"ปลัด มท." หารือผู้แทน "UNHCR" ย้ำ รบ.ไทยให้ความสำคัญช่วยเหลือ "ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบ-คนไร้สัญชาติ-ค้ามนุษย์" บนพื้นฐานมนุษยธรรม
เมื่อวันที่ 25 มี.ค.59 ที่ห้องรับรองกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ Ms.Ruvendrini Menikdiwela ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNHCR) และคณะ ในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือในประเด็นของการแก้ไขปัญหา และการช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบ ที่เข้ามาอาศัย ณ พื้นที่พักพิงชั่วคราวในประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยถึงประเด็นการเตรียมการส่งผู้หนีภัยกลับมาตุภูมิ ซึ่งขณะนี้ทาง UNHCR จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พิจารณา รวมถึงการแก้ไขปัญหาบุคคลไร้สัญชาติในประเทศไทย
ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้หนีภัยจากการสู้รบที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จำนวนประมาณ 7 หมื่นคน (ข้อมูลณเดือนมกราคม 2559) ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว 9 แห่ง 4 จังหวัด คือ จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ตาก และแม่ฮ่องสอน โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองเป็นหน่วยงานของไทย ควบคุมดูแลในพื้นที่พักพิง โดยมีองค์กรภาคีต่างๆ ให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบทั้ง 9 พื้นที่ตามหลักมนุษยธรรม และได้มีการจัดทำทะเบียนและบัตรประจำตัวผู้หนีภัยเพื่อเป็นเอกสารแสดงตน รวมถึงการออกใบรับรองการเกิดให้กับเด็กทุกคนที่เกิดในพื้นที่พักพิงชั่วคราว เพื่อป้องกันปัญหาผู้ไร้สัญชาติในกรณีที่เด็กเดินทางกลับประเทศต้นทาง และการให้ความช่วยเหลืออื่นๆ เช่น การรักษาพยาบาล การสาธารณสุข การผดุงครรภ์ ระบบสุขาภิบาล การศึกษา และการฝึกอาชีพ เป็นต้น
นายกฤษฎา กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทยได้เดินทางมาเยือนกระทรวงมหาดไทย ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกสหประชาชาติได้มีความร่วมมือกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติหรือ UNHCR ในการแก้ไขปัญหาและดูแลผู้หนีภัยจากการสู้รบมาโดยตลอด ทั้งในระดับส่วนกลางและในระดับพื้นที่ ซึ่งในเรื่องนี้รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้บนพื้นฐานของมนุษยธรรม สำหรับการเตรียมส่งผู้หนีภัยกลับมาตุภูมิตามความสมัครใจ กระทรวงมหาดไทยในฐานะเป็นหน่วยงานดำเนินการพร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล
ขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยยังได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และการแก้ไขปัญหาบุคคลไร้สัญชาติ โดยได้เสนอขอผ่อนผันให้ผู้ที่เป็นเหยื่อหรือผู้เสียหาย รวมทั้งผู้ที่เป็นพยานในคดีค้ามนุษย์ สามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราวและสามารถทำงานได้จนกว่าการพิจารณาคดีจะสิ้นสุด โดยจากเดิมจะเป็นเฉพาะผู้เสียหายที่ให้อยู่ในราชอาณาจักรได้เท่านั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนและตรวจสอบหลักฐานต่างๆ จนสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอกฎหมาย
...
โอกาสนี้ Ms.Ruvendrini Menikdiwela ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณรัฐบาลไทยและกระทรวงมหาดไทยที่ได้แก้ไขปัญหาบุคคลไร้สัญชาติ โดยเฉพาะปัญหานักเรียน นักศึกษาไร้สัญชาติในพื้นที่ชนบทห่างไกลให้ได้มีสัญชาติไทยอย่างถูกต้อง รวมถึงการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ซึ่งที่ผ่านมาได้ทราบถึงการดำเนินงานของรัฐบาลไทยมาโดยตลอด ในการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยในประเด็นดังกล่าวจึงถือเป็นต้นแบบให้กับประเทศต่างๆ และยังชื่นชมในความตั้งใจของรัฐบาลไทยในการเจรจาในกรอบไตรภาคี (ประเทศไทย-UNHCR-ประเทศเมียนมา)
สุดท้าย ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้กล่าวขอบคุณในน้ำใจไมตรีของ UNHCR ที่ได้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือการแก้ไขปัญหา และหวังว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อไป.