ชวรัตน์
สัญญาณรวนๆของระบบยุติธรรมเมืองไทย
โดยอาการเดือดปุดๆของเหล่าอรหันต์ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ต่อสายนัดรวมพล แถลงตอบโต้โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
ปักหลักแลกหมัด ซัดกันหน้าดำหน้าแดง
ควันหลงจากคดีทุจริตกล้ายางที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกฟ้อง 44 จำเลย ไม่มีความผิดตามที่ถูก คตส.ชงสำนวนเชือด โดยไม่ยอมรับฟังข้อทักท้วงที่คณะทำงานของอัยการสูงสุดขอให้สอบประเด็นให้สมบูรณ์
เอ็งเป็นใคร มาสอนข้า
ในอารมณ์ต่างฝ่ายต่างก็ถือตนว่า "เซียน" เหลี่ยมกฎหมายไม่ด้อยไปกว่ากัน
มันก็อยู่ที่สังคมจะฟังใครมากกว่า ระหว่าง คตส.มีที่มาโดยคำสั่งของคณะรัฐประหาร กับอัยการสูงสุดที่เป็นทนายความแผ่นดินตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ความศักดิ์สิทธิ์ในอำนาจหน้าที่ ใครหนักแน่นกว่ากัน
แต่ทั้งหมดทั้งปวง โดยปรากฏการณ์ขบเหลี่ยมกันระหว่าง คตส.กับอัยการสูงสุด มันฟ้องว่า โดยกระบวนการชำระโทษเครือข่ายรัฐบาลไทยรักไทยตามโปรแกรมหลังการรัฐประหารล้มอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ว่าด้วยการสะสางคดีโกงให้เข้าเงื่อนไขคอรัปชัน ล้อเหตุในการแถลงปฏิวัติยึดอำนาจ
ไม่ได้ว่ากันตามเนื้อผ้าเพียวๆ
แต่ยังแฝงไว้ด้วยเรื่องของอารมณ์ และการขบเหลี่ยมเฉือนคมกันในหมู่คนที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ
และก็เป็นธรรมดา เมื่อคนชงสำนวนฟ้องเกิดอาการขัดขา ขบเหลี่ยมกันตั้งแต่ต้น
ก็ไม่แปลกที่ผลการตัดสินออกมา ศาลจะยกประโยชน์ให้จำเลย
ไม่ผิดก็คือไม่ผิด
ที่แน่ๆโดยเหลี่ยมการเมือง ผลสืบเนื่องจากการหลุดบ่วงคดีทุจริตกล้ายาง ก็ยิ่งประทับยี่ห้อ "เนวิน ชิดชอบ" ผู้ฆ่าไม่ตาย
กลายเป็น "พยัคฆ์ติดปีก"
...
ฉุดราคาหุ้นพุ่งพรวด ทั้งค่ายภูมิใจไทย และน้องรักอย่าง "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล หุ้นส่วนการเมืองใหญ่ ราคาขึ้นทันตา
เอาเป็นว่า นาทีนี้ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่พรรคภูมิใจไทย ทั้งกลุ่มทุน บิ๊กข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ส.ส. รวมไปถึงบรรดาเซียนเลือกตั้งขาใหญ่ในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล
ต่อสายแท็กทีม ฟอร์มขั้วกันล่วงหน้า
เบื้องต้นเลย "เนวิน" ช่วยดึงราคาต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาล เสียงดังในการพูดจากับแกนนำอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ในเกมยื้อแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ตามสัญญาณเข้มๆ มติพรรคภูมิใจไทยตีธงเดินหน้าทวงสัญญาก่อนพลิกขั้วร่วมรัฐบาล ยื่นคำขาดต้องแก้ปม การทำสนธิสัญญาไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และที่มาของ ส.ส. กลับไปใช้การเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว
ประชาธิปัตย์กล้าเบี้ยว "เนวิน" ก็กล้าเปิดเกม "เขี้ยว" ก่อนจาก
เสือติดปีกพร้อมบินอยู่แล้ว
ที่แน่ๆโดยหนทางข้างหน้าที่น่าเสี่ยงมากกว่า โดยสถานะของค่ายภูมิใจไทยที่พร้อมทั้งทุน นักเลือกตั้งมือชั้นเซียน ขุมข่าย ข้าราชการมหาดไทย ตำรวจ ที่วางไว้เพื่อชิงความได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง แถมยังมีทหารถือหาง
แม้จะดันแต้มได้ไม่ถึงพรรคอันดับหนึ่ง พรรคอันดับสอง แต่โดยฐานะตัวเต็งพรรคอันดับสามที่แพ็กกันแน่นกับพรรคร่วมรัฐบาล
สวิงซ้ายไปประชาธิปัตย์ สวิงขวาไปที่ขั้วเพื่อไทย
ยี่ห้อ "เนวิน" เลือกกดปุ่มได้
แต่จะว่ากันถึงขนาดจองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี นาทีนี้ "เนวิน" น่าจะยังฉลาดพอ
ไม่หลงเกม "ยื่นบาทา" ล่อเป้าให้
โดยจังหวะที่ติดลมบนของยี่ห้อภูมิใจไทย เบื้องต้นจึงต้องมองไปที่สิงห์เฒ่าอย่าง "ปู่จิ้น" นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย ที่พร้อมสุดทั้งเรื่องชั้นเชิงธุรกิจจากการปั้นยักษ์ก่อสร้างชิโน-ไทย ลูกเก๋าทางการเมืองที่สัมผัสมาตั้งแต่ยุค "น้าชาติ" พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกฯ ที่สำคัญอยู่ในชั้น "ผู้มีสถานะพิเศษ"
หาก "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ตกท่อ หลงเกมเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ มีอันหลุดวงโคจร
"ปู่จิ้น" น่าจะพร้อมสุดสำหรับนาทีฉุกเฉิน.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน