เฟซรวมพลป่วนวันนี้ ห้างร้านผวา-หยุด1วัน บีทีเอสไม่จอด3สถานี คสช.ยํ้าไม่ปิดสื่อ‘ไลน์’

“สมยศ” เผยใช้ตำรวจ-ทหาร สนธิกำลังรวม 38 กองร้อย รับมือแผนมวลชนต้านรัฐประหารตามที่ “บก.ลายจุด”นัดผ่านสื่อออนไลน์ 1 มิ.ย. รวม 8 จุดกระจายทั่วกรุง เน้นย่านราชประสงค์ ขณะที่รถไฟฟ้าบีทีเอสประกาศไม่หยุดรับ-ส่ง 3 สถานี เพลินจิต ชิดลม และราชดำริ เช่นเดียวกับสมาคมห้าง ร้านค้าย่านราชประสงค์ ส่วนใหญ่ประกาศปิดให้บริการ 1 วัน ด้านโฆษก ทบ.ยันเอาอยู่ 2 กลุ่มต้านทั้งแสดงออกเชิงสัญลักษณ์และกลุ่มสื่อโซเชียลมีเดีย ย้ำไม่จำเป็นต้องปิดการสื่อสารทาง “ไลน์” ส่วน “ม.ล.ปนัดดา” ชงทำบุญใหญ่เปิดใช้ทำเนียบรัฐบาล

เข้าวันที่ 3 ทหารไม่ปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปิดให้ใช้สัญจรได้ทุกเส้นทางลดผลกระทบประชาชน พร้อมลดกำลังคุมพื้นที่เหลือ 8 กองร้อย แต่ขอใช้จอแอลซีดีเอกชนแพร่ภาพภารกิจทหาร ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร-ตำรวจ ถกรับมือ แนวร่วม บก.ลายจุดที่ยังใช้สื่อออนไลน์นัดมวลชนชุมนุม 8 จุดใหญ่ทั่ว กทม. ในวันที่ 1 มิ.ย. จ่อใช้กำลัง 38 กองร้อยสนธิกำลังรับสถานการณ์

ฝ่ายมั่นคงถกรับมือม็อบต้าน คสช.

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 พ.ค. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ.ช่วยราชการ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. ระดับ ผบก. รอง ผบก. และ พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการโรงเรียน ศูนย์กลางทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรีในฐานะ ผบ.เหตุการณ์ เข้าร่วมประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความสงบเรียบร้อย หลังมีข่าวกลุ่มมวลชนนัดรวมตัวต่อต้านรัฐประหารตามจุดต่างๆ หลายแห่งใน กทม. นานร่วม 2 ชั่วโมง

...

เตือนฝ่าฝืนอัยการศึกจับทันที

โดย พล.ต.อ.สมยศเปิดเผยว่า เป็นการหารือร่วมตำรวจ ทหารเพื่อวางกรอบการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน กรณีผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารนัดชุมนุมตามจุดต่างๆทั่วเขตนครบาลในวันที่ 31 พ.ค.และวันที่ 1 มิ.ย. รวม 8 จุดคือ ราชประสงค์ อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช สี่แยกเทพารักษ์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุสาวรีย์ปราบกบฏย่านหลักสี่ ห้างเซ็นทรัลบางนา และห้างซีคอนสแควร์ศรีนครินทร์ ในกรณีมีผู้ชุมนุมแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหาร เราจะปฏิบัติตามนโยบายของ พล.ท.ธีรชัย นาควานิตย์ แม่ทัพภาค 1 เหมือนที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพราะถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมายขัดต่อประกาศกฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมทันที จากนั้นส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ทหารคัดกรองว่า บุคคลดังกล่าวเข้าข่ายความผิดสถานใด เพื่อให้ทางทหารดำเนินการต่อไป

กำชับติดตามจับกลุ่มคดีหมิ่นฯ

พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่อว่า ทั้งนี้กำชับสั่งการให้ตำรวจติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมายให้ได้ เช่น นายตั้ง อาชีวะ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด และนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ รวมถึงผู้ที่ทำผิดและมีหมายจับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ซึ่งล่าสุดได้มีคำสั่งฟ้องจ่าสิบเอกประสิทธิ์ ไชยศีรษะ ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ประกาศของ คสช.ฉบับที่ 49 ระบุว่า ห้ามมิให้เจ้าของสถานที่ ร้านค้า โรงแรม หรือสถานที่ใด ให้ผู้ชุมนุมใช้สถานที่ในการแสดงออกต่อต้านการทำรัฐประหาร เพราะถือว่ามีความผิดในการสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.อำนวย ได้หารือกับผู้ประกอบการ ย่านราชประสงค์ถึงประกาศ คสช.ฉบับที่ 49 ว่า ผู้ที่ ให้การสนับสนุนผู้ชุมนุมนั้นเป็นอย่างไร โดยวันที่ 1 มิ.ย.ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ได้ประกาศปิด ถ้ามีการไปชุมนุมที่ร้านแม็คโดนัลด์ ถ้าต่างคนต่างมาก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากมีการรวมตัวเกิน 5 คนขึ้นไป คุยกันเรื่องรัฐประหาร เจ้าของร้านต้องไปไล่เขาออก ถ้าไม่ทำเจ้าของร้านจะมีความผิดข้อหาให้การสนับสนุน จึงต้องเลือกเอาว่าจะยอมเป็นผู้ที่ผิดกฎหมายหรือไล่ผู้ชุมนุมออกนอกร้าน

รถไฟฟ้าบีทีเอสไม่จอดรับ–ส่ง 3 สถานี

“การข่าวของการชุมนุมในวันที่ 1 มิ.ย. รถไฟฟ้าบีทีเอส จะไม่จอดรับผู้โดยสาร 3 สถานี ได้แก่ สถานีเพลินจิต สถานีชิดลม และสถานีราชดำริ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป จนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันเดียวกัน จะมีการปิดเส้นทางการจราจร 4 เส้นทาง คือ แยกเฉลิมเผ่า แยกชิดลม หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ และหน้าโรงเรียนสอนภาษาเอยูเอ รวมทั้งปิดการสัญจรบนสกายวอล์ก จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนประชาชนที่จะเดินผ่านย่านราชประสงค์จะต้องแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ เว้นเฉพาะแขกที่จะเข้าพักแรมให้จัดเจ้าหน้าที่ของโรงแรมประจำจุดตรวจ คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าพัก” พล.ต.อ.สมยศกล่าว

สนธิกำลังตำรวจ–ทหาร 38 กองร้อย

เมื่อถามว่า นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กให้เปลี่ยนแปลงสถานที่ชุมนุม พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า จะประเมินสถานการณ์ว่าจริงหรือไม่ ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีคำสั่งให้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ในค่ายทหารหรือสถานที่ราชการเพื่อเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วสามารถออกปฏิบัติการได้ทันที หากมีการเปลี่ยนพื้นที่หรือเคลื่อนย้ายการชุมนุม เจ้าหน้าที่ทหารก็สามารถเข้าปฏิบัติการได้ทันเวลา โดยเจ้าหน้าที่มีการเกาะติดสถานการณ์จากสื่อโซเชียลต่างๆ ด้านการวางกำลังที่บริเวณราชประสงค์ใช้กำลังตำรวจ 4 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ทหาร 3 กองร้อย รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศกิจ และ ขสมก. โดยกำลังทั้งหมด 38 กองร้อย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร 19 กองร้อยและตำรวจ 19 กองร้อย รักษาความสงบทุกจุดที่มีการชุมนุม

อ้าง รธน.ไม่ได้ขัดกฎอัยการศึก

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อถึงกรณีเหตุเผชิญหน้าหรือมือที่สามสร้างสถานการณ์ว่า ได้ประเมินไว้ทุกกรณี โดยจะดำเนินการตามกฎหมายเช่นเดียวกับที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนการจับกุมจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่ง พ.อ.สมบัติจะเป็นผู้กำหนดแนวทางตามกฎหมายอัยการศึก ที่ทหารจะเป็น ผบ.เหตุการณ์ โดยตำรวจเป็นผู้ให้การสนับสนุน ส่วนด้านการจราจรก็มีการวางแผนเพื่อให้มีผลกระทบประชาชนน้อยที่สุด หากผู้ชุมนุมบอกว่ามาชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญภายใต้สิทธิรัฐ– ธรรมนูญ ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว กฎหมายที่ใช้ในปัจจุบัน คือ กฎหมายการประกาศกฎอัยการศึก ดังนั้นผู้ชุมนุมจะนำรัฐธรรมนูญมากล่าวอ้างไม่ได้เพราะขัดกับกฎ อัยการศึก ทั้งนี้ ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับตำรวจให้ทำงานร่วมกัน อย่าคิดว่าต้องทำเพื่อฝ่ายใด ให้ร่วมมือทำงาน เสียสละเพื่อชาติเพราะ คสช.ต้องการให้เกิดความปรองดอง ไม่มีสี ไม่มีฝ่าย ไม่มีพรรค มีแต่ชาติ

ห้างย่านราชประสงค์ปิดบริการ 1 มิ.ย.

วันเดียวกัน (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ได้ออกแถลงการณ์ว่า จากกระแสข่าวการนัดชุมนุมต่อต้านรัฐประหารกำหนดชุมนุมในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ บริเวณสี่แยกราชประสงค์และทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีการจัดตั้งจุดปิดกั้นการจราจรและวางกำลังเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนสถาน– การณ์สงบลงนั้น ศูนย์การค้าสมาชิกได้แจ้งปิดบริการเป็นเวลา 1 วัน ได้แก่ ศูนย์การค้าเกษร, ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่าและ ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก โดยจะเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 2 มิ.ย. สำหรับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น.- 22.00 น. ส่วนเดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ยังเปิดให้บริการตามเวลาปกติ ทั้งนี้ ทางสมาคมฯและสมาชิกยังได้ยกระดับมาตรการการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ดาดฟ้าตามอาคารสูง ทั้งศูนย์การค้า และอาคารสำนักงาน โดยมีมาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลใดก็ตามสามารถขึ้นดาดฟ้าของอาคารได้ตลอด 24 ชั่วโมง

โฆษก ทบ.แจงพบ 2 กลุ่มต้าน

เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก พร้อม พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค และ พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกกองทัพบก ร่วมประเมินติดตามสถานการณ์รายวัน โดย พ.อ.วินธัย กล่าวถึงกลุ่มต่อต้านรัฐประหารว่า ขณะนี้มีกลุ่มต่อต้านรัฐประหารอยู่ 2 กลุ่มคือ 1.เป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยที่ต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการด้านกฎหมายสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง จึงขอความวิงวอนพี่น้องประชาชนให้ช่วยกัน ห้ามปราม และขอให้เชื่อมั่นการทำงานของ คสช.ที่มี เป้าหมายชัดเจนตามที่หัวหน้า คสช.ชี้แจงแล้ว สำหรับผู้ที่ทำความผิดที่ผ่านมารวมจำนวน 14 คน โดย สน.พญาไท ได้ออกหมายจับแล้วและจับแล้วได้ 1 คน ทั้งนี้ คสช.จะบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพต่อไป

โวผู้เข้ารายงานตัวสะท้อนเชิงบวก

พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า 2.คือกลุ่มที่ต่อต้านและแสดงความรู้สึกผ่านสื่อออนไลน์ และโซเซียลมีเดีย และถือเป็นส่วนน้อยซึ่งได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ที่ได้เข้ารายงานตัวกับ คสช.ตามคำสั่ง คสช.นั้นกลุ่มต่างๆเหล่านี้ได้ให้ความร่วมมือและหาทางออกร่วมกันให้กับประเทศชาติ หลายคนที่เข้าสู่กระบวนการสมาน– ฉันท์ได้สะท้อนกลับในเชิงบวก และมีความเห็นตรงกันในการทำเพื่อประเทศชาติไม่ได้ทำเพื่อใคร ส่วนใหญ่มีความเห็นดีขึ้น

หากคืนสู่ปกติพร้อมปรับกำลัง

ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า เพื่อเป็นแนวทางให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ คสช.จะมีการปรับกำลังในพื้นที่ต่างๆทั้งจุดด่านตรวจหรือการดูแลความสงบให้เหมาะสมกับพื้นที่เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายและตรวจตราอาวุธสงคราม ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ คสช.มีความปรารถนาที่ให้สังคมกลับเข้าสู่ความสงบเป็นไปตามธรรมชาติเหมือนก่อนหน้านี้ให้เร็วที่สุด

คสช.ชี้ไม่จำเป็นต้องปิดสื่อ “ไลน์”

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบการใช้สื่อไลน์ ในโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตว่า พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ โฆษกกระทรวงไอซีทียืนยันถึงกรณีมีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบการใช้สื่อสังคมออนไลน์ใช้เป็นช่องจากการปลุกระดม ชักชวนให้ฝ่าฝืนประกาศ คสช.และทำผิดกฎหมาย โดยคณะทำงาน คสช.จะเข้าไปตรวจสอบเฉพาะรายบุคคลหรือรายกลุ่มที่มีพฤติการณ์เท่านั้น โดยยึดถือแนวนโยบายของหัวหน้า คณะ คสช.ที่พึงระมัดระวังการไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลในการติดต่อสื่อสาร จึงขอให้ประชาชนทราบว่าการใช้สื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ไลน์ยังใช้ได้ตามปกติ ไม่มีการปิดการสื่อสารแต่อย่างใด

รองโฆษก ทบ.ฝากสื่อแจง ปชช.

พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวถึงการนัดหมายเคลื่อนไหวในวันที่ 1 มิ.ย.ของกลุ่มต่อต้าน คสช.ว่า เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจมีแผนและมาตรการในการรองรับเพื่อให้มีความเรียบร้อย ซึ่งระหว่างที่มีเหตุการณ์ คสช.มีการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน เห็นได้จากเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ไม่มีกลุ่มมวลชนออกมาต่อต้านที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเช่นที่ผ่านมา จึงขอฝากสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย ยืนยันว่าเราเคารพความเห็นของทุกฝ่าย แต่ในช่วงนี้ขอให้เห็นแก่ประเทศชาติเป็นที่ตั้ง เพราะการรวบอำนาจครั้งนี้ ไม่ได้ประสงค์ยึดอำนาจเพื่อตัวเอง แต่เพื่อการแก้ไขปัญหาของประเทศ แม้การได้มาซึ่งอำนาจอาจจะไม่ถูกใจคนบางฝ่าย แต่ขอให้ดูผลการปฏิบัติในอนาคตว่า ประเทศชาติจะมีผลเป็นอย่างไร ส่วนตัวเห็นว่าคุ้มค่าจึงขอให้ทุกฝ่ายอดใจรอ

ไม่ปิดอนุสาวรีย์ชัยฯแค่ตรึงกำลัง

ส่วนบรรยากาศที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตั้งแต่เวลา 15.30 น.ตำรวจควบคุมฝูงชนสนธิกำลังกับทหารจากศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี วางกำลังตามจุดต่างๆเพื่อป้องกันการชุมนุมของกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐประหาร โดยวางแผงเหล็กรอบอนุสาวรีย์ชัยฯพร้อมติดป้ายข้อความ “ยามนี้บ้านเมืองต้องการความสามัคคี มาร่วมกันสร้างสิ่งดี เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” เพื่อเตือนสติและป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาใช้พื้นที่ดังกล่าว กระทั่งเวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจไม่ได้ปิดอนุสาวรีย์ชัยฯเช่น 2 วันที่ผ่านมา โดยได้เปิดเส้นทางทุกด้านให้ยานพาหนะต่างๆสามารถใช้สัญจรตามปกติ แต่ยังคงวางกำลังตำรวจตั้งแถวหน้า กระดาน กระจายบริเวณป้ายรถเมล์โดยรอบวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยฯ พร้อมวางกำลังทหารบนสกายวอล์ก และตรอกซอกซอยโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ และยังคงมีประชาชนจำนวนมากนำเครื่องดื่มต่างๆและอาหารมามอบให้ทหารเพื่อเป็นขวัญกำลังใจจำนวนมาก

ทหารลดกำลังเหลือ 8 กองร้อย

พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผบ.โรงเรียนศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี ในฐานะ ผบ.เหตุการณ์กล่าวว่า ได้ลดกำลังทหาร ตำรวจ เหลือ 8 กองร้อยคือ ตำรวจ 3 กองร้อย ทหาร 5 กองร้อย โดยไม่ปิดการจราจรเพื่อผ่อนปรนให้ประชาชนได้สัญจรตามปกติ แต่หากพบว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาใช้พื้นที่ กำลังที่กระจายกำลังตามจุดจะออกมาปิดการจราจรเช่นเดิม เพราะพบว่ายังคงมีการเคลื่อนไหวอยู่เช่นเดิม จึงได้เตรียมความพร้อมไว้รับเหตุ โดยขอความร่วมมือเอกชนช่วยเผยแพร่ภาพการปฏิบัติภารกิจของทหารในการช่วยเหลือประชาชน ตั้งแต่เวลา 16.00-18.00 น. ผ่านจอแอลซีดีขนาดใหญ่ที่ตั้งเหนือศูนย์การค้าแฟชั่นมอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน ฝั่งดินแดงและฝั่ง รพ.ราชวิถี รวม 3 จอได้รับทราบภารกิจของทหาร กระทั่งเวลา 18.20 น.จึงได้นำกำลังทั้งหมดกลับที่ตั้ง โดยไร้เหตุป่วนใดๆ

ฝากขังสาว ก.ศึกษาฝืน “อัยการศึก”