ทนาย เผย "วีระกานต์-ตู่-เต้น-หมอเหวง-นิสิต" แกนนำ นปช. พร้อมขึ้นศาล พรุ่งนี้ 3 ต.ค. 9 โมงเช้า คัดค้านอัยการร้องขอถอนประกัน ตั้งข้อสังเกตเหตุร้องหวังจำกัดเสรีภาพ-อิสรภาพเห็นตรงข้ามหรือไม่

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 59 นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมคัดค้าน ที่อัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาสั่งเพิกถอนการประกันตัว นายวีระ หรือ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ และ นายนิสิต สินธุไพร จำเลยร่วมแกนนำรวม 24 ราย คดีก่อการร้าย หมายเลขดำ อ.2542/2553 ที่คดีอยู่ระหว่างการสืบพยาน ซึ่งศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องขอถอนประกันตัวครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) เวลา 09.00 น. ว่า เราได้รับสำเนาคำร้องการขอเพิกถอนประกันตัวแล้ว โดยวันพรุ่งนี้ แกนนำทั้งห้าคน จะเดินทางไปศาลร่วมกระบวนการไต่สวนตามกำหนดนัด ซึ่งยังไม่มีแกนนำคนใดแจ้งว่าติดเหตุขัดข้องที่จะเดินทางไปศาลไม่ได้

นายวิญญัติ ทนายความ กล่าวสรุปประเด็นที่จะคัดค้านอัยการว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากอัยการได้รับหนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งอ้างพฤติการณ์กล่าวหาว่า แกนนำให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นและกระทำการในหลายเรื่อง เข้าข่ายการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้ในการประกันตัวห้ามการปราศรัยปลุกปั่น แต่เราเห็นว่าที่จริงแล้วคดีก่อการ้ายนี้เข้าสู่การพิจารณาของศาลแล้ว หากจะมีการแจ้งพฤติการณ์ในกรณีอื่น ซึ่งไม่ได้สืบเนื่องจากคดีก่อการร้ายนี้ และเรื่องนั้นดีเอสไอก็ยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ ดีเอสไอไม่มีอำนาจที่จะเสนอเรื่องให้อัยการดำเนินการยื่นคำร้อง เพราะหากมีผู้เสียหายจากการกระทำของแกนนำฯ ก็ชอบและควรที่ผู้เสียหายนั้น จะใช้สิทธิดำเนินการทางศาลเอง อีกทั้ง เห็นว่าการยื่นขอให้ถอนประกันนี้ ไม่เป็นธรรมเสมือนการลงโทษทางอาญาทั้งที่คดีก่อการร้ายและพฤติการณ์ต่างๆ ซึ่งถูกกล่าวหานั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีความผิด โดยแกนนำ นปช. ในฐานะประชาชนคนหนึ่งมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

นายวิญญัติ กล่าวต่อว่า ขณะที่ประเด็นหนึ่งซึ่งกล่าวถึงศูนย์ปราบโกงนั้น แกนนำ นปช. แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ในฐานะวิญญูชนและพลเมืองดี ที่ต้องการตรวจสอบการทุจริตเพื่อปกป้องบ้านเมือง นอกจากนี้ บริบทในวันที่ศาลมีคำสั่งกำหนดเงื่อนการประกันคดีก่อการร้ายนั้น ก็มีความแตกต่างจากบริบททางการเมืองขณะนี้ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวการชุมนุม การปราศรัย โดยตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้มีการอ้างถึงพฤติการณ์ของแกนนำว่าพาดพิงบุคคลทั้งกลุ่มผู้นำ และกลุ่มที่มีความคิดเห็นตรงข้ามทางการเมือง ดังนั้น จะเป็นการใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อจำกัดเสรีภาพแสดงความเห็นและอิสรภาพหรือไม่ และเป็นการกลั่นแกล้งของฝ่ายตรงข้ามที่มีความเห็นทางการเมืองต่างกันหรือไม่

นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า จะนำพยานบุคคลและหลักฐานที่มีมาแสดงต่อศาลเพื่อให้วินิจฉัย ซึ่งในส่วนของอัยการเบื้องต้นทราบว่ามีพยาน 7 ปาก โดย 2 ปากนั้นเป็นพนักงานสอบสวน ส่วนที่เหลือเป็นเจ้าหน้าที่ถอดเทป และผู้กล่าวโทษ ที่มีเพียงคนเดียวเรื่องศูนย์ปราบโกง คือ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

...