"ตวง อันทะไชย" สนช. เผย จ่อนำข้อบังคับเข้าประชุม 11 กันยายน รวม 221 ข้อ เพิ่มหมวดสิ้นสมาชิกภาพ-ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งได้
วันที่ 6 กันยายน นายตวง อันทะไชย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับการประชุม สนช. เปิดเผยว่า ขณะนี้การยกร่างข้อบังคับเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีทั้งหมด 17 หมวด 1 บทเฉพาะกาล รวมทั้งหมด 221 ข้อ ส่วนใหญ่ยึดตามร่างข้อบังคับการประชุม สนช.ปี2549 แต่มีเรื่องใหม่ 3 เรื่อง คือ 1.การกำหนดการสิ้นสมาชิกภาพ สนช. ตามมาตรา 9(5) รัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 โดยสมาชิกที่ไม่แสดงตนเพื่อลงมติเกิน 1 ใน 3 จำนวนครั้งที่มีการแสดงตนทั้งหมดระยะเวลา 90 วันให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลง ยกเว้นทำหนังสือขอลาประชุมต่อประธาน สนช.
2.จำนวนคณะกรรมาธิการสามัญประจำ สนช. มีจำนวน 1 คณะ บวกกับคณะกรรมาธิการกิจการ สนช.อีก 1 คณะ รวม 17 คณะ
3.หมวดการถอดถอนบุคคลและให้บุคคลพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งการเพิ่มหมวดดังกล่าว เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 ให้ สนช.ทำหน้าที่เป็น ส.ส.และ ส.ว. โดยส่วน ส.ว.มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทำให้จำเป็นต้องร่างข้อบังคับถอดถอนขึ้นเพื่อรองรับ และไม่ได้จงใจถอดถอนผู้หนึ่งผู้ใด
ทั้งนี้ ร่างข้อบังคับจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม สนช. วันที่ 11 ก.ย. ติดดาบ 4 เส้นทางถอนผู้ดำรงตำแหน่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่างข้อบังคับหมวดการถอดถอน และการให้บุคคลพ้นจากตำแหน่งมี 4 ส่วน
ดังนี้ส่วนแรกคือ การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนนี้กำหนดคำนิยามที่เกี่ยวข้อง เช่น คำร้องผู้ถูกกล่าว ผู้ดำรงตำแหน่ง คู่กรณี คณะกรรมการ ป.ป.ช. อีกทั้งกำหนดขั้นตอนระยะเวลาดำเนินการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ ป.ป.ช.ชี้มูล
...
ส่วนที่ 2 คือ การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งตามกฎหมายอื่น โดยกำหนดการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือผู้ดำรงตำแหน่งตามกฎหมายอื่น
ส่วนที่ 3 คือ การให้บุคคลพ้นจากตำแหน่ง กำหนดคำนิยามผู้ร้อง โดยผู้มีสิทธิร้องขอให้สภามีมติให้บุคคลพ้นจากตำแหน่งตามที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ การที่กฎหมายอื่นกำหนด พร้อมกำหนดขั้นตอนการยื่นคำร้องด้วยใช้วิธีลงคะแนนลับก่อนแจ้งเจ้าตัว
และส่วนที่ 4 คือ การให้ความเห็นชอบให้บุคคลพ้นจากตำแหน่ง เป็นกรณีที่รัฐสภาต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลพ้นจากตำแหน่งตามที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายว่าด้วยองค์กรอัยการ และพนักงานอัยการ หรือ ตามที่กฎหมายอื่นกำหนด
ทั้งนี้ข้อบังคับกำหนดให้กระบวนการถอดถอนลงคะแนนลับ และการนับคะแนนให้ขานคะแนนว่า ถอดถอนหรือไม่ถอดถอน เมื่อสภาลงมติแล้วให้ประธานแจ้งมติต่อกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ถูกกล่าวหา หรือ ผู้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง รวมทั้งเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง