ผบ.มทบ.14 เชิญ นศ. ม.บูรพา พูดคุย หลังโปรยใบปลิวโจมตีรัฐบาล ชี้ ไม่ได้ห้ามเขียนบทความแต่ขอให้เขียนทั้ง 2 ด้าน ข้อดี-ข้อเสีย ด้าน นายกฯ แจงให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลโดยใช้วิธีละมุนละม่อม ชี้ ใช้ ก.ม.กับผู้กระทำผิดเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 59 ตามที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้เชิญตัว นายจักรพล ผลละออ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา นักกิจกรรมเคลื่อนไหวมาพูดคุยที่ มณฑลทหารบกที่ 14 จ.ชลบุรี
โดย พล.ต.สิงห์ทอง หมีทอง ผบ.มทบ.14 กล่าวว่า ได้เชิญเขามาพูดคุยเรื่องการจัดกิจกรรมและวางใบปลิว ซึ่งได้อธิบายทำความเข้าใจไปว่า การเขียนบทความหรือบทวิเคราะห์แล้วทำเป็นใบปลิวไปวางไว้ผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้ห้ามในลักษณะแสดงออกแต่ขอให้เขียนทั้ง 2 ด้าน คือ มุมมองด้านวิชาการ และมุมมองที่เราไม่ต้องการ ควรเสนอทั้ง 2 ด้าน ถึงจะเป็นผลงานที่มีคุณค่า เมื่อเขียนเสร็จอย่านำไปโปรย หรืออย่าไปวางตามท้องถนนเป็นลักษณะใบปลิวโจมตี ซึ่งผิดกฎหมาย
"เท่าที่ผมคุยเขาเป็นเด็กที่ไม่รุนแรง ไม่ใช่เด็กหัวดื้อ เขาก็รู้ว่าประเทศกำลังลำบาก กำลังแย่ เมื่อเขาคุยกับเพื่อนๆ ที่กลุ่มทั้ง 5 คนแล้วเขาก็จะกลับมาคุยกับผม ตรงไหนที่ไม่เป็นธรรม มันคืออะไร ในเบื้องต้นทางกลุ่มประชาบูรพารับปากว่าจะไม่โปรยใบปลิว เขาจะกลับไปเขียนทางวิชาการทั้ง 2 ด้าน มีข้อดีและข้อเสียในแต่ละด้าน แล้วนำเสนอไปยังเพื่อนนักศึกษาคณะต่างๆ ให้เข้าใจในเชิงวิชาการที่พวกเขาได้เรียนมา" พล.ต.สิงห์ทอง กล่าว
พล.ต.สิงห์ทอง กล่าวต่อว่า ตนได้อธิบายถึงว่า ความจำเป็นที่รัฐบาลทำอยู่คืออะไร ซึ่งเขาก็รู้เขาอยากจะแสดงออก เพราะได้เรียนรัฐศาสตร์มาว่า การมีประชาธิปไตยที่เขาอยากได้คือจะต้องมีสิทธิ เสรีภาพ และการเลือกตั้ง ขณะนี้ที่เราหยุดไว้นั้น เราไม่ได้หยุดประชาธิปไตย แต่เราหยุดคนใช้ประชาธิปไตยที่บิดเบือน ประชาธิปไตยยังคงอยู่ในประเทศของเรา ขอเวลาให้รัฐบาลได้ปัดกวาดบ้านเรือนให้เรียบร้อย ให้ประชาชนได้มีความเป็นอยู่ที่ดี มีการงาน การเงิน ที่ช่วยเหลือตัวเองได้อย่างยั่งยืน การโกงการเลือกตั้งโดยใช้เงินซื้อประชาชนชนแล้วชนะเข้ามาเพียงเสียงเดียวก็เข้าไปสู่อำนาจรัฐแล้ว ความยากจนยังอยู่ ประชาธิปไตยของประเทศเราไม่สามารถสมบรูณ์ได้ เราจะมีการทะเลาะกันไปอีกนาน ตนได้อธิบายเขาไปเขาก็เข้าใจก่อนที่เขาจะกลับไปพูดคุยกับเพื่อนๆ ให้เข้าใจ
...
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องของนักศึกษาก็ว่ากันไป เมื่อถามว่า มีการรายงานเข้ามาหรือยังว่าไปจับกุมด้วยสาเหตุอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เดี๋ยวทางฝ่ายความมั่นคงเขาดูแลหลายเรื่องที่เป็นความขัดแย้ง เดี๋ยวก็ว่ากัน รัฐบาลพยายามที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของความขัดแย้งมากนัก เพราะมันทำให้การพัฒนาของประเทศไปไม่ได้ ทุกคนมีหน้าที่อะไรก็ให้ว่ากันไป พยายามใช้มาตรการที่มันละมุนละม่อม พูดคุยกันซะให้ได้ คือถ้าไปใช้กฎหมายทุกเรื่องมันก็ยุ่งไปหมด ต้องไปดูว่าประเด็นความขัดแย้งคืออะไรถ้ามันเกิดขึ้นจริง
เมื่อถามว่า ในส่วนกรณีที่องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งการจับ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเคยขอร้องแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ที่เราว่าจะพูดให้เขาเข้าใจได้หรือไม่ เพราะในเรื่องสิทธิมนุษยชนพูดกันมาหลายครั้งแล้ว แล้วสื่อเคยช่วยพูดให้บ้างหรือไม่ เพราะวันนี้องค์กรระหว่างประเทศที่เขารู้มา ก็มาจากบุคคลที่บิดเบือน และจากสื่อที่อาจไม่มีเจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทุกคนก็รู้กันอยู่ว่าการดำเนินการตามกฎหมายวันนี้นั้น ก็ทำกับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย อย่าไปยึดโยง เมื่อทำความผิดก็คือความผิด กฎหมายก็คือกฎหมาย ไม่เช่นนั้นก็บังคับใช้กฎหมายกับใครไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี เคยระบุว่า ได้ชี้แจงกับต่างประเทศแล้วหลายครั้ง ทำไมยังไม่เข้าใจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ชี้แจงไปแล้ว แล้วเขาจะเชื่อไหมล่ะ ก็พวกสื่อยังประโคมข่าวอยู่กันอยู่แบบนี้ แล้วไปดูซิที่เราชี้แจงไปยังต่างประเทศเขากอดคออยู่กับใคร ทุกคนก็เห็นอยู่ทั้งหมด จะมาถามให้เป็นเรื่องอีก ก็มีรูปทั้งหมด ถามว่าคนเหล่านี้สร้างประโยชน์อะไรให้กับประเทศชาติบ้าง แล้วที่ผ่านมาเขาเลือกข้างหรือเปล่า สำหรับผมไม่ได้เลือกข้างใคร ถ้าเขาดีด้วยผมก็ดีด้วย แต่ถ้าผิดกฎหมายทุกคนก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด อย่าเอาเรื่องสิทธิมนุษยชนมาปนกับเรื่องของกฎหมาย เอาเรื่องประเทศชาติมาปนกับเรื่องส่วนตัวมันไม่ได้"