บทวิจารณ์ต่อกรณี ความพยายามในการที่จะแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ แทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ต้องเจอพิษการเมืองเอาช่วงโค้งสุดท้าย ไม่ค่อยจะมีผลดีต่อ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่าไหร่นัก ด้วยอาการกระเหี้ยนกระหือรือ ของนายกฯอภิสิทธิ์ วันนั้นจนถึงวันนี้
สะท้อนผู้นำไร้อำนาจ
สะท้อนถึงภาวะผู้นำ และสะท้อนถึงประสบการณ์การทำงาน การเป็นผู้นำประเทศต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ ไม่ใช่เหลิงอำนาจ หรือดื้อรั้น เอาแต่ใจตัวเอง
ทำไปทำมาตำแหน่ง ผบ.ตร. จะต้องใช้วิธีการตั้งรักษาการ ไปเรื่อยๆ จนกว่ารัฐบาลจะหมดอายุ หรือจนกว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง อาจจะทำได้แต่ก็ไม่สง่างาม
ไม่ว่าจะออกมาแนวทางใดก็ตาม ความศรัทธาในภาวะผู้นำก็จะเสื่อมลงเรื่อยๆ และที่สำคัญจะกระทบถึงการบริหารประเทศไปอย่างนี้ไม่มีวันยุติ
วิสัยทัศน์ผู้นำไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
การอ้างข้อมูลพิเศษบางอย่างที่นายกฯ อภิสิทธิ์ ออกอาการดื้อตาใส จนกระทั่งการประชุม ก.ต.ช.เพื่อเลือก ผบ.ตร. ต้องล่มเป็นครั้งที่สอง และเลื่อนการประชุมออกไปอย่างไม่มีกำหนด
จู่ๆนายกฯ ในฐานะประธาน ก.ต.ช. ก็ เรียกประชุม ก.ต.ช. เร็วขึ้น จู่ๆตั้ง ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิแบบสายฟ้าแลบเพื่อให้ได้เสียงสนับสนุนเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ในขณะที่ปลัดกระทรวงยุติธรรม ก.ต.ช.โดยตำแหน่งปฏิบัติราชการอยู่ในต่างประเทศ ขณะที่มีคำสั่งให้ปลัดยุติธรรมปฏิบัติราชการต่างประเทศไปก่อน ขณะที่มีการตั้งรองปลัดยุติธรรมรักษาการปลัดยุติธรรมเพื่อการนี้โดยเฉพาะ กรรมส่อเจตนา
แม้แต่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการ ผบ.ตร.คนที่คิดว่าจะพึ่งพาอาศัยได้ ก็เปลี่ยนจุดยืนหลังจากรับทราบถึงข้อมูลบางอย่าง
ตำแหน่ง ก.ต.ช.อาวุโส พล.ต.อ.ธวัชชัย ภัยลี้ ก็ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ จะคิดอย่างไรก็เป็นอีกเรื่อง รองปลัดยุติธรรมที่เข้าประชุมแทนปลัดยุติธรรมจะลงมติได้หรือไม่ก็ไม่รู้
คาทั้งข้อกฎหมายและข้อมูล
ถ้อยแถลงชี้แจงถึงสาเหตุของการเลื่อนลงมติเลือก ผบ.ตร. เมื่อวันก่อน อาจจะมี ภาพของกรรมการ ก.ต.ช.นั่งแถลงข่าวกันครบหน้าก็จริงอยู่ แต่ไม่ได้สร้างความอบอุ่นได้เลย
เหมือนถูกบังคับกินยาขม เพราะการแก้ปัญหาไม่ใช่การสร้างภาพ ภาวะผู้นำไม่ได้สร้างขึ้นได้ในวันเดียว แต่จะต้องเกิดขึ้นมาจากการสร้างบารมีและอำนาจที่ชอบธรรม ตำแหน่ง ผบ.ตร.อาจจะกินไม่ได้ เป็นแค่กลไกหนึ่งของการบริหารประเทศแต่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และภาวะของผู้นำประเทศ
โอบามาร์คกำลังตกที่นั่งลำบากซะแล้ว.
หมัดเหล็ก
...