วลีเด็ดว่าปฏิวัติซ้อนและมีการขยับเดินสายพบมวลชน
กลายเป็นประเด็นและความเคลื่อนไหวให้ คสช.ต้องจับตานายทหารแก่ไม่มีวันตาย อย่าง “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี มาวันนี้ให้สัมภาษณ์ ทีมข่าวการเมือง
โดยเล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่เคลื่อนไหวไปพบกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ว่า ได้ทำมาตลอดเป็นระยะๆ และทำมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาทำ ทั้งหมดเกิดจากความผูกพันที่แต่ละกลุ่มมีส่วนในการแก้ปัญหาของบ้านเมือง
การพูดคุยครั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ทิ้งปริศนาให้คนในชาติและอำนาจรัฐได้ขบคิด เมื่อบอกถึงปัญหาของกลุ่มต่างๆทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้
เริ่มจากกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่วางอาวุธออกมาช่วยพัฒนาบ้านเมืองตามข้อตกลง เราควรที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีให้เขาได้หรือไม่ เป็นการช่วยเหลือด้วยความมีน้ำใจและหัวใจที่ให้
รวมถึงชนกลุ่มน้อยที่เราใช้เขา จนถึงวันนี้ลูกหลานของเขายังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใคร โดยเฉพาะ 21 ชนเผ่าทางภาคเหนือ ขอให้เข้าไปช่วยเหลือและจัดระเบียบให้ชนเผ่า มีชีวิตที่ดีขึ้นหน่อย
ไม่ใช่ไปใช้เขาอย่างเดียวให้เป็นหูเป็นตาตามแนวชายแดน เนื่องจากการดูแลพื้นที่ชายแดนของไทยไม่มีหน่วยงานของรัฐที่จะไปดูแล นอกจากหน่วยเล็กๆเท่านั้น
ยกตัวอย่างถึงเรื่องการปราบปรามยาเสพติด เราเข้าไปแก้ปัญหานอกอาณาเขตของประเทศไทย เข้าไปแก้ที่แหล่งผลิตชนิดเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยนำเอาโครงการพัฒนาเข้าไป ถึงแก้ปัญหานี้สำเร็จอย่างดี ขืนปล่อยให้ยาเสพติดเล็ดลอดผ่านเขตแดนไทย มันจะกระจายแยกออกเป็นสายธาร 4-5 สาย
ขณะที่ยุทธศาสตร์จากภูผาผ่านทุ่งนาสู่ท้องนที ก็ชี้ให้เห็นว่าเราต้องดำเนินการในพื้นที่สามสี เช่น ในส่วน 11 จังหวัดภาคเหนือ จนถึงวันนี้ยังไม่สามารถปลูกป่าทางภาคเหนือให้เต็มพื้นที่ ทำไมไม่กำหนดกฎเกณฑ์จัดตั้ง ใช้ 21 ชนเผ่า และแบ่งสรรปันส่วนพื้นที่ให้รับผิดชอบ
...
เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ดีได้หลากหลาย ทั้งปลูกต้นไม้โตเร็ว ทอผ้า ทำอาหาร มีใครเข้าไปทำเพื่อ 21 ชนเผ่าและประเทศไทยบ้าง ยังมีชนกลุ่มน้อยอื่นๆอีกใครเข้าไปดูแล
เหมือนพี่น้องชาวไทย-มุสลิมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อไม่ได้ใกล้ชิดกับเขาก็ไปมองเป็นอีกเรื่องหนึ่งโดยมีใครรู้บ้างว่าเขาต้องการอะไร
ชาวไทย-มุสลิมต้องการอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องการสังคมภูมิบุตรที่ถ่ายทอดการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมายาวนานนับพันปี ระหว่างไทยพุทธ-มุสลิม-คนจีน
และต้องการดูแลตัวเขาเองบนกฎหมายไทย แต่มีบางอย่างที่จะพัฒนาให้เหมาะสมในสิ่งที่เขาศรัทธา
เมื่อทำแบบนี้จะแบ่งแยกดินแดนได้อย่างไร ตอนนี้ไปเสียเวลามหาศาลและยังไม่เห็นทางจบเสียที
ตอนนี้มันใกล้เข้ามาแล้ว ในจุดที่เป็น “ติมอร์” ซึ่งน่าเป็นห่วงว่ามันจะเกิดขึ้นอีก
เพราะปัญหาโยงไปถึงความไม่เป็นธรรม ปัญหาปากท้อง สิ่งเหล่านี้แก้ง่าย
ส่วนกลุ่มไทยใหม่ตามลำน้ำโขง หรือกลุ่มไทยเวียดนาม วันนี้มีนับล้านคน แต่ละคนเก่งๆ โดยเฉพาะด้านการทำมาหากิน เขาดีกับเรา
ขอถามว่าคนเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงคนจนในแผ่นดินไทย เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ถ้าเราไม่ไปติดตามและเข้าช่วยเหลือ ไปผูกพันกับเขา มันจะรู้เรื่องได้อย่างไร
ในเมื่อคนจนยังจนอยู่ และชนชั้นกลางที่ได้รับผลกระทบจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ติดแหง็กมา 20 กว่าปี
ปัญหาเหล่านี้ทำไมไม่แก้ให้ชัดเจนว่า อีก 3 ปี 5 ปี จะให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน
มีใครบ้างไปแก้ปัญหาหนี้สินของชาวนา ชาวนาเป็นหนี้ 1-2 แสนบาท ยังผูกคอตายกันเยอะแยะ ความเจ็บปวดก็มีในหัวใจ ทั้งที่ชาวนาปลูกข้าวเลี้ยงคนไทยและชาวโลก แต่ชาวนากลับซื้อข้าวกินแพงมาก
นี้แหละเป็นคำตอบทำไมถึงลงไปพบชาวนาที่จ.พระนครศรีอยุธยา หรือผมไม่มีสิทธิ์เลยที่จะไปติดตาม ไปดูแลทุกข์สุขของประชาชน หากคนเหล่านี้มีความสุขอยู่แล้วเรื่องอะไรที่จะไปยุ่งกับเขา
เข้าทางจังหวะเกิดปัญหาเศรษฐกิจและปัจจัยด้านการร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้เคยเตือนรัฐบาลและคสช.มาตลอดถึงสองปัจจัยดังกล่าว ทำให้รัฐบาลและ คสช.หวาดระแวงการเคลื่อนไหวของท่าน พล.อ.ชวลิต บอกว่า ถ้าไม่เตือนไม่รู้จะว่าอย่างไร เพราะเขาเป็นน้อง
หวังว่าน้องจะเดินตามรอยรุ่นพี่ที่ประสบผลสำเร็จ เอาบ้านเอาเมืองให้อยู่รอดจนถึงทุกวันนี้ ให้น้องๆ เข้ามามีอำนาจมีโอกาสบริหารบ้านเมือง
แต่สิ่งที่เราพูดไปแต่ละเรื่องส่วนใหญ่น้องๆที่อยู่ในอำนาจมักจะไม่ค่อยสนใจ ที่พูดไม่ได้ไปต่อว่าใคร
ทีมข่าวการเมือง ถามว่า เคลื่อนไหวแบบนี้ถูกบางฝ่ายมองว่าต้องการกลับเข้ามาในทางการเมืองอีก มองเจตนาการเคลื่อนไหวไม่บริสุทธิ์ใจ พล.อ.ชวลิต บอกว่า ถ้าคนที่ถามมีชีวิตอย่างเรา อยู่ในยุค บ้านเมืองกำลังตกอยู่ในสภาพวิกฤติ ซึ่งไม่ห่างไกลจากวันนี้มากนัก
ยุคนั้นเกือบเสียบ้านเสียเมือง เจอทั้งศึกเหนือเสือใต้ วันนั้นประสบชัยชนะ เพราะประเทศไทยต้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ
สภาพของประเทศในเวลานี้น่าห่วงใย ถ้าเปิดใจพูดกันถึงจะแก้ไข ได้ เพราะต้นเหตุของปัญหามันเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ได้เกิดจากตัวบุคคล ไม่ได้เกิดจากการคอร์รัปชัน
แต่เกิดจากโครงสร้างของประชากรไม่มีความเสมอกันมากที่สุด หรือการไม่ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด โดยมีคนร่ำรวยนิดเดียว แต่มีคนยากจนมหาศาล ตอนนี้ยิ่งห่างมากยิ่งขึ้น เป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข
เมื่อประชากรในชาติไม่เท่าเทียม ความขัดแย้งทางการเมืองก็ยิ่งมากขึ้น โดยเฉพาะในรอบเกือบ 10 ปีมานี้ ปัญหานี้ไม่ใช่เกิดขึ้นจากตัวบุคคล
แต่การยกร่างรัฐธรรมนูญกลับยกร่างกีดกันคนนั้นคนนี้ นำไปสู่การทะเลาะกันทุกวัน ถึงได้บอกไปว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญขอให้ทำ 2 ฉบับ จะได้ไม่ต้องมาฆ่ากันและไม่ต้องมาฉีกทิ้งอีก
การแก้ปัญหาของประเทศต้องทำให้อำนาจเป็นของประชาชนส่วนใหญ่
ที่ผ่านมาได้ย้ำมาตลอดว่าทางออกของประเทศต้องสร้างประชาธิปไตย ยึดหลักอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
โดยกระจายอำนาจให้ประชาชน ใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ คนกลุ่มหนึ่งใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของมันเอง ประชาชนถึงยังยากจนอยู่ ประเด็นนี้สำคัญที่สุด ต้องดำเนินการก่อน
ที่เหลือทั้งเสรีภาพ ความเสมอภาค หลักนิติธรรม และการเลือกตั้งต้องดำเนินการลำดับสุดท้าย ถึงจะแก้ปัญหา ความขัดแย้งทางการเมืองโดยการสร้างประชาธิปไตย
ที่ผ่านมาพยายามสร้างประชาธิปไตยด้วยวิธีเดียวคือสร้างรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย จึงเกิดปรากฏการณ์ร่ำรวยรัฐธรรมนูญ แต่ยากจนประชาธิปไตย
รัฐธรรมนูญไม่ได้สร้างประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยสร้างรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญเป็นเพียงตัวบันทึกการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย เนื่องจากประชาชนไม่ได้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่เป็นอำนาจสูงสุดหรือไม่ได้เป็นเจ้าของผลประโยชน์ของชาติ
ฉะนั้น ขอให้มุ่งหน้าไปสู่ประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่มุ่งหน้าไปที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นตัวสร้างให้ประชาชนมี ความสุขขึ้น
เมื่อไหร่ทำให้ประชาชนมีความสุขขึ้น ทุกอย่างจะดีขึ้นตามมา รัฐธรรมนูญมันต้องมาทีหลัง มันไม่ได้มาก่อน วันนี้ทำได้หรือไม่ที่ผู้ปกครองจะต้องบริหารประเทศให้เกิดประโยชน์กับประชาชน
และทำให้อำนาจเป็นของประชาชนก็ทำไปเถอะ เพื่อไม่ให้คนฆ่ากัน แต่การออกทีวีพูดทุกวัน พูดมากก็ไม่ดี จะทำให้ประชาชนท้องผูก ขอให้รีบบริหารประเทศเพื่อประชาชนเสียก่อน
ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นจริงของประเทศไทยในวันนี้ และเป็นเหตุที่ลงไปพบชาวนา
ใครลงไปหาชาวนาก็รักและผูกพันกับคนคนนั้นเป็นธรรมดา ไม่ใช่ เดี๋ยวนี้นะ แต่มันผูกพันทอดยาวมา...
...จนบ้านนี้เมืองนี้จะไม่มีประเทศไทยอยู่แล้ว.
ทีมการเมือง