แกนนำกลุ่มเสื้อแดงโคราช รวมพลบุกเขายายเที่ยง แฉแผนดีเดย์ 9 โมงเช้า 11 ม.ค. ขณะอัยการแถลง  ไม่สั่งฟ้องคดี เนื่องจากขาดเจตนารุกป่า พร้อมแนะ ทำตามมติ ครม. ปี 2518 ...

เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ ( 8 ม.ค. ) นายเขื่อนเพ็ชร โพนรัมย์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 11 ม.ค. 2553 กลุ่มคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้นัดรวมพลกันในเวลา 07.00 น. ที่บริเวณปากทางเข้าเขื่อนลำตะคอง และ ปากทางเข้าเขายายเที่ยง ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว โดยหลังจากแกนนำ นปช. รวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดงคนสำคัญมาพร้อมกันแล้ว จะตั้งแถวเคลื่อนขบวนในเวลา 09.00 น. โดยจะเดินเท้าไปตามถนนเขายายเที่ยงไปปักหลักชุมนุมที่บริเวณหน้าบ้าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่ง จะอยู่ในบริเวณนั้น ส่วนจะรวมพลใหญ่บริเวณจุดใด ตอนนี้ยังบอกไม่ได้คงต้องให้ถึงเวลานั้นก่อน ซึ่งยืนยันว่า จะมีคนเสื้อแดงไปรวมพลังกันทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศ  ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน พร้อมกับตั้งเวทีปราศรัยกัน ตลอดทั้งคืนจนกระทั่งสว่าง อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่พูดคุยกันรวมทั้งกลุ่มแกนนำ นปช. ว่า การชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ แต่ถ้าอีกฝ่ายทำอะไรบางประการเราจำเป็นที่อาจจะต้องยึดบ้านเขายายเที่ยงถาวร

นายเขื่อนเพ็ชร กล่าวว่า ตามที่มีข่าว พล.อ.สุรยุทธ์ บอกว่าจะคืนที่ดินให้กับป่าไม้นั้น ตนเรียนว่า ช้าไปแล้ว ส่วนการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงไฟเขียวจับตัว นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ถ้าไปยุยงส่งเสริมนั้น ตนเรียนว่าในขณะเดียวกัน 17 เดือน ทำไมไม่จับพันธมิตรฯ บ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจจะมีการเสนอให้ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อสยบคนเสื้อแดง มองอย่างไร นายเชื่อนเพ็ชร ตอบว่า ไม่ได้อยู่ในสายตา ไม่ได้อยู่ในความรู้สึกนึกคิดของเรา เพราะเราต่อสู้อย่างสงบ สันติวิธี เพื่อเรียกร้องที่ดินกลับคืนมาให้แผ่นดิน เรายืนยันอย่างนี้ ซึ่งกับรัฐบาลเราก็ไม่รู้จะฝากอะไร เพียงแต่จะฝากถึงพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศว่า เราจะต้องมาร่วมกันเพื่อให้ประเทศไทยมีบรรทัดฐาน

...

ขณะ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด วันเดียวกัน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวว่า อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ถูกกล่าวหาว่า บุกรุกเขายายเที่ยง จังหวัดนครราชสีมา อันเป็นป่าสงวน เหตุเพราะขาดเจตนา โดยทางอัยการจังหวัดสีคิ้ว ได้มีหนังสือแจ้ง ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) ให้ดำเนินไปตามเงื่อนไขของแผนการจัดที่ดินให้แก่ราษฎรในรูปหมู่บ้าน ป่าไม้ สหกรณ์การเกษตร ตามมติ คณะรัฐมนตรี พ.ศ.2518 คือห้ามมิให้ผู้ที่ได้รับที่ดินนำไปซื้อขาย แต่สามารถตกทอดเป็นมรดกต่อลูกหลานได้