เพื่อไทย ชี้ ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ไม่เช่นนั้นที่คาดการณ์ ศก.จะโตทั้งปี ที่หวังว่า 3% เอาเข้าจริงอาจไม่ถึง 2% ด้วยซ้ำ ยัน ศก.ไม่ได้ดีกว่ายุคป๋าเปรม
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 58 นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เห็นว่า ความน่าเชื่อถือของทีมเศรษฐกิจน่าจะมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากที่ออกมาโม้ว่า เศรษฐกิจในรัฐบาลนี้ดีกว่า สมัยรัฐบาลพลเอกเปรม ก็อยากให้นำตัวเลขเฉลี่ยการเจริญเติบโตมาเทียบก็จะเห็นชัด ทั้งนี้ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี เพิ่งตำหนิว่า การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณยังเบิกจ่ายได้แค่ 50% พอเบิกจ่ายไม่ได้ ม.ร.ว ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ก็ออกมายอมรับว่า การใช้จ่ายรัฐบาลคิดเป็นแค่ 20% ของจีดีพีเท่านั้น ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งตรงกับคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ที่เตือนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และ ม.ร.ว ปรีดิยาธร จะมาคาดหวังให้การบริโภคภายในประเทศ ที่มีสัดส่วนประมาณ 56% เพิ่มขึ้น ก็อยากถามกลับไปว่า จะให้ประชาชนหาเงินจากไหนเพื่อมาใช้จ่าย รายได้เกษตรกรลดลงกว่าครึ่ง แถมเจอสถานการณ์ภัยแล้ง แรงงานรายได้ลด เพราะขาดโอที การค้าขายใหญ่เล็ก ต่างฝืดเคือง
โดยทีมเศรษฐกิจรัฐบาลไม่มีมาตรการกระตุ้น ไม่ช่วยเหลือ และไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆ ที่ประชาชนลำบากกันอย่างแสนสาหัส แล้วจะบอกว่าดีกว่าสมัยพลเอกเปรมได้อย่างไร และทีมเศรษฐกิจรัฐบาลต้องลดตัวเลขการโตทางเศรษฐกิจมาตลอดตั้งแต่ปีที่แล้วจนมาถึงปีนี้ ที่ยืนยันจะโต 4% ตอนนี้จะมายืนยัน 3% ซึ่งก็ไม่น่าจะถึงแล้ว 2% ก็อาจจะไม่ถึง หากไม่เปลี่ยนวิธีคิด อีกทั้งยังบอกว่า ปัญหาเศรษฐกิจและหุ้นตกในจีนจะไม่กระทบไทย ซึ่งไม่จริง เพราะจะกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างมากทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนจากประเทศจีนจะลดลงมาก การบริหารจัดการ และการคาดการณ์เศรษฐกิจของรัฐบาลทำให้ความน่าเชื่อถือของทีมเศรษฐกิจรัฐบาลไม่เหลืออยู่แล้ว จึงน่าเป็นสาเหตุของข่าวลือที่จะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งคงไม่มีใครจะกล้าเข้าไปร่วมเสี่ยงทำชาติเสียหายเพิ่มเติมแน่ และยืนยันได้ว่าถ้ายังไม่เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยเพื่อให้ต่างประเทศยอมรับเศรษฐกิจไทยจะไม่มีทางฟื้น
...