สุเทพ

โชว์ฟอร์ม "รักษาการนายกรัฐมนตรี" นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.ปล่อยไฟเขียวผ่านตลอด ชนิดที่แฮปปี้กันไปทั้งพรรคร่วมรัฐบาล ทหารบก ทหารเรือ ตำรวจ

ถึงขนาดที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแอบชื่นชมกับนักข่าวลับหลัง

กับบท "ซื้อใจ" ผ่อนอาการขึงพืดลงได้ระดับหนึ่ง มันก็น่าคิดเหมือนกัน ถ้า "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ผู้จัดการใหญ่รัฐบาล ได้นั่งเป็นนายกรัฐมนตรี ตัวจริงเสียงจริง

เผลอๆรัฐบาลผสมยี่ห้อประชาธิปัตย์อาจจะยื้อไปจนจบเทอมก็ได้

โดยเฉพาะกับบท "นักเลง" จริงใจ คิดยังไง ก็พูดออกมาอย่างนั้น

"รัฐบาลยังไม่พร้อมยุบสภา"

นี่แหละเฉลยข้อสอบ

"เทพเทือก" ตอบพรรคร่วมรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา เป็นอะไรที่ได้ใจเพื่อนมากกว่า เมื่อเทียบกับลีลาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ชอบเล่นมุกซ้ำๆ

เอะอะก็ขู่ยุบสภา พร้อมเลือกตั้งใหม่ ทางใครทางมัน

งัดไม้ตายสยบพรรคร่วมรัฐบาล

แต่บังเอิญว่า เซียนเลือกตั้งเขี้ยวทันกันอ่านขาด

ตราบใดที่นายกฯอภิสิทธิ์ยังสาละวนกับเกมกั๊กเก้าอี้ ผบ.ตร.คนใหม่ เล่นบทเด็กดื้อสำแดงพลังในฐานะนายกรัฐมนตรี

สะท้อนอารมณ์เบื้องลึก ยังสนุกอยู่กับเกมอำนาจ

ไม่มีทางที่จะปล่อยให้เก้าอี้นายกรัฐมนตรีหลุดลอยไป

โดยเฉพาะตามกระแสที่รู้กันอยู่แก่ใจในหมู่นักเลือกตั้งอาชีพ นาทีนี้ถ้ายุบสภาไปก็เข้าทาง "นายใหญ่" กระแสยี่ห้อ "ทักษิณ ชินวัตร" เชื่อขนมกินได้ในภาคอีสาน กับภาคเหนือ

แม้แต่กรุงเทพฯ ก็ลองเช็กโพลกันใหม่ให้ดีๆ

เอาเป็นว่า ถ้าเทียบไฟต์บังคับกัน ถึงที่สุดแล้วพรรคร่วมรัฐบาล ยังเล่นบท "อีแปะ" สวิงขั้วไปอยู่กับฝั่งเพื่อไทยได้ ต่างกับฝ่ายประชาธิปัตย์ถ้าพลาดแล้วพลาดเลย

...

ที่นั่งฝ่ายค้านดักดานรออยู่ตรงหน้า

"อภิสิทธิ์" จะบ้าจี้ยุบสภา ก็ให้มันรู้กันไป

ที่แน่ๆกับเงื่อนไขเป็นเงื่อนไขตาย "เทพเทือก" ยืนยันทำตามสัญญาลูกผู้ชายที่รับปากไว้กับพรรคร่วมรัฐบาลในวันพลิกขั้วมาหนุนพรรคประชาธิปัตย์ ดันก้น "อภิสิทธิ์" ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แลกกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ทุกอย่างที่พูดไว้กับพรรคร่วมรัฐบาลยังเหมือนเดิม

เบื้องต้นใน 2 ประเด็นคือ มาตรา 190 การทำสนธิสัญญาไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และการกลับไปเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว

ประชาธิปัตย์ยึกยัก แต่ "เทพเทือก" ไม่กล้าเบี้ยว

ที่แน่ๆโดยจังหวะที่พลิกจากเบี้ยล่าง กลับมาเพิ่มอำนาจต่อรอง ภายหลังยี่ห้อ "เนวิน ชิดชอบ" หลุดบ่วงคดีทุจริตกล้ายาง

เสียงเขี้ยวๆ สัญญาณเข้มๆจากค่ายภูมิใจไทย ทวงกันซึ่งๆหน้า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเงื่อนไขก่อนที่พรรคภูมิใจไทยจะตกลงเข้าร่วมรัฐบาล

ดังนั้น  เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลเห็นตรงกันหมดก็ควรที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรม

กล้าสวนกันชัดๆ ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่นายกฯอภิสิทธิ์เสนอ

มติพรรคภูมิใจไทยย้ำจุดยืนสนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็นคือ มาตรา 190 และการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นแบบเขตเดียวเบอร์เดียว โดยสามารถแก้ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องมีการตั้ง ส.ส.ร. 3

ภูมิใจไทยใส่เกียร์ห้าไล่บี้

ขณะที่นายกฯอภิสิทธิ์ส่งเสียงแถลงข่าวผ่าน Web Conference มาจากสหรัฐอเมริกา ย้ำการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีเพียงร่างเดียวที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องและต้องมีการทำประชามติ

ยื้อมาพบกันตรงจุดที่พอรับกันได้

พรรคร่วมรัฐบาลได้แก้ปมกลับไปเลือกตั้งเขตเดียวเบอร์เดียว เปิดช่องเบียดแทรกกับพรรคการเมืองใหญ่ ขณะที่ประชาธิปัตย์ก็ขอต่อเวลาเป็นรัฐบาลออกไป

ล่าสุดประธานวิป 3 ฝ่ายจับมือกันเพื่อยืนยันผลักดันร่วมกันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ โดยหลักอยู่ที่วิปรัฐบาลได้เสนอให้ใช้วิธียกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น 6 ญัตติ และให้ทุกพรรคการเมือง รวมทั้งวุฒิสภาร่วมกันลงชื่อในญัตติที่เห็นด้วย เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นเจ้าภาพนำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เริ่มจูนคลื่นตรงกัน.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน