การหารือเพื่อ กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ของ กกต. กับ 58 พรรค

การเมือง เมื่อวันอังคาร แม้จะไม่มีข้อสรุปวันเลือกตั้ง แต่ก็ได้กรอบเวลาชัดเจน เร็วที่สุดคือ 20 กรกฎาคม ถัดไปก็ 17 สิงหาคม และ 14 กันยายน ซึ่ง กกต.จะหารือกับรัฐบาลในปลายเดือนนี้ เสียงส่วนใหญ่อยากจะเลือกตั้งวันที่ 20 กรกฎาคม

การประชุมหารือกันครั้งนี้ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับปากเป็นมั่นเหมาะจะไปร่วมประชุมด้วย สุดท้ายก็เบี้ยว อ้างว่ามีข่าวคนจะลอบทำร้าย ซึ่ง คุณสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.เลือกตั้งบอกว่าไม่มาก็ดี ทำให้บรรยากาศการประชุมสงบ

การเลือกตั้งยิ่งล่าช้าออกไป ประเทศไทยและคนไทยก็จะยิ่งเสียประโยชน์มากขึ้น เพราะวันนี้ “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” หรือ AEC เขาเริ่มนับถอยหลังกันแล้ว อีก 8 เดือนข้างหน้า 10 ชาติอาเซียน ก็จะเข้าสู่บรรยากาศการเปลี่ยนแปลงเพื่อรวมกันเป็นหนึ่งเดียว “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” หลังจากนาฬิกาเคลื่อนผ่านเที่ยงคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2558 คน 600 กว่าล้านคนในสิบชาติอาเซียนก็จะรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว

แต่วันนี้ ประเทศไทยยังไม่มีความพร้อมสักอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎหมายที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งการเคลื่อนย้ายแรงงาน การเคลื่อนย้ายเงินทุน เพราะนักการเมืองไทยเอาแต่ทะเลาะเข่นฆ่ากันเอง จนเลือกตั้งไม่ได้ ทำให้ไม่มีรัฐสภา ไม่มีรัฐบาล ที่จะทำหน้าที่เดินหน้ารับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงอย่างรวดเร็วใน 20 เดือนข้างหน้า

วันก่อน คุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ตัวเก็งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนต่อไป ก็ออกมาพูดอย่างชัดเจนว่า เวลานี้ประเทศไทยเป็นตัวถ่วงของอาเซียนในการเปิดเออีซี ในการแสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อเรื่อง “เออีซี+6 กับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการค้า”

...

คุณสุรินทร์ กล่าวว่า ไทยเป็นตัวถ่วงของอาเซียน เพราะ จนบัดนี้ก็ยังไม่มีรัฐสภาที่ต้องทำหน้าที่พิจารณาข้อตกลงต่างๆ โดยเฉพาะด้านการค้า ถ้าเป็นแบบนี้ไปนานๆ จะทำให้ประเทศไทยและอาเซียนเสียโอกาสอย่างมาก คุณสุรินทร์ได้ให้เครดิตภาคเอกชนว่ามีความสามารถในการแข่งขันสูง แต่การเปิดเออีซีในปี 2558 คงไม่เลื่อนออกไปเพื่อรอความพร้อมของไทยแน่นอนและ ประเทศไทย และ คนไทย ก็จะต้อง ตกรถเมล์เที่ยวสุดท้ายของอาเซียน

ผมจึงเห็นว่า การเลือกตั้งให้เร็วที่สุดเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้มีรัฐสภา มีรัฐบาล เพื่อทำหน้าที่ผลักดันกลไกต่างๆให้เดินหน้าไปได้ ทั้งการเข้าเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีหน้า และการปฏิรูปประเทศตามที่ทุกฝ่ายเรียกร้อง ก่อนยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ไม่มีหรอกครับ รัฏฐาธิปัตย์ สภาประชาชน นายกฯแต่งตั้ง ที่ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ คิดเองเออเอง คนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยแน่นอน

หลายเดือนก่อน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีการสำรวจวิจัย ความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของประเทศเพื่อนบ้าน ผลปรากฏว่า คนไทยมีการรับรู้เรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนสูงเป็นอันดับ 1 ทิ้งห่างเพื่อนบ้านที่เจริญกว่าอย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย เพราะรัฐบาลทุ่มเงินทำประชาสัมพันธ์เรื่องเออีซีกันมันปากและรวยกันพุงปลิ้น

แต่พอถึงหัวข้อ “ความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” ผลสำรวจออกมา ประเทศไทยอยู่อันดับบ๊วยระดับเดียวกับลาว เขมร พม่า ถูก สิงคโปร์ และ มาเลเซีย ทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น นี่คือเรื่องจริงที่น่าเศร้าของประเทศไทย

เมื่อประเทศไทยไม่มีความพร้อมในการเป็นเออีซี เปิดพรมแดนเชื่อมโยงกับ 10 ประเทศอาเซียนเมื่อไร ผมยังนึกไม่ออก ประเทศไทยและคนไทยจะรับมือกันอย่างไร

วันนี้ประเทศไทยหมดเวลาที่จะไปถกในเรื่องไร้สาระอีกต่อไปแล้ว ไก่เกิดก่อนไข่ ไข่เกิดก่อนไก่ ปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง เลือกตั้งก่อนปฏิรูปประเทศ ทางออกที่ดีที่สุดที่ผมเห็นก็คือ “ทางสายกลาง” เลือกตั้งไปเพื่อปฏิรูปประเทศ แล้วทุกอย่างก็จะค่อยๆดีขึ้นเอง ไม่มีทางที่จะปฏิรูปประเทศได้ในชั่วข้ามคืน ต่อให้มีการปฏิวัติก็ตาม.

 

“ลม เปลี่ยนทิศ”