ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วครับ "บ้านเขายายเที่ยง" ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ที่เขาใหญ่ เป็นการได้มาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แม้อัยการจะสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ขาดเจตนาทำผิด เพียงแค่ครอบครองที่ดินที่ผิดเงื่อนไขตามมติ  ครม.ปี  2518  แต่ก็ให้อัยการจังหวัดสีคิ้ว  แจ้งให้ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 ไปเอาที่ดินคืนมา

เรื่องนี้ คุณธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ แถลงในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด จึงถือว่าเป็นการแถลงอย่างเป็นทางการ

ส่วน กรมป่าไม้ จะไปเอาที่ดินคืนจาก พล.อ.สุรยุทธ์ หรือไม่ โฆษกสำนักอัยการสูงสุดบอกว่า เป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ที่จะพิจารณาดำเนินการ อัยการไม่มีอำนาจหน้าที่ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ละเว้นไม่ดำเนินการ ก็อาจจะเป็นความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ได้เช่นกัน ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่ากรมป่าไม้จะดำเนินการอย่างไร

เป็นการออกตัวที่ค่อนข้างน่าเกลียดของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยโยนความรับผิดชอบไปให้กรมป่าไม้เต็มๆ แถมยังขู่ด้วยว่า ถ้าไม่ดำเนินการจะถือว่าผิดกฎหมายละเว้นติดคุกกันหัวโต ทั้งๆที่อัยการเป็นคนสั่งไม่ฟ้องเอง

เมื่อ สำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงออกมาเป็นทางการอย่างนี้ ผมก็อยากกราบเรียน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยความเคารพว่า รีบคืนที่ดินบ้านเขายายเที่ยงให้กรมป่าไม้เสียเถอะ เพื่อให้เรื่องจบลงโดยเร็ว อย่ารอให้กรมป่าไม้ต้องไปฟ้องเรียกคืนอีกเลยครับ แค่นี้ก็ทำให้ภาพลักษณ์องค์กรและตำแหน่งหน้าที่เสียหายไปมากแล้ว

จะให้ดีควรจะออกมา "ขอโทษ" สังคมให้เป็นตัวอย่าง เพราะ พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ แต่เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นองคมนตรี ซึ่งควรเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคม

เรื่อง บ้านเขายายเที่ยง กับ พล.อ.สุรยุทธ์ ทำให้ผมนึกถึงคำสอนของพระบรมศาสดา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเรื่อง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ขึ้นมาทันที เป็นเหตุที่เกิดขึ้นอย่างครบวงจร ถ้าหาก พล.อ. สุรยุทธ์ไม่คิดจะดับเหตุทั้งหลายเหล่านี้ ทั้งๆที่รู้เหตุแห่งทุกข์นั้นแล้ว ก็ไม่รู้สุดท้ายจะจบลงอย่างไร

"ทุกข์"
หรือ สภาพแห่งทุกข์ ของ พล.อ.สุรยุทธ์ ก็คือ การได้ บ้านและที่ดินบนเขายายเที่ยง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีวิวทิวทัศน์สวยงามโดยเฉพาะทะเลสาบในเขื่อนลำตะคอง จนเป็นเหตุที่มาของการถูกโจมตีว่า ได้ที่ดินบนเขายายเที่ยงมาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และผลทางกฎหมายที่ออกมา ก็ยืนยันว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายจริง จะต้องส่งคืนที่ดินให้กรมป่าไม้ หรือไม่กรมป่าไม้ก็ต้องฟ้องเรียกคืน

"สมุทัย" หรือ เหตุแห่งทุกข์ ก็คือ บ้านเขายายเที่ยงที่สวยงาม และ ความอยากได้เป็นเจ้าของ ซึ่งมาบรรจบกันพอดี

"นิโรธ"
หรือ การดับทุกข์ ถ้า รู้จักปล่อยวาง ตัดความอาลัย ตัดกิเลส ความอยากได้ ในบ้านเขายายเที่ยงออกไปได้ ทุกข์ก็จะหายไปเป็นปลิดทิ้งทันที แต่ที่ต้องเป็นทุกข์อยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะยังปล่อยวางไม่ได้ ยังตัดใจตัดความอาลัยจากความเป็นเจ้าของบ้านเขายายเที่ยงไม่ได้

"มรรค"
หรือ หนทางแห่งการดับทุกข์ ผมขอกราบเรียน พล.อ.สุรยุทธ์ ไว้ตรงนี้ว่า ปล่อยวางเสียเถอะครับ คืนที่ดินบ้านเขายายเที่ยงให้กับประเทศคือกรมป่าไม้ไปเสีย นึกเสียว่าไม่ใช่บุญสมบัติของเรา ทุกข์ทั้งหลายก็จะดับไปเอง

ผมเองก็แปลกใจ เท่าที่ทราบ พล.อ.สุรยุทธ์ ท่านก็สนใจศึกษาธรรมะมามาก แต่ทำไมธรรมะง่ายๆ การระงับเหตุ ระงับผล เพื่อระงับทุกข์  ท่านจึงพลาดไปได้ง่ายๆอย่างนี้  ทำใจปล่อยวางเสียเถิดครับ รีบคืนที่ดินให้กรมป่าไม้โดยเร็วที่สุด วันนี้ชัดเจนแล้วว่า ไม่ใช่สมบัติของท่าน ยิ่งช้าก็ยิ่งเสียหาย.

"ลม เปลี่ยนทิศ"

...