ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำประเทศไทย วิพากษ์ใช้อำนาจมาตรา 44 ไม่ต่างกฎอัยการศึก ด้านอดีต ส.ส.เพื่อไทย เรียกร้องนายกฯ กำหนดเลือกตั้ง ขณะที่อดีต ส.ส.ปชป. ย้ำมาตรา 44 ไม่เดือดร้อนคนปกติ กระตุ้นต่างชาติเข้าซื้อหุ้นในไทยเพิ่มขึ้น ...
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า การยกเลิกกฎอัยการศึก มาใช้ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ 3/2558 ซึ่งออกตามอำนาจมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราวนั้น ไม่ต่างจากกฎอัยการศึก ดังนั้น สถานการณ์ของประเทศยังไม่ได้ดีขึ้น เพราะยังทำให้นานาชาติมองว่าประเทศไทยยังเป็นเผด็จการเช่นเดิม อีกทั้ง ฮิวแมนไรต์วอตช์ เคยเสนอว่าหากจะลดแรงกดดันเรื่องการประกาศใช้กฎอัยการศึก ทางออกที่ดีที่สุดคือ ควรใช้กฎหมายปกติ
ด้านนายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ระบุว่า เมื่อยกเลิกใช้กฎอัยการศึก ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นกับนานาชาติ และทำให้กระตุ้นการท่องเที่ยวด้วย เพราะยุโรปจะไม่ประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทย หากใช้กฎอัยการศึกอยู่ โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะใช้อำนาจอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งการใช้มาตรา 44 คือเปลี่ยนอำนาจจากผู้บัญชาการทหารบกมาเป็นอำนาจของหัวหน้า คสช. ที่ต้องขอความเห็นชอบจากที่ประชุม คสช.ก่อน และต้องรับผิดชอบกันเป็นคณะ ซึ่งต่างจากการใช้มาตรา 17 ธรรมนูญการปกครอง สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ให้อำนาจเพียงคนคนเดียว และอำนาจมาตรา 44 มีมากกว่าการใช้กฎอัยการศึก แต่การยกเลิกกฎอัยการศึกเป็นการหวังผลจิตวิทยา พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีให้คำมั่นประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง เพื่อยืนยันว่าจะไม่สืบทอดอำนาจ
ขณะที่ นายสามารถ มะลูลีม อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การมีกฎอัยการศึกทำให้ต่างชาติมองว่า ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่อยกเลิกกฎอัยการศึก ตลาดหุ้นขานรับ มีคนต่างชาติมาซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากยกเลิกกฎอัยการศึก ถ้าคนปกติ คนไม่มีความผิด ไม่ว่าจะใช้มาตราใดก็ไม่มีปัญหา เพราะปกติสุข ถ้าคนอยู่ดีๆ ไม่ได้เดือดร้อน แต่การยกเลิกกฎอัยการศึก คนต่างชาติก็รู้สึกยินดี และมาตรา 44 ยังให้อำนาจหัวหน้า คสช. แก้ปัญหาประเทศเร่งด่วน โดยเฉพาะใช้แก้ปัญหาประเทศญี่ปุ่นระงับเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากไทย.
...