กลายเป็นเรื่องฮือฮาเมื่อ ดาวอังคารโคจรใกล้โลก มากที่สุดในรอบ 11 ปี
มีระยะ ห่างจากโลกของเราแค่ 75.28 ล้านกิโลเมตรเท่านั้นเอง
โหรใหญ่เตือนว่าช่วงที่ดาวอังคารเฉียดเข้าใกล้โลกจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
ผู้มีอำนาจต้องสุขุมรอบคอบในการตัดสินใจ
อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก อย่าทำเรื่องสั้นให้เป็นเรื่องยาว
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าตัวอย่างการทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากทำเรื่องสั้นให้เป็นเรื่องยาว ต้องยกให้กระทรวงพลังงานของรัฐมนตรีก้านยาว พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ลูกน้องมือขวาของท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมื่อวานซืน (30 พ.ค.) พล.อ.อนันต-พร แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกฯบิ๊กตู่เป็นประธาน
สรุปว่า ที่ประชุมได้ปรึกษาหารือกรณีแหล่งก๊าซธรรมชาติสำคัญในอ่าวไทยใกล้จะหมดอายุสัมปทาน 2 จุดใกล้เคียงกัน
1, แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติของบริษัทเชฟรอนจะหมดอายุสัมปทานในปี 2565
2, แหล่งบงกชของ ปตท.สผ.ก็จะหมดอายุสัมปทานในปี 2566
แต่เนื่องจากมีเสียงประชาชนคัดค้านไม่ให้รัฐบาลเจรจาต่ออายุสัมปทานให้กับเอกชนรายเดิม
ที่ประชุม กพช.จึงมีมติเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานนำแหล่งพลังงานในอ่าวไทยทั้ง 2 แห่ง ไปเปิดประมูลหาเอกชนรายใหม่แทนเอกชนรายเดิม
แต่...ถ้าการเปิดประมูลไม่มีเอกชนรายใหม่สนใจลงทุน
กระทรวงพลังงานจะย้อนกลับไปเจรจาขยายอายุสัมปทานผลิตก๊าซธรรมชาติกับเจ้าของสัมปทานรายเดิมอีกที
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า มติที่ประชุม กพช.มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการเป็น
2 ขั้นตอน คือเปิดประมูลรายใหม่ก่อนแล้วจึงย้อนกลับมาเจรจาต่อรองกับเอกชนเจ้าเดิม
แม้รัฐบาลจะมีเจตนาดีที่รับฟังเสียงคัดค้านจากประชาชน
...
แต่การเปิดประมูลหาเอกชนรายใหม่จะต้องรอให้เอกชนเจ้าเดิมหมดอายุสัมปทานเสียก่อน
และต้องให้รื้อแท่นขุดเจาะออกไปเสร็จก่อน
เอกชนเจ้าใหม่จึงจะเริ่มก่อสร้างแท่นขุดเจาะแทน
ขั้นตอนเปลี่ยนผ่านตรงนี้ จะทำให้การผลิตก๊าซธรรมชาติ 2 แหล่งสำคัญในอ่าวไทยต้องหยุดชั่วคราวไม่ต่ำกว่า 3 ปี
ซึ่งต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี และก๊าซแอลพีจีจากต่างประเทศมาใช้ทดแทนแหล่งก๊าซในอ่าวไทยที่ขาดไป 2,200 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน
ต้องสูญเสียเงินตราต่างประเทศอีกนับแสนล้านบาท
แถมทำให้รายได้รัฐจากส่วนแบ่งรายได้จากสัมปทานปิโตรเลียมหายไปอีกก้อนโต
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า การที่ประเทศ ไทยต้องซื้อก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศราคาแพงมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าแทนก๊าซในอ่าวไทย
กระทรวงพลังงานยอมรับเองว่า จะทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้า (ค่าเอฟที) แพงขึ้นอีกยูนิตละ 85 สตางค์
แน่นอน...คนไทยทั้งประเทศต้องรับผลกระทบไปเต็มๆ
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า มติที่ประชุม กพช.ออกมาแบบนี้ แม้จะเป็นเจตนาดี
แต่ไม่ได้เกิดผลดีแต่อย่างใด
เรื่องนี้ไม่รู้จะโทษใคร...ต้องโทษดาวอังคาร.
แม่ลูกจันทร์