ผลงานชิ้นใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือการจับชายหญิงชุดดำ 5 คน ในข้อหามีอาวุธร้ายแรงมากมายและก่อเหตุร้ายในระหว่างการชุมนุมของ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อเดือนเมษายน 2553 เป็นเหตุให้ทหารและประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายคน รวมทั้งพลเอกร่มเกล้า ธุวธรรม อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของคดีเกี่ยวกับการชุมนุม 2553
แต่ทำไมจึงต้องรอนานถึงเกือบ 5 ปี จึงทำการจับกุม? แหล่งข่าววงในยืนยันว่าเรื่องชายชุดดำปรากฏอยู่ในสำนวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาตั้งแต่ต้น แต่ระดับผู้นำรัฐบาลก่อนคนหนึ่งให้แนวทางการสอบสวนต้องไม่มีเรื่องกองกำลังติดอาวุธ จึงเปลี่ยนชุดสอบสวนคดีก่อการร้ายใหม่และให้เร่งคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เคยมีชายชุดดำ 4 คน มาขอเงินคนละ 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการเปิดโปงผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ส่วนเหตุที่ไม่มีการดำเนินคดีก่อนหน้านี้ เพราะอดีตอธิบดีดีเอสไอไม่ทำสำนวนคดีก่อการร้ายและยืนยันว่าไม่มีชายชุดดำ (ตามนโยบายของรัฐบาลขณะนั้น) ชายชุดดำจึงเพิ่งจะกลับมาโผล่
เกือบห้าปีหลังเกิดเหตุร้ายกลางกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย ชายชุดดำจึงกลับโผล่ขึ้นมาใหม่ ในทำนอง “น้ำลดตอผุด” หลังจากที่รัฐบาลชุดก่อน
ถูกโค่นโดย คสช. เช่นเดียวกับการจับและยึดอาวุธสงครามมากมาย พร้อมด้วยผู้ต้องหาจำนวนหนึ่ง ที่ก่อเหตุร้ายในการชุมนุมกลุ่ม กปปส. 2556-2557 มีบาดเจ็บล้มตายเป็นอันมาก
รอง ผบ.ตร.ท่านหนึ่งเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุร้ายในการชุมนุม กปปส.ที่ผ่านมา บางกรณีมีตำรวจอยู่เบื้องหลัง ทั้งให้ความช่วยเหลือและปกป้อง แต่วันนี้เรื่องนี้กำลังเงียบหายไป เมื่อผนวกเข้ากับเรื่องชายชุดดำ กลายเป็นกรณีตัวอย่างที่ชัดเจน แสดงว่ามีคนบางกลุ่มอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ต้องรับผิด และไม่ต้องถูกดำเนินคดีใดๆ ถ้ามีอำนาจ หรือผู้มีอำนาจปกป้อง
...
แสดงถึงการทำลายการปกครองตามหลัก “นิติธรรม” อย่างร้ายแรง เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน ถึงจะรู้เห็นว่ามีผู้กระทำผิดกฎหมายร้ายแรง แต่ก็นิ่งเฉย อาจเพราะเกรงกลัวอำนาจการเมือง หรือต้องการประจบนักการเมือง และยอมทำลายเสาหลักสำคัญของระบอบประชาธิปไตย
ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมครั้งใหญ่? ไม่ยอมให้มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่เลือกบังคับใช้กฎหมาย โดยดูหน้าว่าเป็นใคร? ถ้าเป็นผู้มีอำนาจ หรือเป็นคนของผู้มีอำนาจ หรือเป็นพวกพ้อง ต้องยกไว้เหนือกฎหมาย แต่บังคับใช้กฎหมายแต่เฉพาะกับฝ่ายตรงข้ามกับ “นาย” ถ้านิติธรรมย่อยยับ ประชาธิปไตยก็ย่อยยับ ประเทศไทยจะไม่ล้มเหลวได้อย่างไร?