‘บิ๊กตู่ ’ปิด‘ ใบสั่ง’-ขออย่าระแวง

“พรเพชร” เด้งสอบสินบนซีซีทีวีสภาฉาว ขอ ป.ป.ช.-สตง.ประสานข้อมูลสหรัฐฯ พร้อมตั้ง กก.สอบถ้าพบผิดฟันไม่เลี้ยง “อาคม” รอดูผลสอบการบินไทย “สุวพันธุ์” เรียกถกชุดใหญ่ ป.ป.ช.-สตง.-ป.ป.ท.-ปปง.เร่งปิดเกมปมสินบน “ปึ้ง” จี้เร่งปราบทุจริตให้จริง “ชาญชัย” ยุงัด ม.44 ล้างโกง “ประยุทธ์” ลั่นวางยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้ทำส่งเดช ปรองดองต้องคุยจนกว่าจะจบ แต่ไม่ไปสั่งใครทั้งนั้น “บิ๊กป้อม” จัดเวิร์กช็อป ป.ย.ป.ให้สอดรับแผน ยังไม่ปลดล็อกฝ่ายการเมืองหวั่นทำนอกลู่ “มีชัย” ย้ำหลักการ รธน.ใหม่ สื่อต้องปฏิรูปกันเอง แนะเปิดช่องระบายเคลียร์ สปท.ให้รู้เรื่อง นายกฯปัดออกใบสั่งคุมสื่อ อย่าระแวง ไม่มีใครกลั่นแกล้งได้ “จ้อน” อ้างหวังปลดแอกทุนสามานย์ ป.ป.ช.เปิดกรุ ครม. “ประยุทธ์ 4” 4 รมต.ป้ายแดงสุดอู้ฟู่ ม็อบแนวร่วม กปปส.อ่วมศาลสั่งชดใช้ร่วมร้อยล้าน

ประเด็นการจ่ายเงินสินบนเพื่อให้ได้งานจากหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจของไทย เริ่มขยายวงออกไป หลังหน่วยงานตรวจสอบการทุจริตของประเทศต่างๆ ทยอยเปิดข้อมูลออกมาต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ต้องขอให้หน่วยตรวจสอบประสานขอข้อมูลจากต่างประเทศ

ขอ ป.ป.ช.–สตง.ประสานสหรัฐฯ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 31 ม.ค.ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริการะบุว่ามีการจ่ายสินบนแก่บุคคลที่อ้างตัวเป็นที่ปรึกษาในโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) ของรัฐสภาไทย ว่า ได้รับรายงานทั้งหมดแล้ว พบข้อเท็จจริงว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างกล้องซีซีทีวี 2 ครั้ง ครั้งแรกอนุมัติเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2549 วงเงิน 29 ล้านบาทเศษ และครั้งที่สองอนุมัติเมื่อวันที่ 23 ก.พ.2552 วงเงิน 26.9 ล้านบาท ได้รับรายงานว่าเป็นการประมูลตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างปกติ ไม่มีอะไรผิดปกติตามที่เป็นข้อกล่าวหา สำหรับข้อมูลจากสหรัฐฯที่อ้างว่ามีการจ่ายเงินให้ที่ปรึกษาสภาฯ อยากประสานงานขอข้อมูลจากต่างประเทศ แต่คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้อง คือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จึงอยากให้ ป.ป.ช.และ สตง. ช่วยประสานขอข้อมูลและข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย

...

ตั้ง กก.สอบพบผิดฟันไม่เลี้ยง

“เรื่องนี้ผมจะตั้งกรรมการตรวจสอบและดำเนินการให้ถูกต้อง คาดว่าจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่ขอเวลาหน่อย ถ้าพบการทุจริตจริง แล้วผู้กระทำผิดเป็นข้าราชการต้องตั้งคณะกรรมการลงโทษทางวินัย แต่หากพ้นจากตำแหน่ง หรือเกษียณอายุราชการไปแล้ว ต้องดำเนินคดี ยิ่งถ้าพบว่าเป็นบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมทุจริต ต้องเร่งส่งดำเนินคดีทางอาญา” ประธาน สนช.กล่าว

สถานทูตอังกฤษตามเรื่องอยู่

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการประสานขอข้อมูลสำนักงานปราบปรามการทุจริต ของประเทศอังกฤษ (เอสเอฟโอ) ให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีสินบนบริษัทโรลส์รอยซ์ ว่า ในฐานะตัวแทนรัฐบาลจะสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้อย่างชอบธรรมและถูกต้อง ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ประสานกับเอสเอฟโอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว รวมทั้งการขอข้อมูลการรับสินบนที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯออกมาเปิดเผยด้วย

“อาคม” รอดูผลสอบการบินไทย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีบริษัท โรลส์รอยซ์ ยอมรับต่อสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษ (Serious Fraud Office: SFO) ว่าได้จ่ายสินบนในหลายประเทศที่ทำการซื้อขายเครื่องยนต์ของโรลส์รอยซ์ รวมถึงประเทศไทยระหว่างปี 2534-2548 ว่า วันที่ 2 ก.พ.จะครบกำหนด 15 วัน ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยจะส่งรายละเอียดผลการตรวจสอบเบื้องต้นให้กระทรวงคมนาคมรับทราบ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรหลังได้รับข้อมูลจากการบินไทยมาแล้ว ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องดำเนินการอะไรต่อหรือไม่ ต้องรอรายละเอียดข้อมูลการตรวจสอบก่อน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ถ้า ป.ป.ช.อยากให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรพร้อมอยู่แล้ว ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานมา จะให้ตำรวจดำเนินการอย่างไรยินดีอยู่แล้ว

เรียกหน่วยตรวจสอบถกปมสินบน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 1 ก.พ. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบกรณีสินบนข้ามชาติ ทั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. สตง. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมหารือถึงการแก้ไขปัญหาการเรียกรับสินบน เพื่อวางมาตรการการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ที่กระทรวงยุติธรรม

“บิ๊กตู่” ขึงขังไม่ให้โอกาสคนโกง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ให้ความสนใจและเน้นย้ำให้ประชาชนสร้างการรับรู้ว่าปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชันอยู่ที่ไหน ต้องการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ ว่างบประมาณของรัฐบาลโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกอย่างมีเหตุผลมีที่มาที่ไป มีกลไกบริหารจัดการ โครงการต่างๆที่รัฐบาลทำจะไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น หากมีคนทำผิดนายกฯเน้นย้ำว่าต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม จะไม่ให้โอกาสกับคนทุจริตอีกต่อไป

จัดหลักสูตรปลูกฝังข้าราชการ

พ.อ.หญิงทักษดากล่าวว่า นายกฯกล่าวต่อที่ประชุมให้ความสำคัญในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ โดยมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปพูดคุยกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) รวมถึงศึกษาโครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในระบบราชการ เพื่อจัดทำหลักสูตรสั้นเพื่อข้าราชการผู้บริหารระดับสูง ให้เข้าใจการทำงานทั้งหมดของรัฐบาล เมื่อผู้บริหารระดับสูงเข้าใจในขั้นตอนการทำงานและแนวคิดของรัฐบาลแล้ว จะได้ส่งต่อความเข้าใจนั้นให้กับเจ้าหน้าที่ระดับล่าง เพื่อการขับเคลื่อนทุกภาคส่วนไปพร้อมเพรียงกัน เพราะปัจจุบันนี้มีแต่เพียงผู้บริหารระดับบนเท่านั้น ทำให้เกิดการมองภาพว่า การทำงานของรัฐบาลไม่มีผลสัมฤทธิ์เกิดขึ้น และยังมีอีกหลักสูตรที่นายกฯให้ความสนใจ คือระดับเตรียมข้าราชการ เพื่อสร้างวิสัยทัศน์ จะให้การอบรมในระดับรองผู้บริหารลงมา คนเหล่านี้ต้องก้าวมาเป็นผู้บริหารในอนาคต ดังนั้นคนกลุ่มนี้จะได้มีโอกาสแสดงวิสัยทัศน์และเตรียมตัว เพื่อให้รู้ว่ารัฐบาลทำงานอะไรแล้วบ้าง เป็นการสานงานต่อไป

ร่าง พ.ร.บ.สามชั่วโคตรถึงมือ สนช.

ด้านนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกากล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดระหว่างประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวม ว่า ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไปยัง สนช.แล้ว มุ่งเน้นมาตรการป้องกันการทุจริต การมีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหลายของรัฐ ห้ามรับของหรือสิ่งอื่นใด และมาตรการอื่น อาทิ ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐที่พ้นจากตำแหน่งยังไม่ถึง 2 ปี ไปทำงานเป็นที่ปรึกษาบริษัทอื่นไม่ได้ และยังต้องรักษาความลับที่รู้นั้นอยู่จนกว่าความลับนั้นจะถูกเปิดเผย รวมถึงเรื่องสัญญาที่เป็นสัญญาสัมปทาน ถ้าพบมีการเอื้อประโยชน์ หรือมีส่วนได้เสีย สามารถระงับ และขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาได้ และการห้ามบุคคลของรัฐเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ สำหรับการรับโทษไม่ได้เป็นการเอาผิดถึง 7 ชั่วโคตร แต่ปรับเป็นการเอาผิดเพียง 3 ชั่วโคตร คือ เฉพาะบิดา มารดา ผู้สืบสันดาน ญาติพี่น้อง บุตร โดยตัดลุง ป้า อา ออก

“ปึ้ง” จี้เร่งปราบทุจริตให้จริง

ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศและแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเด็นการรับเงินสินบนของหน่วยงานต่างๆที่ทยอยเปิดข้อมูลออกมา เป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข ไม่เช่นนั้นการทุจริตในไทยจะถูกโจษขานในแวดวงนักลงทุนต่างชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะเกิดคำถามตามมาว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะปราบโกงได้จริงหรือไม่ รัฐบาลจะมัวปฏิเสธและกล่าวหาผลการจัดอันดับทุจริตว่าไม่น่าเชื่อถือก็น่าเป็นห่วง ทั้งที่ควรรู้ว่าการทุจริตคอร์รัปชันในแวดวงราชการของไทย มีมาต่อเนื่องและยาวนาน และมักมีขบวนการที่ชอบโยนความผิดและความชั่วไปให้นักการเมือง แต่หากสังเกตต่างชาติจะพูดถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจเข้าไปเกี่ยวข้อง แทบไม่มีการบ่งชี้เลยว่ามีนักการเมืองเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย

“อ๋อย” ซัดทำกันสะเปะสะปะ

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า กรณีสินบนโรลส์รอยซ์ในรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง ความสนใจดูจะพุ่งไปในประเด็นเกิดในรัฐบาลไหน นักการเมืองคนใดเกี่ยวข้อง ใครเป็นผู้รับสินบนบ้าง ไม่ได้คัดค้านและเชียร์ให้ตรวจสอบเต็มที่ แต่ที่ห่วงคือปัญหาเชิงระบบถูกละเลย ผู้มีอำนาจปัจจุบันให้ความสนใจน้อย ทำแบบสะเปะสะปะ ทั้งปัญหาการผูกขาดทางธุรกิจ ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมาย รัฐวิสาหกิจหลายแห่งไม่เปิดเผยข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างให้ครบถ้วน ส่วนการหาทางป้องกันรัฐมนตรีตั้งคนของตัวเข้าไปเป็นบอร์ดนั้น ควรทำช่วงที่กำลังปฏิรูป แต่ก็แปลก 2-3 ปีนี้กลับปล่อยให้มีการตั้งบอร์ดแบบไม่มีหลักมีเกณฑ์กันสนุกสนาน บอร์ดรัฐวิสาหกิจสำคัญเกือบทุกแห่ง ต้องมีตัวแทนคสช. หรือกระทรวงกลาโหม ไปนั่งกันเป็นแถว

“บิ๊กตู่” ขออย่าอินนิยายน้ำเน่า

วันเดียวกันเวลา 09.00 น.ที่หน้าตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ นำคณะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์ เนื่องในโอกาสวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 60 โดยนายกฯได้ชมผลงาน อาทิ ฟิตเนสพกพา ผ้าจากเปลือกฝักข้าวโพด อากาศยานไร้คนขับ สนามจินตนาการในร่มสำหรับเด็กผู้บกพร่องทางการมองเห็น จากนั้นกล่าวกับเยาวชนที่นำผลงานมาร่วมแสดงว่า ผลงานทำทีเดียวเสร็จไหม ผู้ใหญ่บางคนจะเอาทีเดียวเสร็จ อย่างการอ่านหนังสือต้องคิดเป็น แยกแยะเป็น ไม่ใช่อ่านหรือใครบอกอะไรมาเชื่อหมด เหมือนพวกนิยายน้ำเน่า ต้องคิด อย่ามโน รัฐบาลกำลังทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ต้องให้กำลังใจผู้คิดค้นและนักประดิษฐ์ ถ้าไม่มีคนเหล่านี้เรายังคิดดักดานเหมือนเดิม อยู่แต่ไอ้คำว่าปรองดอง ประชาธิปไตยสิทธิมนุษยชน นั้นแหละ

บ่นพึมสื่อเหมารวม ขรก.ห่วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกฯ ได้หันมาพูดกับนักข่าวด้วยน้ำเสียงดุดันว่า วันนี้มีทหารไว้ทำอะไร มีเอาไว้ใช้งานอย่างไรล่ะ น้ำท่วม ฝนแล้ง วาตภัย ทุกอย่างใช้ทหารหมด ส่วนคนไม่ดีก็คือไม่ดี ต้องแยกออกจากกันอย่าไปเหมารวม เดี๋ยวองค์กรเขาเสียหาย ข้าราชการทำผิดทุจริตก็ต้องดำเนินการสอบสวนทางวินัย

ต่อมาคุณหญิงแสงเดือน ณ นคร ประธานมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เข้าพบนายกฯ และนำนักเรียนนายเรืออากาศ ร่วมจำหน่ายดอกป๊อปปี้ เนื่องในวันทหารผ่านศึก โดยนายกฯร่วมซื้อดอกป๊อปปี้ด้วย ขณะที่คุณหญิงแสงเดือนมอบเงิน 100,000 บาท สมทบช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ด้วย

ยุทธศาสตร์ชาติไม่ทำส่งเดช

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. แถลงหลังการประชุม ครม. ถึงการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ระยะเวลา 1 ปีจากนี้ไป ว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติแล้ว 6 เรื่อง จะส่งต่อไปอีก 4 ปีข้างหน้ารัฐบาลชุดหน้าต้องสานงานต่อตามยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้ แต่ยุทธศาสตร์ชาติที่เราวางไป 20 ปี ไม่ได้วางส่งเดช เมื่อผ่านไปทุก 5 ปีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์โลก เช่น วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐอเมริกา ก็ต้องมาปรับไม่ได้เขียนว่าต้องทำตามทั้งหมด อยู่ที่ประชาชนจะเลือกคนบริหารที่ดีเข้ามา เพราะวางพื้นฐานไว้ให้แล้ว

ปรองดองต้องคุยจนกว่าจะจบ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนคณะกรรมการปรองดองคงคุยกันครั้งเดียวไม่จบ แต่ก็คุยจนกว่าจะจบ จนกว่าจะได้เรื่องอย่าไปบังคับมากนัก เลือกตั้งมาแล้วไม่จบก็คือไม่จบก็เลือกตั้งไป เป็นเรื่องของทุกคน อยากได้อย่างไรก็ทำไป ถ้าคุยกันไม่ได้ก็ทำไม่ได้ การปรองดองทำได้หลายอย่างไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองหรือคดีความ แต่ส่วนหนึ่งที่คณะกรรมการปรองดองต้องทำ คือ เรื่องความขัดแย้งในการบริหารราชการแผ่นดิน ตรงนี้ต้องนำไปพิจารณาด้วย มอบนโยบายและแนวทางการทำงาน รวมถึงโครงสร้างให้ทุกคณะไปแล้ว จากนี้ต้องไปขับเคลื่อนข้างล่าง นำนโยบายตนไปดำเนินการซึ่งสอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาล วันนี้จะเป็นการนำเรื่องที่ติดปัญหามาขับเคลื่อนให้เร็วขึ้น เป็นการคิดแบบเชิงบริหาร ตนคิดแบบทหาร โดยฝ่ายพลเรือนจะไปแปลงออกเป็นระเบียบ คำสั่ง กฎกระทรวง หากติดกฎหมายก็นำเข้า สนช.วันนี้เริ่มทำงานกันได้แล้ว

ลั่นไม่สั่งให้ใครปรองดองทั้งนั้น