“บิ๊กป้อม” ฮึ่มใส่ นปช.อย่าล้ำเส้นมากไป ดึงต่างชาติมาจุ้นเรื่องภายในเตือนไม่หยุดเดินหน้าศูนย์ปราบโกงเจอดีแน่ “วิษณุ” ชี้ฝ่ายความมั่นคงไม่สบายใจศูนย์ นปช. เข้าข่ายทำผิดเงื่อนไข คสช. ด้าน ปชป.ฉะเล่นเกมโลกล้อมประเทศไทย ตามยุทธศาสตร์นายใหญ่ ส่วน พท.ยังคาใจราวีศูนย์ปราบโกงทำไม ถามนายกฯ หากไม่ผิดจะกลัวอะไร “มีชัย-วิษณุ” ไม่ยี่หระเสียงวิจารณ์ใช้ค่ายทหารชี้แจงร่าง รธน. ระบุบรรยากาศดี สะดวกสบาย “สมชัย” แนะเปิดรูระบายเชิญแกนนำ พท. แดงตัวพ่อออกทีวี “ยิ่งลักษณ์” ขอเป็นอุทาหรณ์กรณีนักบินโพสต์คึก คะนอง “โหม่งโลก” นปช.เคืองไม่หายจี้ให้ไล่ออก-ห้ามบินตลอดชีวิต ขณะที่ กพท.เต้น ร่อนหนังสือทุกสายการบินคุมเข้มการแสดงทัศนคติและความเห็นผ่านโซเชียล “นกแอร์” สั่งพักงานมือโพสต์ไลน์ 2 สัปดาห์ ส่วนคนเขียน CFIT เป็นศิษย์นักบินไทยแอร์เอเชีย ต้นสังกัดสั่งพักงานพร้อมสำรวจทัศนคติ

หลังจากที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เดินหน้าจัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ พร้อมขยายเครือข่ายสาขาไปทั่วประเทศ ท่ามกลางการจับตาและทักท้วงจากฝ่ายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล แต่ยังคงยืนกรานทำต่อไป พร้อมเชิญชวนให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ด้วยนั้น

“บิ๊กป้อม” วอนอย่าดึงต่างชาติจุ้น

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ที่สโมสรกองทัพบก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะเชิญองค์กรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สหภาพยุโรป (อียู) รวมถึงสถานทูตต่างประเทศในไทยเข้ามาสังเกตการณ์ศูนย์ปราบโกงประชามติว่า ไม่ให้ตั้ง ไม่เช่นนั้นใครก็ตั้งขึ้นมาได้ การตั้งศูนย์ปราบโกงต้องมีองค์กรขึ้นมารองรับ จะไปตั้งทำไม เพราะมีหน่วยงานของภาครัฐดำเนินการอยู่แล้ว และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในประเทศ ทำไมต้องเอาใครเข้ามาวุ่นวาย เรามีทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับผิดชอบดูแลอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเราไม่ได้ทำอะไรให้เกิดความเสียหาย

...

ไม่หยุดศูนย์ปราบโกงเจอดีแน่

“หาก นปช.เดินหน้าตั้งศูนย์ปราบโกงต่อ ผมไม่ให้เดิน พอแล้ว หยุดเถอะ ผมขอร้อง ไม่เอา หากยังเดินหน้าต่อ ผมก็มีมาตรการทางกฎหมายดำเนินการ ไปดูว่าผิดอะไรหรือไม่ หากผิดว่าไปตามนั้น แต่ตอนนี้ผมขอร้องก่อน หากจะตั้งแบบนี้ ใครๆก็ตั้งขึ้นมาได้ แบบนี้ประเทศก็ยุ่ง ไม่เช่นนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีไว้ทำไม ยุบและตั้งศูนย์นี้ขึ้นมาแทน ขอให้เชื่อมั่นว่าเราอยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ผมดูแลเรื่องความมั่นคงในประเทศ ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าผมจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามนโยบายที่ได้วางไว้” พล.อ.ประวิตรกล่าว

“วิษณุ” ชี้ฝ่ายมั่นคงไม่สบายใจ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติของกลุ่ม นปช.ว่า หากพูดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ไม่มีอะไรห้าม แต่ในแง่ความมั่นคงเขารู้ว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไรหรือไม่ ตนไม่ทราบ และเมื่อรู้แล้วจะสั่งการอย่างไรเขาก็มีอำนาจ เพราะแต่ละคนเคยถูกเชิญตัวมาพูดคุยและตั้งเงื่อนไขบางอย่าง เมื่อกลับไปทำก็ถือว่าผิดเงื่อนไข จึงมีการเตือนการห้าม เมื่อถามว่า การตั้งศูนย์ปราบโกงของ นปช.ถือว่าเข้าเงื่อนไข ขัดคำสั่งห้ามชุมนุมเกิน 5 คนหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า เขาเกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะคำสั่งดังกล่าวไม่ได้ห้ามเฉพาะการชุมนุมพรรคการเมือง การมาในนามของศูนย์หรืออะไรหากทำได้ ปิดประตูห้องก็ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ต่อข้อถามว่า กังวลหรือไม่หากจะมีฝ่ายอื่นตั้งศูนย์ขึ้นมาตรวจสอบศูนย์ปราบโกงของ นปช. นายวิษณุตอบว่า เขาก็กลัวเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน

“ประยุทธ์” อารมณ์ขึ้นปัดตอบซ้ำ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนกรณีกลุ่ม นปช.ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติได้หรือไม่ว่า ไม่ขอพูดเรื่องนี้ ไม่อยากตอบเรื่องของความขัดแย้ง เคยบอกแล้วว่าอยากตั้งก็ตั้งไป อะไรที่ผิดกฎหมายก็อย่าทำ หากรวมกลุ่มกันทำผิดกฎหมาย ก็จะพิจารณาดูในเรื่องความผิด

“จะให้ผมบอกยังไง จะให้บอกว่าห้ามๆ แล้วเขาก็มาว่าผม ว่าผมไปห้ามเขา คุณก็ต้องการแค่นี้ คำถามคุณต้องการแค่นั้นเอง ถ้าผมบอกว่าให้หรือไม่ให้ แล้วมันทำให้อะไรดีขึ้นหรือไม่ แล้วมันจะโกงเรื่องอะไรประชามติ โกงให้ผ่านไม่ผ่าน แล้วผมได้อะไร ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่ได้ พอแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ปลัด มท.จับตาเข้มศูนย์ปราบโกง

นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่ม นปช.เตรียมตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติทั่วประเทศว่า การดำเนินการดังกล่าวต้องว่าไปตามกฎหมาย หากกระทำอะไรที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย จะหารือกัน 3 ฝ่าย คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ซึ่งมหาดไทยที่เป็นฝ่ายปกครองจะดูแลเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วไป แต่ถ้าผิดกฎหมายความมั่นคงฝ่ายทหารก็ว่าไป

ปชป.ฉะเกมโลกล้อมประเทศไทย

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นปช.เตรียมเชิญองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาสังเกตการณ์ศูนย์ปราบโกงว่า เป็นยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศไทยของระบอบทักษิณ พยายามพูดให้ดูดี แต่พฤติกรรมลงรายละเอียดจะเป็นจริงอย่างที่พูดหรือไม่ ต้องมาทบทวนดูพฤติกรรมในอดีต ประวัติที่ผ่านมาคนไทยที่หูตาสว่างต่างรู้ดีคนกลุ่มนี้ทำอะไรไว้บ้าง นัยที่ซ่อนเร้นเป็นเรื่องน่ากังวลอาจจะมีการเมืองแฝงเร้น หรืออาจจะใช้โครงการนี้รณรงค์เกี่ยวกับการทำประชามติไปในทางหนึ่งทางใด เพื่อสนองตอบระบอบทักษิณ รัฐบาลจึงมีหน้าที่จัดการให้สงบเรียบร้อย ทำให้ประชามติบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม ต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เหมาะสม ปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อการพัฒนาประชาธิปไตยในระยะยาว

เปรียบเหมือนไส้ศึกทำเสียกรุงศรี

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นลูกไม้เก่าของคนเสื้อแดงที่ต้องการขยายผลเรื่องนี้ตามความต้องการของนายใหญ่เพื่อหวังกระแสจากต่างประเทศมากดดัน คสช.และรัฐบาลอีกทอดหนึ่ง วิธีการนี้ไม่แตกต่างอะไรกับไส้ศึกพม่าสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ที่อาจกลับชาติมาเกิด กระทรวงการต่างประเทศจึงมีหน้าที่ชี้แจงให้ยูเอ็นและสถานทูตทราบว่าบุคคลเหล่านี้มีคดีก่อการร้าย ก่อการจลาจล ครอบครองอาวุธสงครามหรือคดีใดติดตัวหรือไม่ บางคนยุให้เผาบ้านเผาเมือง มั่นใจว่าถ้าต่างชาติรู้ว่าคนเหล่านี้มีคดีติดตัวคนละกี่คดี คดีอะไรบ้าง คงประหลาดใจว่าทำไมรัฐบาลไทยถึงให้เสรีภาพกับคนที่มีประวัติร้ายแรงและแอบแฝงนัยทางการเมืองถึงเพียงนี้ ทั้งที่ในนานาอารยประเทศไม่สามารถกระทำการอย่างนี้ได้

“วัฒนา” สับรัฐราวีศูนย์ปราบโกง

นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “กลัวทำไมถ้าไม่คิดโกง” ว่า คสช. และรัฐบาลประกาศนโยบายต่อต้านการทุจริตรวมถึงร่างรัฐธรรมนูญก็โฆษณาว่าเป็นฉบับปราบโกง แต่จะดำเนินคดีกับ นปช.ที่ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ โดยอ้างว่าไม่เป็นกลางเพราะอยู่ในฝ่ายที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ถือเป็นคนละเรื่องกัน เพราะ นปช.ไม่ได้ขอไปชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญต่อประชาชน คสช.บางคนอ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร และที่เรียกว่าครู ก ข ค กลับเดินกันให้ว่อน ไม่ผิดกฎหมาย ถ้าใครติดตามการทำงานของ คสช. จะทราบว่าคนพวกนี้กลัวการตรวจสอบ ตัวอย่างคือสั่งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับพวกในโครงการจำนำข้าว แต่ออกคำสั่งนิรโทษกรรมตัวเองและพรรคพวกไม่ให้ถูกฟ้องกลับ

ตอก “บิ๊กตู่” ถ้าไม่ผิดกลัวอะไร

นายวัฒนาระบุว่า ตั้งแต่ยึดอำนาจ คสช. และบริวารซึ่งเรียกรวมกันว่าแม่น้ำ 5 สาย ได้บริหารประเทศโดยเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง จึงต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติเพื่อใช้มาตรา 279 คุ้มครองตัวเองและพรรคพวกให้พ้นจากการตรวจสอบ ในขณะเดียวกันก็ใช้ ส.ว.และองค์กรอิสระค้ำจุนอำนาจต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกคนคงหายแปลกใจแล้วว่าทำไมผู้นำจึงโกรธจนควันออกหูเมื่อมีคนแสดงตัวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จึงขอยืมคำพูดที่ท่านชอบพูดบ่อยมาใช้บ้างว่า “ถ้าไม่ผิดแล้วกลัวอะไร” ขนาด น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นหญิงแท้ๆ ยังกล้าเดินขึ้นศาลอย่างสง่าผ่าเผย แล้วชายชาติทหารอกสามศอกที่ยึดอำนาจของท่านมาจะหนีการตรวจสอบไม่อายบ้างหรือ

“มีชัย” เฉยๆใช้ค่ายทหารแจงร่าง รธน.

ส่วนกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และรัฐบาลจัดงานเผยแพร่เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญในค่ายทหารนั้น วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อกองทัพเป็นผู้รับผิดชอบ เขาก็ต้องใช้สถานที่ของเขา ก็เห็นคนไปเข้าร่วมเยอะดี ไม่น่ามีผลอะไรกับบรรยากาศที่ว่ากัน เป็นเรื่องปกติที่กองทัพใกล้ชิดประชาชน จะไปบอกให้เขาใช้สถานที่อื่น ก็ต้องไปหางบประมาณมาให้เขาอีก

มั่นใจอีก 1 เดือนคนรับรู้มากขึ้น

เมื่อถามถึงผลสำรวจความเห็นที่ระบุว่า กว่าร้อยละ 50 คนยังไม่เข้าใจเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัยตอบว่า เพราะการอบรมยังไปไม่ถึงระดับครู ค. ที่มีหน้าที่ลงพื้นที่ชี้แจงชาวบ้าน ต้องรออีก 2 อาทิตย์ เชื่อว่า เมื่อไปถึงครู ค. แล้ว อีก 1 เดือน ที่เหลืออยู่จะทำให้ประชาชนรับรู้มากขึ้น แม้จะไม่ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็จะทราบว่าในวันที่ 7 ส.ค. จะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญนั้นจะเกี่ยวข้องกับเขาอย่างไรบ้าง กรธ.จะพยายามประชาสัมพันธ์ ผ่านสิ่งพิมพ์ให้เข้าใจง่าย อ่านแป๊บเดียวจบ นอกจากนั้นจะเผยแพร่ผ่านสื่อวิทยุและโทรทัศน์อีกด้วย เมื่อถามถึงกระแสรณรงค์โหวตคว่ำร่าง นายมีชัยตอบว่า ก็ให้อยู่บนข้อตกลงเดียวกัน อย่าบิดเบือน ตนคงว่าอะไรไม่ได้ อยากให้สู้กันอย่างตรงไปตรงมา

“วิษณุ” งงค่ายทหารทำอึดอัดอะไร

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายการเมืองวิจารณ์การจัดเวทีชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญในภูมิภาคของ กกต.ที่จัดในค่ายทหาร โดยเรียกร้องให้เปลี่ยนที่จัดเป็นสถานศึกษาว่า เรื่องนี้ กกต.เป็นผู้ดำเนินการ ตนไม่ทราบรายละเอียด จะทำตามเสียงเรียกร้องหรือไม่ขึ้นกับอยู่กับผู้จัด ไม่เข้าใจที่วิจารณ์ว่าผู้ร่วมเวทีอึดอัด เพราะเห็นผู้ร่วมเวทีที่ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ประมาณ 500 คน จาก 14 จังหวัดภาคใต้ ไม่ได้มีความอึดอัดอะไร และมีคำถามแรงๆ ซึ่งเป็นการพูดด้วยเหตุผลไม่มีอารมณ์ บรรยากาศเป็นไปด้วยดี และที่จัดในค่ายทหารเพื่อความสะดวกในหลายด้าน จึงมีคำถามกลับว่าเหตุใดต้องเกี่ยงเรื่องสถานที่ ทหารก็ไม่ได้เข้ามายุ่งอะไร ถ้าระแวงกันก็ทำอะไรต่อยาก หลังจากนี้ก็จะมีเวทีที่ไม่เกี่ยวข้องกับทหารอีกหลายเวที

ไม่ดีเบต ไม่จำเป็นต้องเอาแพ้ชนะ

เมื่อถามถึงกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่าเวทีของ กกต. เป็นการพูดฝ่ายเดียว ไม่ให้พื้นที่คนเห็นต่าง พร้อมท้าดีเบต นายวิษณุตอบว่า มันอยู่ที่วัตถุประสงค์ เวทีนี้เปิดให้ซักถามเราเป็นฝ่ายตอบ แต่ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดี แต่บอกในสิ่งที่ยังเข้าใจผิด เพราะจากการร่วมฟังสองเวทีที่ผ่านมา เห็นว่ามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่ เพราะในร่างรัฐธรรมนูญมีบางอย่างที่เป็นนัยให้ต้องตีความ เขียนอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้เกิดความชัดเจนได้ เมื่อถามมาก็ต้องตอบ จะบอกว่าพูดข้างเดียวคงไม่ใช่ ส่วนที่ท้าตนดีเบตนั้น ไม่ขอรับคำท้า เพราะไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น ตนไม่ใช่เจ้าของกิจการนี้ และไม่ใช่เรื่องต้องเอาแพ้เอาชนะกัน

“บิ๊กตู่” ซัดคนวิจารณ์ต้องการอะไร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า การจัดเวทีชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของ กกต. ก่อนหน้านี้อาจเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจึงจัดในค่ายทหาร บอกไปแล้วถ้าไม่จัดในค่ายทหารก็ให้ไปจัดที่อื่นก็แล้วกัน จัดที่ไหนก็ได้ แต่จัดในค่ายทหารแล้วเป็นยังไง ไปดูสิคนที่มาพูดวิจารณ์เคยทำอะไร และต้องการอะไร สื่อมวลชนเอาความคิดเห็นของคนที่ต่อต้านมาถาม ต้องการอะไร ต้องการให้ประเทศชาติสงบสุข มีเสถียรภาพหรือไม่ สื่อก็ฟังเรื่องเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้ว่า งานเหล่านี้เป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วย ทำไมจะต้องลากตนให้มาตอบคำถาม สื่อรู้เจตนาของตน ตนรู้เจตนาของสื่อ ช่วงนี้ไม่อยากตอบอะไรทั้งสิ้นเพราะเบื่อหน่าย

พท.แนะชี้แจงร่าง รธน.ในศาลาวัด

ด้านนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการจัดเวทีชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญในค่ายทหาร เพราะประชาชนที่เป็นผู้ใช้สิทธิลงประชามติไม่สะดวกในการรับฟัง เพราะต้องเดินทางในระยะไกลจากบ้านเรือนตัวเอง เห็นว่าควรจัดเวทีชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่ชุมชน เช่น ที่ศาลาวัดหรือบริเวณตลาดของชุมชนทั่วประเทศ โดยกำนันผู้ใหญ่บ้านซึ่งมีความใกล้ชิดกับคนในพื้นที่ ประชาชนจะได้เข้าใจร่างรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริงก่อนไปลงประชามติ วันที่ 7 ส.ค.

“สมชัย” แนะเชิญแดงตัวพ่อออกทีวี

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงความคืบหน้าการเผยแพร่รายการสาระของร่างรัฐธรรมนูญของทีวีดิจิตอลที่จะเริ่มวันที่ 27 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา 17.30-18.00 น. ที่นอกจากสถานีโทรทัศน์ช่องหลัก 6 ช่องแล้ว จะมีทีวีดิจิตอล 17 ช่อง จาก 20 ช่อง ที่ได้แจ้งผังรายการมาแล้วว่าจะนำรายการไปออกอากาศซ้ำ ตนขอเสนอแนะว่าในช่วงรายการที่ให้สถานีสามารถเชิญวิทยากรมาร่วมแสดงความคิดเห็นอยากให้เชิญผู้ที่มีความเห็นต่างทั้ง 2 ฝ่าย มาร่วมรายการอย่างเท่าเทียมกัน ตนเสนอให้เชิญนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ขณะที่อีกฝ่ายอาจเชิญ กรธ.