นายกฯ มอบ "ประวิตร" นั่ง ปธ.คณะทำงานแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ เร่งติดตามจับกุมดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องขบวนการ จัดระเบียบสังคม-ศก. หวั่นข่าวสารคลาดเคลื่อน กระทบยอดนักท่องเที่ยวไทย
เมื่อวันที่ 20 ก.ย.59 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องกระบวนการของการติดตามตรวจสอบ การจับกุมดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ
"มีข่าวผู้เกี่ยวข้องในแวดวงการเมือง จึงกำชับให้มีการตรวจสอบให้ครบถ้วน ไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นช่วงที่ คสช.จะต้องจัดระเบียบสังคม จัดระเบียบเรื่องเศรษฐกิจที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจว่าเกี่ยวข้องกับใคร ตรงไหน อย่างไร ก็ต้องดำเนินการให้เต็มที่ เพราะข้อมูลข่าวสารที่ไปถึงต่างประเทศ อาจเกิดความคลาดเคลื่อน จึงทำให้มีความวิตกกังวล และอาจส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทย ซึ่งนายกฯ ต้องการให้มีความชัดเจนในจุดนี้ว่า สิ่งที่เราแก้ไขในวันนี้จะไม่ทำให้การท่องเที่ยว ทั้งของบ้านเราและของต่างประเทศได้รับผลกระทบ แต่จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นทาง ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างๆ ที่มา รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนต้องรู้สึกชื่นชอบแน่นอน เพราะเราพยายามดูแลให้เกิดความปลอดภัยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ถูกขูดรีดหรือถูกลอยแพ ระหว่างการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ด้าน พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอร่างบันทึกลงนามความเข้าใจร่วม (MOU) ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจะมีการลงนามร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) เพื่อกำกับดูแลความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทั้งสองฝ่าย รวมทั้งติดตามการแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ
...
สาระสำคัญ คือ จะเป็นการจัดตั้งกลไกด้านการสื่อสารและความร่วมมือ โดยการตั้งคณะกรรมการทำงานความร่วมมือไทย-จีนเพื่อดูแลการท่องเที่ยว โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะผลัดกันจัดการประชุมคณะทำงานอย่างสม่ำเสมอ เป็นไปตามภาวะการท่องเที่ยว ซึ่งหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินก็จะมีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นอกจากนี้ จะสร้างกลไกความร่วมมือและการปฏิบัติ โดยทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนซึ่งกันและกันในการปรับปรุง จัดทำโครงการในการท่องเที่ยวและการจัดการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน การแลกเปลี่ยนเบาะแส และเอกสารของคดีที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องและสาขาอาชีพการท่องเที่ยว การส่งเสริมซึ่งกันและกันในการจับกุมกิจกรรมผิดกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เช่น ทัวร์ราคาถูกที่ไม่สมเหตุสมผล การบังคับให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าที่มีราคาสูง และการสร้างกลไกในการเข้าใจและฝึกอบรมซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะทำงานร่วมกันในการเสริมสร้างความเข้าใจด้านมารยาทในการท่องเที่ยว และส่งเสริมกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ธรรมเนียมปฏิบัติ สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ประเพณีท้องถิ่น สิ่งต้องห้าม หลักความปลอดภัยและความรู้โดยทั่วไปสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยวิธีต่างๆ เช่น การจัดทำสื่อสาธารณะ เพื่อให้ตระหนักถึงวัฒนธรรมการท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอ ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวรักษามารยาทเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย จะจัดฝึกอบรมด้านมารยาทสำหรับมัคคุเทศก์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบรรยายภาษาจีนและภาษาไทย พร้อมกำกับดูแลความเรียบร้อยคณะทัวร์ด้วย.