สปช.ชง ครม. เห็นชอบโครงการติดตั้งโซลาร์รูฟอย่างเสรีให้ครัวเรือน ผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายเอง ป้องกันโลกร้อน ตั้งเป้า 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยเป็นผู้นำผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในอาเซียน
วันที่ 6 ม.ค. นายทองฉัตร หงศ์ลดารมภ์ ประธานกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน ระบุภายหลังสภาปฏิรูปแห่งชาติ เห็นชอบรายงานพิจารณาศึกษาโครงการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟอย่างเสรี หรือระบบผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ สำหรับบ้านและอาคาร ว่า โครงการนี้จะทำให้ประชาชนสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้ได้เอง และลดภาระการหาพลังงาน รวมทั้งสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปหารายได้ให้กับครัวเรือนได้ นอกจากนี้ ฝ่ายราชการควรให้การสนับสนุนกับประชาชนอย่างเสรีในการติดตั้ง
ขณะที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานอนุกรรมาธิการปฏิรูปพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียน ระบุว่า สภาปฏิรูปแห่งชาติจะเสนอเรื่องคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ รวมทั้งให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ออกกฎระเบียบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของพลังงานผลิตใช้เอง และนำพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตออกไปจำหน่ายเป็นรายได้แก่ครัวเรือน
นายอลงกรณ์ คาดหมายว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ต่ำกว่า 1 แสนหลังคาเรือน และไม่ต่ำ 5,000 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าหมายสำหรับอาคารติดตั้ง โรงเรียน โรงงาน สถานที่ราชการ และออฟฟิศ โดยสามารถตั้งไว้บนหลังคาและบนพื้น รวมทั้งตั้งเป้าใน 20 ปีข้างหน้า จะมีพลังงานแสงอาทิตย์จากการติดตั้งโซลาร์รูฟ ไม่ต่ำกว่า 10,000 เมกะวัตต์ และลดการสร้างโรงงานไฟฟ้าของรัฐบาล โดยคิดเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านบาท เพื่อลดภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก อีกทั้งประเทศไทยจะเป็นผู้นำการผลิตพลังานแสงอาทิตย์และประเทศสีเขียวในภูมิภาคอาเซียน ส่วนปัญหาการติดตั้งโซลาร์รูฟ มีอายุการใช้งาน 30 ปี โดยไม่มีผลต่อสภาวะแวดล้อม เพราะสามารถนำไปรีไซเคิลได้
...