เมื่อเรียนนักธรรม เรียนบาลี สอนกันว่าธรรมะคือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ศึกษากว้างขวางออกไป เกิดไปรู้ว่า ใช้พูดกันอยู่ก่อนพระพุทธเจ้าเกิด ใช้กันอยู่นอกพุทธศาสนา ลัทธิไหนศาสนาไหน ก็ใช้คำธรรมะร่วมกัน
จึงมีคำกล่าวชัดในบาลีว่า ธรรมะคือคำสอนที่เป็นระบบของลัทธิหนึ่งๆ
นักเลงดีทางภาษา พยายามศึกษาคำว่า ธรรมะ แปลว่าอะไร ได้คำแปลมา 32 คำ แล้วก็ยังรู้สึกว่าไม่หมด เลยยอมแพ้ ตกลงกันว่าอย่าแปล ให้ใช้ว่า ธรรม หรือธรรมะ
ท่านอาจารย์พุทธทาส อินทปัญโญ สังเกตตลอดเวลาหลายสิบปี...
ควรจะจำกัดความ ธรรมะว่าอย่างไร ในที่สุด ก็ชอบความหมายที่เขาใช้กันในปทานุกรมเด็กในอินเดีย
ธรรมะ แปลว่า หน้าที่
(ธรรมบรรยาย เรื่องธรรมะคือหน้าที่ อบรมพระนิสิตมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยครั้งที่ 1 27 ธ.ค.2528 หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ รวมพิมพ์เป็นเล่ม ครั้งที่ 1 ธ.ค.2557)
แม้ชอบคำธรรมะคือหน้าที่ แต่ก็ยังรักความหมาย ธรรมะ หมายถึงทุกสิ่ง ท่านอาจารย์พุทธทาส ขอแยกออกเป็น 4 ความหมาย
1. ธรรมะคือตัวธรรมชาติทั้งหลาย ธรรมชาติทั้งหลายก็เป็นธรรมะ เป็นทั้งรูปธรรม นามธรรม
2. ธรรมะคือกฎธรรมชาติ เพราะในตัวของธรรมชาติ ย่อมมีกฎของธรรมชาติประจำอยู่ ถ้าจะเรียกด้วยถ้อยคำที่ใช้กันอยู่โดยมาก ก็คือสัจจะ สัจธรรมะ
3. เมื่อมีกฎบังคับอยู่เหนือชีวิต ก็เกิดหน้าที่ที่จะต้องทำให้ถูกตามกฎของธรรมชาติ สรุปความหมายที่ 3 จึงได้แก่หน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ
4. คือผลจากหน้าที่ หน้าที่คือปฏิบัติธรรม ผลของการปฏิบัติ หรือปฏิเวธธรรม รู้สึกว่ามีความหมายดี มีขอบเขตดี
ความหมายของธรรมะทั้ง 4 มีลักษณะเป็นวิทยาศาสตร์ ศาสดาทุกศาสนา สอนเรื่องหน้าที่ที่มนุษย์จะต้องทำ
ระดับต่ำ ธรรมะก็คือหน้าที่ทำมาหากิน ระดับสูง ธรรมะมีหน้าที่ดับทุกข์ ดับกิเลส
...
ครูบาอาจารย์สอนๆไป ก็เขยิบเรื่องหน้าที่ให้สูงขึ้น เป็นเรื่องทางจิตใจ สูงขึ้นไปเป็นจากความเป็นสมาธิ ก็มาเป็นเรื่องของปัญญา เป็นมรรคผลนิพพาน
การปฏิบัติพรหมจรรย์ ที่พระพุทธเจ้าของเราสอนก็เป็นเรื่องหน้าที่ ธรรมะคือเรื่องหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติเพื่อความอยู่รอด สรุปความว่า ธรรมะคือหน้าที่ทุกชนิด ของสิ่งมีชีวิต
แต่หน้าที่มีหลายระดับ อาจารย์พุทธทาสประมวลเป็น 2 ระดับ หน้าที่เพื่อรอดตาย หน้าที่เพื่อพ้นทุกข์
สัตว์เดรัจฉาน มีธรรมะของสัตว์เดรัจฉาน ต้นไม้มีหน้าที่ที่จะต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
ต้นไม้ทำงานทั้งวันทั้งคืน กลางคืนมนุษย์นอน ต้นไม้ไม่ได้นอน มีหน้าที่ระบายคาร์บอนไดออกไซด์
พวกฝรั่งจึงใช้บทนิยาม...ธรรมะคือระบบการปฏิบัติที่ถูกต้อง แก่ความเป็นมนุษย์ ทุกขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการของเขา ทั้งเพื่อประโยชน์ตน และ ประโยชน์ท่าน
“พูดเรื่องนี้มา 15 ปีแรก ไม่มีคนสนใจ แต่ตอนนี้เริ่มมีคนสนใจ เอาไปพิมพ์เป็นหลักการ ธรรมะคือหน้าที่ การทำหน้าที่ของตนนั่นแหละ คือการปฏิบัติธรรม หรือปฏิบัติพระศาสนา” ท่านอาจารย์พุทธทาสว่า
เมื่อพอใจว่า ได้ปฏิบัติธรรมะ ก็ไม่ต้องแก้ตัวว่าไม่มีเวลามาวัด ไม่มีเวลามาปฏิบัติธรรมะที่วัด อยู่บ้านนั่นแหละ ปฏิบัติธรรมทุกอิริยาบถ มีธรรมะเมื่อปฏิบัติหน้าที่ ก็อาจจะพูดได้อย่างโอหังว่า ในโบสถ์ไม่มีธรรมะ ถ้าไม่มีการทำหน้าที่
การมีโบสถ์ไว้ให้ตุ๊กแกร้อง มีโบสถ์ไว้สำหรับไปนั่งเสี่ยงเซียมซี ไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่
หนังสือ “ธรรมะคือหน้าที่” ถึงมือผมใกล้วันสิ้นปี อยากหาของขวัญปีใหม่ ส่งใคร...สักคน...สมทบทุนค่าพิมพ์ 150 บาท ให้หอจดหมายเหตุพุทธทาส (โทร. 0–2936–2800)
ผมขอแนะนำ...หนังสือดีๆ มีค่าทุกเวลา ไม่ว่าปีเก่าปีใหม่ ไม่เคยช้าไม่เคยเร็ว.
กิเลน ประลองเชิง