ศาลฎีกา พิพากษากลับ ยกฟ้อง อดีต กกต."วาสนา-ปริญญา" กรณีจัดเลือกตั้งมิชอบเมื่อปี 2549 ชี้ ถาวร เสนเนียม ในฐานะโจทก์ ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง

วันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญารัชดา คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ฟ้องสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ นายวีระชัย แนวบุญเนียร พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา อดีตเลขาธิการ กกต. เป็นจำเลยที่ 1-6

ในคดีที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร่วมกันเป็นจำเลยในฐานความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24 และมาตรา 42 กรณีกำหนดจัดการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตรอบที่ 2 โดยไม่มีอำนาจ และออกหนังสือเวียนให้เปิดรับผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต โดยมิชอบ เมื่อวันที่ 23 และวันที่ 29 เมษายน 2549

โดยคดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุก พล.ต.อ.วาสนา นายปริญญา และนายเอกชัย ไว้คนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจำเลยทั้ง 3 คน เป็นเวลา 10 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 6 ได้ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ขณะ พล.อ.จารุภัทร จำเลยที่ 5 ได้ลาออกจาก กกต.ไปก่อน นายถาวร เสนเนียม (โจทก์) จึงถอนฟ้อง ขณะที่นายวีระชัย ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555 ด้วยโรคไตวาย

ศาลฎีกา ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายถาวร โจทก์ ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงไม่มีอำนาจในการฟ้อง