ว่ากันตั้งแต่วันแรกที่พบศพนักแสดงฮอลลีวูด โรบิน วิลเลียมส์ เป็นโรคหดหู่เหงาเศร้า...ติดเหล้า เลิกเหล้า แล้วก็เพิ่งเป็นข่าว เขาแขวนคอตาย
ดาราระดับแถวหน้า...ของโลก ฆ่าตัวตาย อะไรทำให้ถึงอับจนสิ้นหนทางถึงขั้นนั้น
ทางกาย...การมีอยู่มีกิน คนระดับนี้ยังอุดมสมบูรณ์ จะมากกว่าน้อยกว่า ดาราระดับเดียวกันบ้าง แต่ก็ยังอยู่สบาย ประเด็นที่เป็นปัญหาอับจน ก็คือ ทางใจ
ผมเคยอ่านหนังสือธรรมะ ที่คุณปรางรัตน์ พิธีกรรายการ เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ส่งมาให้ ติดใจเรื่องเศรษฐีพันล้าน...ฆ่าตัวตาย เหตุราคาหุ้นบริษัทที่เคยขึ้นระดับพันล้าน ตกเหลือร้อยล้าน
เงินร้อยล้าน สำหรับคนทั่วไป เป็นเงินในฝัน เป็นเงินก้อนใหญ่ กินใช้ทั้งชาติไม่หมด แต่กับคนที่เคยเผลอนึกว่ามีพันล้าน...ในบัดนั้น เขากลายเป็นคนขัดสนยากจนไปแล้ว
รายนี้ ประเด็นต้นเหตุ อยู่ที่เงิน แต่รายโรบิน วิลเลียมส์ ไม่ใช่เรื่องของเงิน
ผมเคยดูหนังที่โรบิน วิลเลียมส์ แสดงหลายเรื่อง เรื่องสุดท้าย...ดูซ้ำจากทีวี เขาได้บทเป็นหุ่นประธานาธิบดีธีโอดอร์ โรสเวลส์ ของอเมริกา นั่งอยู่ในหลังม้า เด่นเป็นสง่าอยู่ในพิพิธภัณฑ์
ยามค่ำคืน ทุกสรรพสิ่งในพิพิธภัณฑ์กลับพลิกฟื้นคืนชีวิต...บทหุ่นประธานาธิบดีมีชีวิต...ดูแล้วสนุก แต่ก็เป็นแค่บทตัวประกอบ ย้อนไปคิดถึงบทเด่นๆที่เคยเล่น เรื่องหนึ่งได้รางวัลออสการ์
โรบิน วิลเลียมส์ เคยเป็นหนึ่งในสองนักศึกษาการแสดง ที่สถาบันคัดเลือกเข้าไปเรียนระดับสูงสุด
นักแสดงแถวหน้าบางคนยอมรับนับถือ ถึงขนาดหลุดปาก ถ้าไม่มีโรบิน เขาคงไม่มีวันนี้ ช่วงหลัง ชื่อเขายังมี เมื่อตายยังมีหนังรอฉายอีก 5-6 เรื่อง ว่ากันโดยความจริง...เขายังมีราคาอยู่ในฮอลลีวูด ไม่ได้สิ้นไร้อะไรเลย
เรื่องที่พูดกัน เขาติดเหล้า ต้องเข้ารับการบำบัดเลิกเหล้า แล้วก็กลับมาติดเหล้า...ย้อนไปที่การติดเหล้า ต้นเหตุว่ากันว่า มาจากความหดหู่เหงาเศร้า จะเศร้า เพราะเรตติ้งไม่เท่าเก่า...หรือเศร้า เพราะปัญหาชีวิตส่วนตัว ผมยังรู้เรื่องเขาน้อยไป...
...
แต่สรุปได้...โรบิน วิลเลียมส์ เศร้า จนทนอยู่กับความเศร้าต่อไปไม่ได้
เขาตายไปแล้ว โอกาสที่ใครจะแก้ไข หรือเยียวยาให้ฟื้นคืน คงไม่ได้ เรื่องที่ทำได้ ก็คือเอาเรื่องของเขาเป็นกรณีศึกษา
ทุกศาสนาในโลก สอนทางกาย สอนให้คนทำความดี ละเว้นความชั่ว...พุทธศาสนาสอนไกลกว่า คือ สอนทางใจ รู้จักฝึกใจให้บริสุทธิ์
คำสอน ทีเด็ดเคล็ดลับสุดๆ...ของชาวพุทธ ก็คือ สอนให้รู้จัก อนัตตา ...ตัวตน ซึ่งประกอบด้วยร่างกาย ฐานะ เกียรติยศ ชื่อเสียง...ล้วนแล้วแต่...เป็นความว่างเปล่า แท้จริง ไม่มีตัวตน
ก็เห็นกับตา เอามือจับต้องก็ได้ เอาใจดูก็รู้จักเรื่องราว เหตุไฉน...จึงกล้าบอกว่า...ไม่มีตัวตน
อาศัยเครื่องไม้ เถาเชือก ดินฉาบ และหญ้ามุง มีช่องว่างแวดล้อม ย่อมเรียกกันว่าเป็นเรือน ฉันใด อาศัยกระดูก เส้นเอ็น เนื้อหนัง มีช่องว่างแวดล้อม ย่อมเรียกกันว่าเป็นตัวตน ฉันนั้น
ช้าง ม้า เหล่าทหาร และยานรบทั้งหลาย รวมๆเข้าด้วยกัน ก็เรียกว่ากองทัพ ตึกรามบ้านเรือนผู้คน และกิจการต่างมากหลายชุมนุมกันอยู่ ก็เรียกว่า เมือง
มือกับนิ้ว รวมเข้าด้วยกันในท่าหนึ่ง เรียกว่า กำปั้น หรือหมัด กำปั้นหรือหมัดไม่มีอยู่จริง มีแต่มือและนิ้ว
มือและนิ้วเมื่อแยกส่วนประกอบย่อยๆ ออกไป ก็ไม่มีเช่นเดียวกัน วิเคราะห์กระจายส่วนออกไปได้โดยลำดับ จนในที่สุด ก็หาตัวตนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้
รู้ความจริง...แล้ว คนเคยมีพันล้าน เหลือร้อยล้าน ก็หาความสุขได้ คนเคยมีเกียรติยศ ชื่อเสียง เมื่อหมดไป ยังมีชีวิตอยู่ ยังมีเงินทองพอเลี้ยงตัวตามฐานะ ก็หาความสุขได้
และความสุข ที่เที่ยงแท้ ถาวร ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า...คือความสงบ...ที่เกิดจากความว่าง ความรู้สึกสำนึก ไม่มีตัวตน...นี่เอง.
กิเลน ประลองเชิง