เป็นข้อมูลเรื่อง “ในหลวงที่เราเคยรู้และบางเรื่องเราไม่เคยรู้เลย” ซึ่งมีผู้เรียบเรียงเอาไว้อันเป็นพระราชประวัติส่วนหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศที่พสกนิกรชาวไทยน่าจะได้รับรู้ จึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่ออีกทอดหนึ่งด้วยความขอบพระคุณ
ทรงมีพระราชสมภพเวลา 08.45 น.
นายแพทย์ผู้ทำคลอดชื่อ “ดับบลิว สจ๊วด วิตมอร์” ทรงมีน้ำหนักแรกประสูติ 6 ปอนด์
พระนาม “ภูมิพล” ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
พระยศเมื่อแรกประสูติ “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพล อดุลยเดช”
ทรงมีชื่อเล่นว่า “เล็ก” หรือ “พระองค์เล็ก”
ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมาแตร์ เดอี เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ 1 ปี มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า “H.H Bhummibol Mahidol” หมายเลขประจำตัว 449
ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนี (สมเด็จย่า) อย่างสามัญชนว่า “แม่”
สมัยทรงพระเยาว์ทรงได้ค่าขนมอาทิตย์ละครั้ง
แม้ได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์ แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผัก ผลไม้ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาขายปลูกเพิ่ม
สมัยทรงพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิด ทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้งหนึ่งเมื่องูตายไปก็มีพิธีฝังศพอย่างใหญ่โต
สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยทรงพระเยาว์ เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า “บ๊อบบี้”
ทรงฉลองพระเนตร (แว่นสายตา) ตั้งแต่พระชนมายุ 10 พรรษา เพราะครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำพระองค์จะต้องลุกขึ้นบ่อยๆ
สมัยทรงพระเยาว์ทรงซนบ้าง หากสมเด็จย่าจะลงโทษจะเจรจากันก่อนว่าโทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะทรงต่อรองว่า 3 ทีมากเกินไป 2ทีพอแล้ว
...
ระหว่างประทับอยู่สวิตเซอร์แลนด์นั้นระหว่างพี่น้องจะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส แต่จะใช้ภาษาไทยกับสมเด็จย่าเสมอ
ทรงได้รับการอบรมให้รู้จักการให้ โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสิน เรียกว่า “กระป๋องคนจน” เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไรจะต้องถูก “เก็บภาษี” หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าเอาเงินไปทำอะไร เช่นมอบให้โรงเรียนสอนคนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้าหรือกิจกรรมเพื่อคนยากจน
ครั้งหนึ่งในหลวงทรงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยานเพราะเพื่อนคนอื่นมีกัน สมเด็จย่าตอบว่า “ลูกอยากได้ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญได้มากแล้วค่อยไปซื้อจักรยาน”
ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง
พระอัจฉริยภาพในหลวงพื้นฐานมาจาก “การเล่น” สมัยทรงพระเยาว์ เพราะหากอยากได้ของเล่นอะไรต้องทรงเก็บเงินซื้อเองหรือประดิษฐ์เอง
สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และภูมิประเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯให้โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆเพื่อให้ทรงเล่นเป็นจิ๊กซอว์
ในหลวงทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เช่น เปียโน กีตาร์ แซ็กโซโฟน แต่ที่ทรงดนตรีชิ้นแรกคือหีบเพลง
ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนมายุ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซ็กโซโฟนมือสองราคา 300 ฟรังก์มาหัดเล่น โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้
ยังมีต่อครับ...พรุ่งนี้มาว่ากัน.
“สายล่อฟ้า”