บิ๊กตู่ เป็นประธานเปิดรถไฟชั้น 3 โฉมใหม่ ร่วมเดินทางโบกี้ที่ 9 บริเวณชานชาลาที่ 5 ออกจากหัวลำโพงไป รพ.รามาฯ ก่อนไปเปิดนิทรรศการ ในหลวง ร.9 ยังสถานีรถไฟหลวงจิตรลดา...
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เป็นประธานพิธีเปิดเดินรถไฟโดยสารชั้น 3 ที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อยกระดับการให้บริการ จำนวน 20 ขบวน เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ก่อนจะทยอยปรับปรุงให้ครบ 148 ขบวน ภายในปี 2560 นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมรถดีเซลราง 4 ขบวน ที่ทาง รฟท.นำขบวนรถท้องถิ่นสายตะวันออกเฉียงเหนือ มาปรับปรุงทั้งภายในและภายนอก เพื่อส่งมอบให้กัมพูชาต้นปี 2560
นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ดูความก้าวหน้าการปฏิรูปการรถไฟ เพราะทุกสิ่งของประเทศไทยมีการพัฒนาตามลำดับ แต่วันนี้รัฐบาลต้องลงมามอบนโยบายการปฏิบัติ มาดูในรายละเอียด ไม่ใช่สั่งงานอย่างเดียว และรัฐบาลพยายามรับฟังความเห็นของประชาชนเพื่อตอบสนองความต้องการ วันนี้ถือเป็นความฝันในรอบ 60 ปี ของการรถไฟ
...
ทั้งนี้ นอกจากเรื่องของรถไฟแล้วยังต้องดูในเรื่องระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงการแก้ปัญหาการจราจร โดยรัฐบาลคิดทั้งระบบ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องคิดตรงกัน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ แต่วันนี้ถือว่าทุกคนเห็นตรงกันแล้ว พร้อมเน้นย้ำถึงความพอใจของประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งที่ผ่านมามีการปรับปรุงรถไฟชั้นอื่นแล้ว อย่าลืมชั้น 3 เพราะโดยสารรถไฟชั้น 3 ก็ต้องการรถใหม่ และสะอาด จึงต้องทำให้ประชาชนได้สัมผัสว่าเป็นรถไฟของทุกอาชีพ ทุกระดับ ขณะเดียวกันรถไฟชั้น 1 ถูกจองล่วงหน้ายาวถึง 6 เดือน แสดงว่ามีการปรับปรุงที่ดีขึ้น ดังนั้นจึงต้องพัฒนาระบบขนส่งอย่างอื่นด้วย และเราต้องทำให้รถไฟสายประเทศเป็นขบวนเดียวกันให้ได้ในอนาคต
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการสร้างความเข้าใจ วันนี้เห็นในสื่อยังแสดงให้เห็นว่ามีความไม่เข้าใจว่ารัฐบาลคิดและทำอะไร จึงขอให้สร้างความเข้าใจใหม่ เพราะหลายอย่างยังอยู่ที่เดิมในแง่การรับรู้ และความเข้าใจ ซึ่งตนพูดคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันพูดว่ารัฐบาลทำเพื่อใคร ซึ่งวันนี้รัฐบาลทำทั้งปรับปรุงรถไฟเก่า และจัดหารถไฟใหม่ ถือเป็นสิ่งใหม่ทั้งสิ้น เพราะหลายอย่างไม่เคยเกิดขึ้น ดังนั้นจึงเป็นความภาคภูมิใจขององค์กร โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยไปรังแกใคร แต่อยากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และขอให้ทั้งลูกจ้าง และสหภาพร่วมมือกับรัฐบาล มองถึงผลประโยชน์ของประชาชน
นอกจากนี้ในวันข้างหน้าอยากให้มีการพัฒนาให้รถไฟวิ่งผ่านอุโมงค์ แล้วมีน้ำฉีดเพื่อล้างรถไฟ เพราะรถไฟเป็นยานพาหนะเดียวที่มีราคาถูกในระยะยาว ซึ่งในประเทศพัฒนาต่าง ๆ ก็พัฒนาจากม้าเป็นรถไฟ และรถไฟความเร็วสูง ส่วนไทยอาจจะพัฒนาได้ไม่ทัน แต่ก็ขอให้ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าพัฒนาตามระยะเวลาที่มีอยู่ และต้องนำพาทุกคนไปด้วยกันเพราะเป็นคนไทยทั้งสิ้น
"จึงขออย่าหลงเชื่อการบิดเบือน ขณะเดียวกันรัฐบาลได้เน้นย้ำในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส ต้องไม่มองว่าทุจริตตั้งแต่ต้น เว้นแต่มีหลักฐานต้องตรวจสอบ และไม่ต้องการให้ล่าช้า และไม่เคยรู้จักใครในกระบวนการซื้อขายรถไฟ ไม่มีญาติหรือพี่น้องที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ถึงมีก็ไม่ทำให้ เพราะต้องการทำให้คนไทย ดังนั้นเรื่องผลประโยชน์จะมาพูดกับตนไม่ได้"
อย่างไรก็ตาม รถไฟความเร็วสูงจำเป็นต้องมี แต่ค่อยๆ พัฒนาไปตามขีดความสามารถที่เป็นธรรม วันนี้ขอมอบนโยบายว่าภายในปี 60 จะต้องมีที่จอดรถใต้ดินขนาดใหญ่เชื่อมโยงกับระบบรางรถไฟ โดยเฉพาะในพื้นที่ธุรกิจ สถานที่ราชการ เพื่อการเชื่อมต่อ และแก้ปัญหาจราจรติดขัด เชื่อว่าภาคธุรกิจพร้อมร่วมมือ
พร้อมอยากให้มีการนำรถไฟโบราณมาวิ่งในบางเส้นทาง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว วันนี้ทุกอย่างต้องใช้เวลา แก้ทั้งระเบียบและกฎหมาย ทำงาน 2 ปีผ่านมา จนกระทั่งมีวันนี้ และอย่าลืมว่าประชาชนต้องการอะไร ทุกคนคือคนไทยจึงต้องทำหน้าที่เพื่อคนไทยไม่ว่าจะรัฐบาลนี้ หรือรัฐบาลหน้า จึงขอให้วันหน้าได้รัฐบาลที่เหมาะสมก็แล้วกัน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะ อาทิ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ขึ้นขบวนรถไฟโดยสารชั้น 3 บริเวณชานชาลาที่ 5 ร่วมเดินทาง โดยนั่งโบกี้ที่ 9 ออกจากหัวลำโพง โดยตลอดเส้นทางได้โบกมือทักทายประชาชน กระทั่งถึงที่หมายบริเวณป้ายหยุดรถโรงพยาบาลรามาธิบดี ก่อนทำพิธีเปิดนิทรรศการในหลวง (รัชกาลที่ 9 ) กับการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดแสดงที่สถานีรถไฟหลวงจิตรลดา ระหว่างวันที่ 21-25 ธ.ค.นี้.