"เลขาฯ ปชป." รับ ฐานสมาชิกหดตัว ไม่เว้นแม้แต่ภาคใต้ เผยยอดรายรับปีที่แล้ว 121 ลบ. น้อยกว่ารายจ่าย 3.4 ลบ. โว อันดับ 1 ได้รับบริจาคผ่านภาษีมากที่สุด เผยแกนนำเดินสายพบผู้สนับสนุนสัปดาห์ละ 2 วัน หาเงินหนุน...
วันที่ 29 มี.ค. 57 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ มีการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ประจำปี 2556 เป็นวันที่ 2 นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. และนายจุติ ไกรฤทธิ์ เลขาธิการพรรค ปชป. มีวาระพิจารณางบการเงินในปีที่ผ่านมา

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในปี 2556 พรรค ปชป. มีรายได้จำนวน 121 ล้านบาท โดยมีที่มาจากเงินบริจาค 65.2 ล้านบาท เงินสนับสนุนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) 42.5 ล้านบาท เงินบริจาคผู้เสียภาษี 11.4 ล้านบาท ค่าบำรุงสมาชิก 1 แสนล้านบาท การจัดกิจกรรมหาเงินสนับสนุนพรรค 8 แสนบาท และรายรับอื่นๆ 1 ล้านบาท ส่วนรายจ่ายนั้นมีจำนวน 124.4 ล้านบาท มีรายจ่ายมากว่ารายรับ 3.4 ล้านบาท

...
ทางด้าน นายจุติ กล่าวถึงแผนงานปี 2558 ของพรรค ปชป. ว่า พรรค ปชป. จะอบรมเพื่อขยายฐานสมาชิกของพรรค เนื่องจากแต่ละภาคมีการเพิ่มของสมาชิกน้อยมาก ไม่เว้นแม้แต่ภาคใต้ ที่ถือเป็นจุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังมีบางจังหวัดที่มีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น เช่น นครสวรรค์ ชัยภูมิ หรือเขตบางพลัดใน กทม. ที่เป็นแชมป์มีสมาชิกเพิ่มมากที่สุดของแต่ละภาค นอกจากนี้ ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพสาขาพรรคที่มีอยู่เดิม ให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของ กกต.ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมไปถึงการตั้งสาขาใหม่ ซึ่งจะต้องอาศัยฐานสมาชิกที่มั่นคง

นายจุติ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญอีกประการ คือ การขยายแนวร่วมทางการเมือง เช่น การจัดค่ายยุวประชาธิปัตย์ หรือรุ่นใหม่อนาคตไทย ซึ่งเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์มาก เพราะคนที่ผ่านโครงการเหล่านี้มา จะกลับมาช่วยงานพรรคต่อไป และโครงการสมาชิกสัมพันธ์ที่เมื่อมีการปรับฐานสมาชิกพรรคของ กกต. จากเดิมที่มีจำนวน 4.5 ล้านคน เหลือเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น การจัดโครงการคืนสู่เหย้าอดีตสมาชิกพรรค และฟื้นโครงการวารสารออนไลน์ของพรรค เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ที่จะเปิดตัวในวันที่ 6 เม.ย.นี้
“ปีนี้พรรคจะรณรงค์เรื่องเงินบริจาคจากเงินภาษี เพื่อให้พรรคมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น และยังจะสามารถวัดได้ถึงความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคด้วย ใน 5 ปีที่ผ่านมา พรรค ปชป. ได้รับเงินบริจาคจากภาษีของประชาชนมากที่สุด ทั้งนี้ แม้รายได้ปีที่ผ่านมาจะติดลบ อีกทั้งรายได้จาก ส.ส.หายไป เพราะไม่มีสภาผู้แทนราษฎร แต่แกนนำพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เดินสายพุดคุยกับผู้สนับสนุนพรรคถึงเป้าหมายการปฏิรูปพรรคสัปดาห์ละ 2 วัน และอดีต ส.ส.บางท่าน ยังช่วยบริจาคเงินเข้าพรรคเดือนละ 1-2 หมื่นบาท คาดว่าจะได้รับรายได้ส่วนนี้เดือนละ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รับทราบถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้บริจาคเงินให้พรรคจำนวน 5 ล้านบาท รวมถึงแผนจัดระดมทุนในอนาคตด้วย” นายจุติ กล่าว.

