"พงศพัศ" แบ่งรับแบ่งสู้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ชี้เป็นเรื่องของมติพรรคเพื่อไทยและการตัดสินใจของตนเอง ซึ่งต้องใช้เวลา ลั่นขอทำหน้าที่ขณะนี้อย่างเต็มที่ ระบุคนเป็นผู้ว่าฯ กทม. ทำงานโดยลำพังไม่ได้ ต้องอาศัยรัฐบาล...

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2555 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงความชัดเจนในการลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในนามพรรคเพื่อไทย ว่า ตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุก่อนเดินทางไปประเทศอินเดียว่า เรื่องนี้ต้องเป็นมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีมติว่าจะส่งใครลงสมัคร และที่ผ่านมาไม่ใช่เฉพาะครั้งนี้เท่านั้น ได้มีชื่อตนเองมาตลอด โดยยืนยันไปหลายครั้งแล้วว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะมีมติเลือกตน แต่เป็นเรื่องที่ตนต้องพิจารณา เพราะเป็นข้าราชการตำรวจ รับราชการมายาวนาน และยังทำหน้าที่เลขาฯ ป.ป.ส.อีกหน้าที่ ถ้าพรรคเพื่อไทยมีมติเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาตัดสินใจกับหลายฝ่าย โดยเฉพาะกับนายกรัฐมนตรีว่าจะทำอะไรที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะเป็นตำรวจต่อไป หรือจะลาออก

นอกจากนี้ คนเป็นผู้ว่าฯ กทม. ไม่สามารถทำงานได้โดยลำพัง หากขาดการช่วยเหลือจากรัฐบาล หรือกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง ทุกคนอยากเห็น กทม.พัฒนา และไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก 700 กว่าวัน ดังนั้น กทม.ต้องเป็นศูนย์กลางของประชาคมอาเซียน หากรัฐบาลไม่ลงมาดูแลช่วยเหลือ ไม่ทุ่มเททรัพยากรงบประมาณ การพัฒนา กทม.ก็เป็นไปได้ยาก

ทั้งนี้ หากต้องพลิกผันลาออกจากราชการมาสมัครผู้ว่าฯ กทม. ต้องดูนโยบายของพรรคว่าเป็นอย่างไร โดยส่วนตัวมีความตั้งใจอยู่แล้ว ส่วนผลโพลที่ประชาชนให้ความไว้วางใจในการทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. ต้องขอขอบคุณประชาชน และขอเวลาว่าจะลงสมัครหรือไม่ ซึ่งเมื่อถึงเวลาอันสมควรจะบอกประชาชนอย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังไม่ตัดสินใจ จึงขอทำหน้าที่เลขาธิการ ป.ป.ส.และรองผบ.ตร. ซึ่งดูแลโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ โดยจะทำอย่างเต็มที่.

...