โฆษก ปชป.ถาม "เฉลิม" รับธงนายใหญ่ ดิสเครดิตศาล ขู่เหตุรุนแรง ตีปี๊บยุคปฏิรูปฯ จี้ "ยิ่งลักษณ์" แสดงจุดยืน อัดซ้ำ ใช้สื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง
วันที่ 11 มี.ค. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำสัมภาษณ์ ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน และผอ.ศรส. ที่ระบุในทำนองว่า หากกระบวนการยุติธรรม ตัดสินไม่ถูกใจพวกตัวเอง ก็จะถูกวิจารณ์ทำลายความน่าเชื่อถือนั้นว่า ขอเรียกร้องให้บุคลากรในฝั่งรัฐบาล เลิกกล่าวหา และสร้างภาพความขัดแย้งในกระบวนการยุติธรรมไทย เพราะเป็นการทำลายระบบนิติรัฐของประเทศ ทำลายกระบวนการนิติธรรม ถือเป็นการวางยาพิษให้กับประเทศไทยอย่างรุนแรง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเคยได้ประโยชน์จากการตัดสินของกระบวนการยุติธรรมก็เงียบ และขอให้องค์กรอิสระและศาลยึดหลักความถูกต้อง ไม่ใช่ยึดตามความต้องการของใคร เพราะจะทำให้ประเทศชาติล่มจมแน่นอน
และขอสังเกตว่า คำสัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิมที่ระบุว่า อาจเกิดสงครามกลางเมืองนั้น อาจเกิดจากนายใหญ่สั่งแล้วใช่หรือไม่ จึงเกรงว่าจะมีการปลุกมวลชนเข้ามาในกรุงเทพฯ เพื่อสร้างความรุนแรง นำเรื่องนี้มาขู่ว่า ชายชุดดำจะรีเทิร์น ไฟจะลุกท่วม และเกิดเหตุใช้ความรุนแรงมากกว่า ปี 2553 ใช่หรือไม่ จึงขอให้ข้าราชการฉุกคิดว่า อย่าเป็นเครื่องมือทางการเมืองให้รัฐบาล โดยเชื่อว่าสองเดือนต่อจากนี้ไป จะเป็นช่วงอันตรายสำหรับประเทศไทย
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่ยุคการปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริง โดยเวที กปปส.ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะมีการนำเสนอแนวทางการปฏิรูป จัดทำเป็นรูปเล่ม เพื่อเผยแพร่ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ จึงอยากเห็นว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างไร เช่น การขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน เพราะประชาชนอยากเห็นการแก้ปัญหาการโกง
...
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจน เพราะทีดีอาร์ไอระบุชัดว่า สองปีที่ผ่านมา การทุจริตรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าว ที่ทำให้การทุจริตมากขึ้น มีการปกปิดข้อมูลของภาครัฐมาก จนก่อให้เกิดปัญหาการทุจริตเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งนอกจาก กปปส. ภาคเอกชนและพรรคประชาธิปัตย์แล้ว รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ไม่เคยเสนอแนวคิดในการปฏิรูปประเทศเลย แต่บิดเบือนข้อเท็จจริง เรื่องจำนำข้าว ผ่านช่อง 11 ทุกคืน โดยให้ข้อมูลด้านเดียวที่เป็นประโยชน์กับรัฐบาล งบกลาง 2 หมื่นล้าน ก็ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ขณะที่การระบายข้าวของไทยก็มีปัญหาเพราะเวียดนามลดราคาข้าวลงมาแข่ง ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ เกิดภาวะขาดทุน มีรายได้น้อยกว่าที่รัฐบาลคาดไว้