ก๊อ “น่าห่วง” อนาคตประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้า สร้างรถไฟความเร็วสูงไทยจีนให้ได้ในรัฐบาลนี้ อย่างน้อยช่วงแรก ช่วงต่อไปก็ให้รัฐบาลต่อไปทำ ทั้งที่รัฐบาลเองก็ยังไม่มีข้อมูลการลงทุนว่าคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ และไม่เคยบอกประชาชน แต่ประชาชนกลับต้องแบกเงินกู้หลายแสนล้านบาท เป็นหนี้ให้ลูกหลานใช้ไปอีกหลายชาติ
ที่น่าแปลกใจก็คือ รัฐบาลเร่งเดินหน้าโครงการนี้อย่างเร่งรีบจนผิดสังเกตพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีคมนาคม แถลงว่า จะสรุปความเห็นชอบจาก 2 ฝ่ายภายในวันที่ 29 สิงหาคม ก่อนเสนอ ครม.อนุมัติในวันที่ 10 กันยายน และ เข้าสู่ขั้นตอนการจัดทำร่างสัญญาโครงการต่อไป ทั้งที่ยังไม่มีผลการศึกษาเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน และความเสี่ยงในการลงทุนเลย ผมไม่เชื่อว่า โครงการหลวมๆอย่างนี้จะเกิดขึ้นได้จริง แม้รัฐบาลจะมีอำนาจมากมายก็ตาม
โครงการรถไฟไทยจีน เป็นความต้องการอย่างยิ่งยวดของจีน เพื่อขนสินค้าจีนจาก เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ลงใต้มาทาง เวียงจันทน์ เข้าไทยทาง หนองคาย ต่อไปยัง มาบตาพุด เพื่อออกทะเลที่ ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นรางขนาด 1.435 เมตร ที่ไม่มีในไทย เพราะจีนต้องการใช้ขนสินค้าเป็นหลัก จึงกำหนดความเร็วที่ 180 กม.ต่อชั่วโมง ไม่ใช่รถไฟความเร็วสูง 250 กม.ต่อชั่วโมง ที่เป็นรถโดยสาร
โครงการนี้ พล.อ.อ.ประจิน ระบุว่า เบื้องต้นจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 420,000 ล้านบาท แต่เมื่อรัฐบาลอนุมัติให้สร้างที่ความเร็ว 180 กม.ต่อชั่วโมง มูลค่าโครงการจะถูกลง แต่ถูกลงเท่าไร รัฐบาลก็ยังไม่มีข้อมูล แต่กลับเร่งเสนอ ครม.อนุมัติในวันที่ 10 กันยายน
ประเด็นที่ผมอยากตั้งเป็นข้อสังเกตถึง พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือ
1.ทำไมรัฐบาลจึงตัดสินใจสร้างรถไฟไทยจีนที่ ความเร็วแปลกๆ คือ 180 กม.ต่อชั่วโมง บนรางขนาด 1.435 ม. ทำให้ทางรถไฟสายนี้ เชื่อมต่อกับรางรถไฟไทยที่มีอยู่ในประเทศไม่ได้ เชื่อมต่อกับรถไฟจีนได้เพียงประเทศเดียวในภูมิภาคนี้
...
2.ทำไมรัฐบาลไม่สร้าง รถไฟรางขนาด 1.00 ม. วิ่งด้วยความเร็ว 160 กม.ต่อชั่วโมง เพื่อให้รถไฟไทยสามารถเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในแหลมทองได้ทุกประเทศ ทั้ง มาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม เพราะใช้รางขนาด 1.00 ม.เท่าไทยหมด ซึ่งจะได้ประโยชน์ในอนาคตมากกว่ารถไฟจีน
3.ต้นทุนการก่อสร้างรางขนาด 1.435 ม. แพงกว่าต้นทุนการก่อสร้างรางขนาด 1.00 ม.สองถึงสามเท่า ตัวขบวนรถราง 1.435 ม. ระบบการเดินรถบนรางขนาด 1.435 ม. ก็แพงกว่าขนาด 1.00 ม.หลายเท่า การดูแลรักษาในอนาคตก็แพงกว่าหมด ซึ่งต้นทุนมหาศาลที่ไทยต้องรับผิดชอบในอนาคตตลอดไป
4.การลงทุนรถไฟสายนี้ 420,000 ล้านบาท ไทยเป็นฝ่ายลงทุนเองเกือบทั้งหมด ตั้งแต่ค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างทางราบ อุโมงค์ลอดภูเขาต้องจ้างจีนก่อสร้าง มีบริษัทจีนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งหมด จีนแทบไม่ได้ลงทุนอะไรเลย แค่ร่วมทุนในบริษัทเดินรถ ที่ไทยต้องลงทุนอีกมหาศาล เพื่อซื้อขบวนรถไฟจากจีน ซื้อระบบเดินรถจากจีน และต้องกู้เงินจากจีนอีก จีนมีแต่ได้กับได้ แต่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย สัญญานี้ไทยเสียเปรียบมหาศาล พล.อ.ประยุทธ์จะไฟเขียวให้ลงทุนหรือ
5.เงินลงทุนก้อนนี้ ไม่ว่ากู้ในไทยหรือกู้จากจีน ก็เป็นหนี้ก้อนโตที่ลูกหลานไทยทุกคนต้องร่วมชดใช้ในอนาคต หนี้ที่เห็นอยู่ทนโท่ว่า โครงการนี้ขาดทุนแน่นอน คนไทยไม่ได้ประโยชน์ แล้วเราจะไปเสียค่าโง่ลงทุนให้จีนทำไม
เงินทองเป็นสิ่งหายากในยามนี้ คนไทยทุกข์ยากกันทั้งประเทศ เพราะเศรษฐกิจการเงินวิกฤติไปทั่วโลก ชาวนาไม่มีจะกิน รัฐบาลยังบอกว่าไม่มีเงินช่วย แต่ รัฐบาลจะไปกู้เงินลงทุน 4 แสนกว่าล้านบาท สร้างรถไฟให้จีนขนสินค้า พวกท่านจะบอกกับ พระสยามเทวาธิราช ว่าอย่างไร อย่าเพิ่มหนี้ให้ชาติซ้ำรอย โครงการรับจำนำข้าว เลยครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”