นายกฯ พร้อมพรรคร่วม แถลงจากกรมทหารราบที่ 11 ยืนยันไม่ยุบสภา ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะครบเส้นตาย 24 ชั่วโมงในตอนเที่ยง ยัน มาถูกต้อง ก่อนควงรมว.คมนาคม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจจราจร...
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 มี.ค.ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีซึ่งเป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมใจชาติพัฒนา นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย โดยใช้เวลาหารือประมาณ 30 นาที ก่อนที่นายอภิสิทธิ์ จะนำบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปแถลงข่าวถึงท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลที่แหล่งนายสมาคมนายทหารร.11 รอ.โดย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลังจากที่การชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงผ่านมา 2-3 วันทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยปกติ แต่ได้มีการยื่นข้อเรียกร้องให้ตนยุบสภาภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากที่ได้ประกาศข้อเสนอคือประมาณเที่ยงวันที่ 15 มี.ค.และจะเดินทางมาฟังคำตอบจากตนที่ ร.11 รอ. ดังนั้น ตนจึงได้เชิญหัวหน้าพรรคหรือผู้แทนพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อปรึกษาหารือเพราะข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเป็นข้อเรียกร้องทางการเมือง ซึ่งได้คุยกัน และเห็นพ้องต้องกันในประการแรก คืออยากจะยืนยันว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันได้ก่อตั้งขึ้นตามกระบวนการของรัฐสภาตามวิถีทางประชาธิปไตยอันมีกระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมาจากการเลือกตั้งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงส่วนใหญ่เช่นเดียวกับ 2 รัฐบาลก่อนหน้านี้ หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2550 ในการจัดตั้งรัฐบาลเราได้พูดกันตั้งแต่วันแรกว่าหน้าที่ของเรา คือการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อนำบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าตลอดระยะเวลา 1 ปี 3 เดือนก็ได้เดินหน้าทำเช่นนั้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่บอกว่าจะให้มีการยุบสภาก่อนเที่ยงวันที่ 15 มี.ค.เพื่อที่จะนำไปสู่การยุติการชุมนุมเคลื่อนไหวนั้นทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นสิ่งที่คงไม่สามารถที่จะทำได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าตนหรือพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่รับฟังข้อคิดเห็นของพี่น้องประชาชนรวมทั้งผู้ชุมนุมด้วย เป้าหมายของเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับการอยู่ในตำแหน่งในสถานะของความเป็นรัฐบาล เป้าหมายของเราคงจะเหมือนกับความต้องการของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่ต้องการเห็นประเทศเดินหน้าไปได้และประคับประคองระบบความถูกต้อง และหลักการที่สำคัญที่จะให้บ้านเมืองมีความสงบไม่เพียงเฉพาะในวันนี้ แต่ในระยะยาวด้วย การยุบสภาเป็นทางออกทางการเมืองทางหนึ่งที่โดยปกติจะเกิดจากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสภา หรือเกิดวิกฤตที่รุนแรงที่มองว่าการเลือกตั้งใหม่ จะสามารถจะคลี่คลายวิกฤตนั้นได้ในปัจจุบันข้อเท็จจริงที่ทุกฝ่ายน่าจะมองตรงกันคือ เรื่องการยุบสภาหรือการเลือกตั้งใหม่นั้นดูจะเป็นเพียงประเด็นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทั้งหมด ใครที่ติดตามการปราศรัยของผู้ชุมนุมจะทราบว่าประเด็นที่มีการหยิบยกขึ้นมานั้นภาพจริงไปไกลกว่าเรื่องตนและรัฐบาลด้วยซ้ำ ดังนั้นการเลือกตั้งถ้าจะสามารถนำไปสู่ความสงบเรียบร้อยและเป็นประโยชน์กับประเทศชาติอย่างแท้จริงได้นั้นจะต้องเป็นการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในเรื่องของกติกา และเป็นการเลือกตั้งภายใต้ความสงบอย่างแท้จริงและเงื่อนไขนี้จะเกิดขึ้นได้นั้นคงไม่สามารถมีใครให้คำตอบได้ก่อนเที่ยงวันที่ 15 มี.ค.และรัฐบาลต้องฟังเสียงของประชาชนที่ไม่ได้มาชุมนุมด้วยเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่พวกเรายืนยันคือว่าแม้ว่าข้อเสนอยุบสภาจะไม่สามารถทำได้ก่อนเที่ยงวันที่ 15 มี.ค.แต่เรายินดีรับฟังความเห็นและแลกเปลี่ยนเหตุผลรวมทั้งต้องการให้กระบวนการตัดสินใจทางการเมืองเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศอยู่บนพื้นฐานการรับฟังความเห็นของคนทุกกลุ่มในสังคม ตรงนี้คือข้อยุติที่เห็นพ้องต้องกัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันด้านการบริหารสถานการณ์ได้คุยกันถึงแนวปฏิบัติในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และทุกคนเห็นด้วยกับแนวทางรัฐบาลที่ดำเนินการอยู่คือการเคารพสิทธิของประชาชนที่ชุนนุมภายใต้รัฐธรรมนูญ การใช้กฎหมายพิเศษเพื่อประโยชน์ในการทำให้บ้านเมืองมีความสงบ ไม่มีความคิดไปริเริ่มใช้ความรุนแรงใดๆกับผู้ชุมนุมหรือการสลายการชุมนุม ไม่มีความพยายามใดๆที่จะไปสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มเติม ดังนั้น เป็นแนวทางที่รัฐบาลเดินหน้าบริหารสถานการณ์ต่อไป อย่างไรก็ตาม การปราศรัยบนเวทีของผู้ชุมนุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเย็น และช่วงค่ำวันที่ 14 มี.ค.นี้ ต่อจนเช้าวันนี้น่าเป็นห่วง มีการใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จเพื่อมุ่งให้เกิดความรู้สึกอามารณ์รุนแรงของผู้ชุมนุมหากเชื่อข้อมูลเหล่านั้น เช่น คลิปเสียงที่พิสูจน์แล้วว่ามีการตัดต่อตัดต่อและเพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่ามีการอ้างว่าเรื่องดังกล่าวและการรับราชการทหารของตนก็ดีนั้นไม่มีการดำเนินคดี มันไม่จริง สองกรณีนี้มีการดำเนินคดีอยู่เพราะตนยืนยันข้อเท็จจริงและพร้อมให้ศาลพิสูจน์ เช่นเดียวกับหลายๆ เรื่องที่มีการทำให้เกิดลักษณะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างผู้ชุมนุมกับรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกฝ่ายพิจารณาจากแนวปฏิบัติของรัฐบาลนี้ต่อการชุมนุมเคลื่อนไหวในลักษณะการต่อต้านรัฐบาลตลอดเวลา 1 ปี 3 เดือนที่ผ่านมาน่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่ในใจแล้ว ดังนั้น สิ่งที่เรากังวลคือแกนนำหรือคนบางกลุ่มต้องการสร้างให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกขัดแย้งสูงที่นำไปสู่การปะทะหรือยั่วยุให้เกิดการปะทะ โดยเฉพาะเมื่อการชุมนุมเข้าข่ายลักษณะไม่แป็นไปตามรัฐธรรมนูญและผิดกฎหมายขึ้นมา แต่ทุกคนตรงนี้ได้ซักซ้อมและยืนยันกับผู้ปฏิบัติงาน ฝ่ายความมั่นคงว่า ขอให้ปฏิบัติหน้าที่บนพื้นฐานของความอดทนอดกลั้นจนถึงที่สุดและพยายามทำทุกวิถีทางในการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนที่มาชุมนุม และให้การปฏิบัติงานทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายทุกฉบับ อยู่ในหลักการความโปร่งใสที่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนมองเห็นการดำเนินการทุกอย่างที่ชัดเจนเปิดเผยไม่มีการกระทำใดๆที่เป็นลักษณะการกระทำที่แอบซ่อนเพื่อสร้างปัญหาใดๆทั้งสิ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลนี้ไม่มีประโยชน์อันใดเลยที่จะทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ความวุ่นวายในบ้านเมืองมีแต่จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง สังคม เศรษฐกิจยากขึ้นทั้งสิ้นและไม่มีเหตุผลอันใดที่รัฐบาลต้องการเช่นนั้น ขอให้ประชาชนสบายใจว่า ความรุนแรงจะไม่มีวันเกิดขึ้นจากรัฐและรัฐจะทำหน้าที่รักษากฎหมายและปฏิบัติการตามกฎหมายเท่านั้นและเท่าที่จำเป็น การทำงานด้านการดูแลสถานการณ์นั้นยังขอขอความร่วมมือจากประชาชนเช่นเดิม และยึดแนวทางเดิมในการบริหารตรงนี้จะเป็นส่วนของศอ.รส.และฝ่ายความมั่นคงดูแลและจากนี้ตนขออนุญาตขึ้นเฮลิคอปเตอร์พา รมว.คมนาคม ตรวจการจราจรใน กทม.เพราะการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมไม่ได้มีเฉพาะการเดินทางมาที่ร.11 รอ.แต่เดินทางไปในบางเส้นทาง ซึ่งมีกลุ่มจักรยานยนต์ที่เคลื่อนไหวด้วย ขอเรียนให้ทราบว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นเช่นใด และจุดยืนเป็นอย่างไรตนยังทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนตามปกติ ขอให้ความมั่นใจกับประชาชนอีกครั้ง และพร้อมให้ข่าวสารกับประชาชนตลอดเวลา ตนทราบดีถึงความห่วงใยของประชาชนและความเครียด ขอยืนยันว่าความห่วงใยของพวกเรามีไม่น้อยกว่าประชาชนและจะทำทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุดโดยไม่มีการสูญเสียใดๆทั้งสิ้น
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายโสภณ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์คนสนิท ขึ้นเฮลอิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กออกจาก ร.11 รอ.เพื่อตรวจพื้นที่จราจรเส้นทางรถไฟฟ้า และเส้นทางที่คนเสื้อแดงจะใช้เดินทางมาที่ร.11รอ.เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะกลับมากี่โมงแล้วจะกลับมาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ไม่ยอมตอบคำถามดังกล่าวแต่อย่างใด
...