ข้อมูลถูกต้องแล้วปฏิบัติ สมเหตุการณ์และเหตุผล

นายกฯนำ ครม.ใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์สมเด็จพระเจ้า อยู่หัวฯทรงขอให้ รมต.ใหม่กระตือรือร้น อดทน รอบคอบ ปฏิบัติให้เหมาะสมเหตุผลและสถานการณ์ “พรเพชร” ยัน สนช.พิจารณา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์รอบคอบ คิดถึงสมดุลอำนาจรัฐกับสิทธิเสรีภาพ มี กก.กลั่นกรองภาคประชาชนร่วมด้วย พร้อมเปิดเวทีถกเหตุผลกับฝ่ายเห็นต่าง แต่ยันชะลอหรือยกเลิกไม่ได้แล้ว ทบ.เฝ้าระวังแฮกเกอร์ไทย-เทศคุกคาม เผยถูกเจาะเว็บแต่ป้องกันได้ วอนหยุดล้วงตับราชการ ผบ.ตร.ขู่ลั่นนักเลงคีย์บอร์ดระวังตัว เหยียบจมูกรัฐบาลถึงคิวเว็บทำเนียบล่ม กลุ่มต้านเล็งล่ารายชื่อขอ สนช.ยกเลิก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพจพลเมืองต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์ประกาศทำสงครามไซเบอร์ 20 ธ.ค. กร้าวงานนี้หลีกเลี่ยงสูญเสียไม่ได้ สนช.เตรียมเปิดพื้นที่ฝ่ายเกี่ยวข้อง ก.ม.ลูกเป็น กมธ. กกต.เถียงเบาๆ กกต.จังหวัดยังจำเป็น แต่พร้อมปรับจูนทิศทางตาม กรธ. 6 องค์กรสื่อค้าน สปท. ชง ก.ม.แทรกแซง ควบคุมสื่อ

กระแสต่อต้านร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่เพิ่งผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตรียมประกาศใช้เป็นกฎหมายยังคุกรุ่น หน่วยงานราชการสั่งเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีของแฮกเกอร์ และกลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ตที่ไม่เห็นด้วย ขณะที่ฝ่ายต่อต้านยังคงเดินหน้ายับยั้ง

“พรเพชร” ยันรอบคอบ พ.ร.บ.คอมฯ

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. เวลา 11.15 น. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สนช.มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ว่า เมื่อกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาสนช. ตนได้ให้หลักการพิจารณาอย่างรอบคอบ รับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน หาจุดเหมาะสมหรือดุลยภาพระหว่างการใช้อำนาจของรัฐกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ร่างกฎหมายนี้เป็นการแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ของเดิมจากปี 2550 ถือว่าดีกว่าเดิม เพราะมีการทอนอำนาจของเจ้าพนักงาน โดยยังคงอำนาจศาลเอาไว้ แต่เพิ่มคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลข่าวสารที่มีภาคประชาชนเข้ามาร่วม ขณะที่รัฐมนตรีไม่ได้ใช้อำนาจพิจารณาเอง แต่ต้องไปร้องต่อศาล ถ้าศาลเห็นด้วยจึงจะระงับได้ ยืนยันว่าการปิดหรือระงับใช้ข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์หลายประเทศ อ่อนแอกว่าไทย ไม่ทัดเทียม ไม่มีการไปศาล แต่ของไทยมีการพัฒนา

...

พร้อมเปิดเวทีถกเหตุผลคนเห็นต่าง

นายพรเพชรกล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวมีมาแล้วตั้งแต่ปี 2550 สำหรับองค์กรภาคประชาชนที่ออกมาคัดค้านนั้น อยากให้มาพูดคุยกันด้วยเหตุผลว่าไม่เห็นด้วยตรงไหนที่ขัดกับสิทธิเสรีภาพ สนช.พร้อมเปิดเวทีให้เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยน แต่ไม่อยากให้กล่าวหาโยงกับเรื่องซิงเกิลเกตเวย์ กฎหมายนี้ควบคุมการทำงานของเจ้าพนักงาน ไม่ให้แทรกแซงข้อมูลของประชาชน หากพบเจ้าหน้าที่กระทำผิดจะถูกลงโทษมากกว่าคนอื่นหนักเป็น 3 เท่า กรณีที่มีผู้ลงชื่อคัดค้าน 3 แสนรายชื่อนั้น อยากให้พิจารณาว่าเป็นการแก้ไขกฎหมายที่ใช้มานานเป็น 10 ปี มีข้อบกพร่อง จุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง จากเดิมที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่มากเกินไป กมธ.มีการแก้ไขจากร่างที่รัฐบาลเสนอเข้ามามากมาย อยากให้ดูกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย

ลั่นชะลอหรือยกเลิกไม่ได้แล้ว

“ผมเป็นห่วงที่มีการนำข้อมูลในบัตรประชาชนหรือพร้อมเพย์ไปใช้ หากมีกฎหมายดังกล่าวออกมาจะช่วยเพิ่มการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวได้เป็นอย่างดี อยากให้เครือข่ายภาคประชาชนช่วยกันผลักดันกฎหมายนี้ จะทำให้ควบคุมเจ้าหน้าที่รัฐที่ควบคุมดูและระบบคอมพิวเตอร์ไปได้อย่างเหมาะสม ส่วนที่มีข้อเรียกร้องให้ชะลอการประกาศใช้กฎหมายออกไปก่อนนั้น ไม่สามารถทำได้ กฎหมายได้ผ่านการพิจารณา สนช.ไปแล้ว หาก สนช.ไม่ให้ผ่านจะกลับไปใช้กฎหมายเก่าเมื่อปี 2550 หรืออย่างไร กรณีมีการเตรียมโจมตีเว็บไซต์ราชการนั้น ก็ป้องกันเท่าที่ทำได้ คนที่เก่งในระบบคอมพิวเตอร์สามารถทำได้ เนื่องจากไม่สามารถลงทุนได้ขนาดนั้น” นายพรเพชรกล่าว

ทบ.เฝ้าระวังแฮกเกอร์คุกคาม

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.ฤทธี อินทราวุธ ผอ.ศูนย์ไซเบอร์ กองทัพบก (ศซบ.ทบ.) กล่าวถึงสถานการณ์การโจมตีเว็บไซต์และการเจาะระบบหน่วยงานราชการอย่างผิดปกติในขณะนี้ว่า มีความเคลื่อนไหวต่างๆของกลุ่ม Hacker โดยเฉพาะจากต่างประเทศ จึงขอให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มความระมัดระวังด้านมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ port ช่องทางการเข้า-ออกระบบต่างๆ หากไม่มีความจำเป็นให้ปิดการใช้งานเป็นการชั่วคราว กำหนดมาตรการความปลอดภัยของ Firewall ให้เข้มงวดมากขึ้น เฝ้าระวังตรวจสอบการโจมตี รวมถึงการบุกรุกตลอดเวลา ควรประสานและแสวงหาความร่วมมือด้านความรู้ทางเทคนิคในการป้องกันจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อรับมือการโจมตี

ปรามนักเลงไซเบอร์หยุดล้วงตับ

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์กระทรวงกลาโหมโดนกลุ่มบุคคลแฮกข้อมูลเพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. มีกลุ่มบุคคลพยายามเจาะข้อมูลเว็บไซต์กระทรวงกลาโหมแต่ไม่สำเร็จ ขอความร่วมมือให้หยุดกระทำดังกล่าว เพราะเกิดความเสียหายกับหน่วยงานราชการและประเทศชาติประชาชน คนไทยจะมาโจมตีกันเองเพียงเพราะความไม่เข้าใจร่างกฎหมายดังกล่าวคงไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหา ส่วนที่มีเว็บไซต์ต่างชาติเข้ามาร่วมโจมตีด้วยก็ขอความร่วมมือไปยังต่างชาติ เพราะเป็นการทำลายสร้างความเสียหายให้หน่วยงานราชการ ส่วนที่นัดหมายในวันที่ 20 ธ.ค. เพื่อเข้าโจมตีเว็บไซต์หน่วยงานราชการครั้งใหญ่นั้น อยากขอความร่วมมือให้หยุดกระทำ

ผบ.ตร.คำรามลั่นให้ระวังตัว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงกลุ่มต่อต้านร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เป็นผู้ดำเนินการไปแล้ว กรณีที่มีการแฮกคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานราชการต่างๆนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่โดน สำหรับผู้ที่แฮกคอมพิวเตอร์อยากฝากให้ระวังตัวไว้ก็แล้วกัน ตนอยากจะบอกว่าร่างกฎหมายที่ออกมาทุกอย่างที่ออกมาต้องมีประโยชน์ ถ้าไม่มีประโยชน์จะออกมาทำไม

เหยียบจมูก รบ.เว็บทำเนียบฯล่ม

ช่วงเย็นวันเดียวกัน เวลา 16.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลที่ประจำทั้ง 3 ห้องปฏิบัติการผู้สื่อข่าวหรือรังนกกระจอก ไม่สามารถเข้าไปใช้เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล www.thaigov.go.th  สํานักนายกรัฐมนตรี และเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา www.ratchakitcha.soc.go.th  สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และเว็บไซต์ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ www.nsc.go.th  ได้ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าได้เกิดปัญหาหลังกลุ่มต่อต้านร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ นัดโจมตีเว็บไซต์หน่วยงานราชการพร้อมกัน เมื่อผู้สื่อข่าวมีการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ยืนยันว่าเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล ยังสามารถเปิดได้ตามปกติและได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวได้ดู พบว่าเปิดได้จริง แต่ได้รับการชี้แจงที่เปิดได้ อาจเป็นเพราะส่วนของสำนักงานในทำเนียบฯใช้เซิร์ฟเวอร์คนละตัวกับห้องผู้สื่อข่าว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สำนักราชกิจจานุเบกษา ในส่วนของเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้รับการชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ทางเทคนิคกำลังแก้ไขอยู่ กระทั่งเวลา 17.00 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาจึงกลับมาใช้ได้ตามปกติ

กลุ่มต้านเล็งล่ารายชื่อขอยกเลิก

ด้าน น.ส.อ้อมทิพย์ เกิดผลานันท์ นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนกลุ่ม Free Internet Society of Thailand (FIST) กล่าวว่า หลังจากกลุ่มออกมาทำกิจกรรมชูป้ายคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ ได้มีเสียงสะท้อนตอบรับการคัดค้านมากขึ้น เพราะคนเห็นว่าสิทธิส่วนตัวกำลังจะถูกละเมิด แต่ที่มีคนออกมาร่วมกิจกรรมน้อย อาจเพราะรัฐมีการออกข่าวว่าอาจจะมีความผิด ประกอบกับพื้นที่จัดกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปควบคุมไว้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำก็ได้ถูกนำไปเผยแพร่ให้คนได้รับรู้ในวงกว้าง ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง โดยกลุ่ม FIST จะยังเดินหน้าคัดค้านต่อไป ในวันที่ 20 ธ.ค. จะมีการเปิดเพจกลุ่มขึ้นมาประชาสัมพันธ์ และรณรงค์คัดค้านร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งจะล่ารายชื่อประชาชน เพื่อยื่นให้ สนช.พิจารณาทบทวน และยกเลิกร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวที่ยังคลุมเครือ ให้อำนาจรัฐควบคุมอินเตอร์เน็ตไร้ขีดจำกัดอีกครั้ง ทั้งนี้ในอนาคตมีความเป็นไปได้ว่ากลุ่ม FIST จะรวมเข้าเป็นก้อนเดียวกันกับเสียงคัดค้าน 3.6 แสนเสียงที่ไม่ได้รับความสนใจ แต่ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่ออกมาป่วนเว็บไซต์ของหน่วยงานของรัฐในขณะนี้

ประกาศสงครามไซเบอร์แตกหัก

ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก พลเมืองต่อต้าน Single gateway:Thailand Internet Firewall #opsinglegateway ออกแถลงการณ์ยกระดับโจมตีตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. โดยยื่นคำขาดว่า หากภายในวันที่ 19 ธ.ค. รัฐบาลยังไม่มีท่าทีผ่อนปรน ที่จะชะลอกระบวนการและขั้นตอนของร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ออกไป ทางกลุ่มฯขอยกระดับการโจมตีใน Cyber War ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2559 เป็นต้นไป ขอให้ทุกท่านทราบและเตรียมการลดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและธุรกรรมต่างๆไว้ล่วงหน้า นี่คือสงครามไซเบอร์ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการสูญเสีย เสียหาย การลงมติเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา เปรียบเสมือนการรัฐประหารซ้ำในโลกออนไลน์ และนี่คือการต่อต้านการรัฐประหารดังกล่าว

สนช.พร้อมเปิดพื้นที่ให้เป็น กมธ.

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญในชั้น สนช.ว่า ถือว่าโชคดีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดให้เห็นร่างเบื้องต้น ทำให้ สนช.ได้ศึกษาก่อนที่ กรธ.จะเสนอร่างจริงเข้ามา โดย กรธ.จะปรับแก้หรือไม่ก็เป็นสิทธิแต่ต้องมีเหตุผลชี้แจงได้ พอร่างกฎหมายลูกส่งมา สนช.มีเวลาพิจารณา 60 วันให้ทันตามเงื่อนเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด หากไม่เสร็จจะต้องใช้ร่างตามที่ กรธ.เสนอมาประกาศใช้ ส่วนเรื่องสัดส่วน กมธ.วิสามัญที่จะมาร่วมจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็น กมธ.ได้ เช่น ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. จะให้ กกต.เข้ามาเป็น กมธ.ด้วย ส่วนผู้เกี่ยวข้องอื่น เช่น ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ถ้านักการเมืองอยากมีส่วนร่วม ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ ถ้ามีความขัดแย้งกันในเนื้อหา สนช.จะได้รับฟังเหตุผลว่าใครดีกว่า แต่มีข้อจำกัดเนื้อหาต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องคาบเส้นอยู่ที่ใครจะตีความ

กกต.เล็งปรับทิศทางตาม ก.ม.ลูก

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพค เมืองทองธานี นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม เป็นประธานเปิดสัมมนาทบทวนและติดตามประเมินผลการดำเนินงานของวิทยากรกระบวนการ (วพป.) เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ที่จำเป็นให้แก่ วพป. จากนั้นนายประวิชให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 20 ธ.ค. นอกจาก กกต.จะแถลงผลงานครบรอบ 3 ปีของ กกต.แล้ว จะมีการประชุมพิจารณาเกี่ยวกับเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. จะต้องดูว่ามีประเด็นอะไรที่จะต้องมีความเห็นเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนตัวมั่นใจว่าร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งจะออกมาดีและนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองได้ แต่วิธีการปฏิบัติหากมีสิ่งที่ กกต.เห็นว่ายังติดขัดอยู่ก็คงมีความเห็นไปตามสมควร ส่วนเนื้อหากฎหมายที่เพิ่มอำนาจให้ กกต.มากขึ้นต้องมาพิจารณาว่ากกต.จะต้องปรับตัวอย่างไรให้เป็นไปตามทิศทางที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ครวญ กกต.จว.ยังมีความจำเป็น

นายประวิชกล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อมีผู้ตรวจการเลือกตั้งมาแทน กกต.จังหวัดก็ต้องดูว่าจะเดินหน้าตรงไหน ที่ผ่านมา กกต.ได้ทำความเห็นไปยังกรธ.แล้วว่า กกต.จังหวัดยังมีความจำเป็น เพราะช่วยเรื่องจัดการเลือกตั้งและการติดตามต่างๆได้ แต่ที่พูดกันมากว่าไม่อยากให้มี กกต.จังหวัด มีปัญหาเดียวคือความสัมพันธ์กับนักการเมืองท้องถิ่น แต่ก็ชอบพูดกันโดยไม่มีหลักฐาน หากในชั้นการพิจารณาของ สนช.ต้องการความเห็นเพิ่มเติมจาก กกต. ก็พร้อมที่จะนำเสนอข้อมูล สำหรับกรณีเรื่องคุณสมบัติใหม่ของ กกต.ตามรัฐธรรมนูญอาจส่งผลกระทบให้ตนต้องหลุดจากตำแหน่งนั้นไม่รู้สึกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้และหากพูดไปก็จะกลายเป็นการขัดกันของผลประโยชน์

แนะ “บิ๊กตู่” เบรก กรธ.วางกับดัก

นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งของ กรธ.ว่า ภาพรวมการยกร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆและร่างรัฐธรรมนูญพบว่าเนื้อหาของร่างกฎหมายเป็นการวางกับดักประเทศ อันจะก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นอีก ทั้งที่ คสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการชำระสะสางปัญหาของประเทศ แต่กลับวางเฉยต่อการสร้างกติกาประเทศ จึงอยากกราบวิงวอนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. โปรดใช้ความกล้าหาญในเวลาที่เหลืออยู่ เข้ามาทบทวนดูแลการร่างกฎหมายสำคัญของหน่วยงานภายใต้การนำของท่านให้เข้ารูปเข้ารอย ให้สมกับที่ทุกฝ่ายไว้วางใจในตัวนายกฯ หากท่านกล้าทำเช่นนี้แล้ว ประเทศไทยจะพัฒนาเจริญรุ่งเรืองสงบสุขอย่างแน่นอน

นายกฯสั่งทำงานเชิงรุกแก้ทุจริต