อล้อมคอกป้องทุจริตงบฯ อปท.อุดหนุนวัด สั่งการทุกจังหวัดยึดหลักเกณฑ์ใช้จ่ายเงิน ด้าน "สุทธิพงษ์" เผย มท.พร้อมพัฒนา "บ้าน-วัด-โรงเรียน" สร้างสังคมสุข ลดความเหลื่อมล้ำ

เมื่อวันที่ 2 เม.ย.60 จากกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้มีข้อทักท้วงการดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายแห่ง กรณีตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่วัด โดยเห็นว่าโครงการที่วัดขอรับเงินอุดหนุนนั้น ไม่ใช่ภารกิจที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และวัดยังไม่มีระเบียบหลักเกณฑ์ หรือข้อบังคับเกี่ยวกับระบบการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการควบคุมการใช้จ่ายเงินอุดหนุนดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ ซึ่งอาจนำไปสู่ช่องทางในการทุจริตได้ กระทรวงมหาดไทยจึงได้ขอความร่วมมือให้ชะลอการตั้งงบสนับสนุนวัดไว้ก่อน จนกระทั่งกระทรวงมหาดไทยได้ออกระเบียบ ว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2559 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.59 ที่ผ่านมา และเวียนแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการใช้จ่ายงบอุดหนุนของท้องถิ่นสนับสนุนวัดได้แล้วนั้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.60 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้มีหนังสือแจ้งกระทรวงมหาดไทยว่า ขณะนี้มหาเถรสมาคม (มส.) ได้ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินอุดหนุนวัดที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสนับสนุนงบประมาณเพื่ออุดหนุนวัดในด้านต่างๆ ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 และข้อสั่งการที่กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ถือปฏิบัติ ทั้งในด้านการจัดทำงบประมาณและการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน และรวมถึงการดำเนินงานตามประกาศของ มส.

...

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยจึงแจ้งทุกจังหวัดให้เน้นย้ำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2559 และให้ประสานวัดในเขตพื้นที่ดำเนินการตามประกาศของ มส.ในการใช้จ่ายเงินอุดหนุนวัดที่ได้รับเงินจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเคร่งครัดด้วย โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.ให้วัดที่ได้รับเงินอุดหนุน ก่อนดำเนินการจะต้องปิดประกาศเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ 2.มีการกำหนดวิธีการให้ได้มาซึ่งผู้ขาย หรือผู้รับจ้าง หรือผู้รับผิดชอบกิจกรรมอย่างชัดเจน โดยวิธีตกลงราคาหรือวิธีคัดเลือก 3.ให้วัดตั้งคณะกรรมการจัดหาพัสดุ หรือคณะกรรมการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า 4.การใช้จ่ายต้องมีหลักฐานเพื่อตรวจสอบ เช่น ใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงินเป็นต้น 5.การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการจัดหาพัสดุตามโครงการหรือกิจกรรม ที่มีวงเงินตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป วัดจะต้องทำหนังสือสัญญาหรือบันทึกข้อตกลงไว้กับผู้ขาย/ผู้รับจ้างไว้เป็นหลักฐาน และ 6.วัดต้องรายงานผลการดำเนินการ พร้อมรายงานการใช้จ่ายเงินและพร้อมส่งคืนหากมีเงินเหลือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า แนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องตรวจสอบว่า หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนมีระเบียบ ข้อบังคับหลักเกณฑ์ หรือวิธีปฏิบัติเพียงพอท่ีจะนำเงินอุดหนุนที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และหากหน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนไม่มีหลักฐานแสดงในเรื่องดังกล่าว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถพิจารณาไม่จัดตั้งงบฯ หรือเบิกจ่ายเงินอุดหนุนไม่มีหลักฐานแสดงในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์ หลักเกณฑ์ ระเบียบ และวิธีการดำเนินงานให้ทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมให้การสนับสนุนกิจกรรมของชุมชน ภายใต้แนวคิด "บ-ว-ร" มุ่งพัฒนา "บ้าน-วัด-โรงเรียน" เพื่อร่วมพัฒนาสังคมและชุมชนให้เกิดความรักสามัคคี และสร้างโอกาส สร้างความสุข และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยต่อไป.