การเลือกตั้งครั้งนี้ แม้จะไม่สามารถเลือกได้ครบทุกหน่วย ทุกพื้นที่ แต่คะแนนที่ถูกประกาศออกมาอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับการเลือกตั้ง 3 ก.ค. 54 ก็สามารถมองภาพของฐานเสียงพรรคเพื่อไทยที่หายไปอย่างชัดเจน และมีนัยสำคัญ อย่างภาคเหนือ ซึ่งเป็นฐานเสียงพรรคเพื่อไทย มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในปี 54 จำนวน 8,552,633 คน ผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 6,598,881 คน หรือคิดเป็น 77.16 % บัตรเสีย 409,895 (6.21%) มีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือ vote no 153,629 บัตร (2.33%) ขณะที่การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ปรากฏว่า ภาคเหนือมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 8,782,917 คน ผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 4,776,165 คน หรือเพียง 53.02% ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งน้อยกว่าการเลือกตั้ง 54 ที่มีผู้มาใช้สิทธิ์มากถึง 77.16 % และน่าสังเกตว่าการเลือกตั้งรอบนี้ ภาคเหนือซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ยังมีผู้ประสงค์ไม่ลงคะแนนสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ถึงหลักล้านคน จากที่เคยมีเพียงหลักแสน ในการเลือกตั้งปี 54 โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้ประสงค์ไม่ลงคะแนนจำนวน 1,001,645 คน ขณะที่การเลือกตั้ง 3 ก.ค. 54 มีผู้ประสงค์ไม่ลงคะแนนหรือ vote no เพียง 153,629 คนเท่านั้น

เมื่อลงลึกไปรายจังหวัดที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยจริงๆ อย่างจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับพบว่า ถึงแม้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากถึงร้อยละ 75.05 หรือคิดเป็น 827,808 คน จากผู้มีสิทธิ์ทั้งสิ้น 1,103,059 คน แต่ก็น้อยกว่าการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค. 54 ที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์มากถึงร้อยละ 83.13 หรือ 1,002,547 คน จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1,205,955 คน ที่สำคัญ จำนวนผู้ประสงค์ไม่ลงคะแนนในปีนี้มีมากกว่าการเลือกตั้งในปี 2554 ถึงกว่า 6 เท่า โดยผู้ประสงค์ไม่ลงคะแนนในการเลือกตั้งปี 54 มีเพียง 27,194 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.71 ขณะที่การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ประสงค์ไม่ลงคะแนนมากถึง 163,398 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 20.22 ในขณะที่บัตรเสียรอบนี้มีมากกว่ารอบที่แล้วกว่า 2 เท่าตัว โดยบัตรเสียในการเลือกตั้ง 54 มีเพียง 56,136 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.60 ขณะที่บัตรเสียการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 มีมากถึง 129,983 คน   

เมื่อไปดูอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นฐานเสียงพรรคเพื่อไทยอย่างจังหวัดเชียงราย จะพบว่า มีปัญหาไม่ต่างจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ลดน้อยลงกว่าการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค. 54 แต่จำนวนบัตรเสีย และผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนน หรือ vote no กลับเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยจังหวัดเชียงรายมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในปี 54 ทั้งสิ้น 870,086 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 669,909 คน คิดเป็นร้อยละ 76.99 ขณะที่การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 889,889 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 570,923 คน คิดเป็นร้อยละ 64.16 ส่วนจำนวนบัตรเสียในปีนี้มากกว่าปี 54 ทั้งสิ้น 23,612 ใบ โดยในปีนี้มีบัตรเสียถึง 65,562 ใบ คิดเป็นร้อยละ 15.70 ขณะที่ปี 54 มีบัตรเสียเพียงร้อยละ 6.62 เท่านั้น มาดูกันที่จำนวนผู้ที่ประสงค์ไม่ลงคะแนน จะพบว่าการเลือกตั้งปีนี้ผู้ที่ประสงค์ไม่ลงคะแนนมากกว่าปี 54 อยู่ถึง 76,634 ใบ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้ประสงค์ไม่ลงคะแนนมากถึงร้อยละ 15.85 หรือคิดเป็น 90,492 คน ขณะที่จำนวนผู้ประสงค์ไม่ลงคะแนนปี 54 มีเพียงร้อยละ 2.07 ของผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

...

ข้ามไปดูฐานเสียงพรรคเพื่อไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ้าง ปรากฏว่า ชะตากรรมไม่ต่างกันกับภาคเหนือ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในปี 54 จำนวน 15,809,833 คน มีผู้ออกมาใช้สิทธื์เลือกตั้ง 11,458,596 คน คิดเป็นร้อยละ 72.48 ขณะที่ในการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ปรากฏว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งลดลง โดยมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในปี 57 จำนวน 16,590,925 คน มีผู้ออกมาใช้สิทธื์เลือกตั้ง 9,009,878 คน คิดเป็นร้อยละ 55.31 เมื่อไปพิจารณาจำนวนบัตรเสีย และจำนวนผู้ประสงค์ไม่ลงคะแนนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่าปี 57 กลับมีเพิ่มมากขึ้นจากปี 54 โดยบัตรเสียในปี 57 มีจำนวน 847,895 คิดเป็นร้อยละ 9.41 เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่มีจำนวนบัตรเสียเพียง 617,072 ใบ คิดเป็นร้อยละบัตรเสีย 5.39

ขณะที่จำนวนผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนก็มีลักษณะสอดคล้องกับภาคเหนือ คือ เพิ่มขึ้น จากปี 54 โดยจำนวนผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนปี 54 มีเพียง 184,423 ใบ คิดเป็นร้อยละเพียง 1.61 ขณะที่จำนวนผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนปีนี้มีมากถึง 860,970 ใบ หรือคิดเป็นร้อยละ 9.56 เมื่อลงลึกไปที่รายจังหวัดเริ่มกันที่จังหวัดขอนแก่น พบว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกมาใช้สิทธิ์น้อยกว่าปี 54 ขณะที่จำนวนบัตรเสีย และผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนจำนวนเพิ่มขึ้น โดยในปี 57 มีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 754,529 คน จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1,356,323 คน หรือร้อยละ 55.63 ปรากฏว่าลดลงจากปี 54 ที่มีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 973,962 คน จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1,329,944 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 73.23 ขณะที่จำนวนบัตรเสียนั้นเพิ่มขึ้น จาก 38,855 (3.99) ในปี 54 เพิ่มขึ้นมาเป็น 68,811 คน (9.12 )ในปี 57 ส่วนผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนน หรือ vote no จาก 17,216 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.77 เพิ่มขึ้นในปี 57 เป็น 80,461 คน (10.66)

ส่วนอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย คือ จังหวัดอุดรธานี ปีนี้ผู้มาใช้สิทธิ์ลดลงอย่างก้าวกระโดด จากร้อยละ 69.21 ในปี 54 ลดลงเหลือ 54.52 ในปี 57 โดยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในจังหวัดอุดรธานี ในปี 57 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,169,246 คน มีผู้ออกไปใช้สิทธิ์ 637,438 คน บัตรเสีย และโหวตโน มากถึง 106,732 คนเลยทีเดียว ขณะที่การเลือกตั้งปี 54 มีบัตรเสีย 31,491ใบ และไม่ประสงค์จะลงคะแนนเพียง 13,841 คนเท่านั้น