“ปริญญา” กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เผยหลังลงพื้นที่ม็อบ "เสธ.อ้าย" ตั้งคำถามใช้แก๊สน้ำตาเร็วไปหรือไม่ แนะรัฐปรับระบบการใช้รถเครื่องขยายเสียง เตรียมชงเรื่องเข้าที่ประชุม กสม. 28 พ.ย.นี้ ชี้พยายามเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย ...
วันที่ 26 พ.ย. นายปริญญา ศิริสารการ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ตนได้ลงไปสังเกตการณ์ในบริเวณโดยรอบ ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงบ่าย ตามหนังสือเชิญของกลุ่ม อพส. และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำหนังสือเชิญมา ต้องพยายามเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย เชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องมีการร้องเรียนเข้ามายังคณะกรรมการสิทธิฯ แน่นอน เบื้องต้นพบว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้แก๊สน้ำตานั้น อาจะเป็นวิธีการที่รวดเร็วเกินไปหรือไม่ เนื่องจากการดำเนินการทุกครั้งจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน และในแต่ละขั้นตอนต้องมีระยะเวลาที่ทิ้งห่างกันพอสมควร เท่าที่สอบถามกับคนที่อยู่ในบริเวณเหตุการณ์บอกว่า การฉีดน้ำของรถดับเพลิงนั้น ไม่เหมือนกับการฉีดน้ำเพื่อปราบผู้ชุมนุม เชื่อว่าในส่วนนี้ยังคงเป็นคำถามที่สังคมสงสัยอยู่
...
นายปริญญา กล่าวอีกว่า ตนขอแนะนำรัฐบาลควรปรับระบบการใช้รถเครื่องขยายเสียงในบริเวณที่ชุมนุม เพราะเห็นว่าผู้ชุมนุมได้ยินเสียงเตือนจากเจ้าหน้าที่ไม่ทั่วถึง อย่างไรก็ตาม ตนขอนับถือ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่ยุติการชุมนุม ทั้งที่เป็นชายชาติทหาร แต่เพื่อปกป้องประชาชน จึงยอมเสียเกียรติยอมยุติการชุมนุม และแม้ว่าการชุมนุมครั้งนี้ถือเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ แต่ก็ยังมีผู้ชุมนุมที่เป็นฮาร์ดคอร์เพียงบางส่วน ซึ่งเคยเตือนกลุ่ม อพส. ไปแล้วว่าควรจะระวัง เพราะอยู่เหนือจากการควบคุม ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ ตนจะรวบรวมสิ่งที่ได้พบเห็นนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ แต่คงยังไม่ถึงกับต้องทำสรุปเป็นรายงานเพื่อเสนอต่อรัฐบาล
เมื่อถามว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมครั้งนี้รัฐบาลควรจะเยียวยาเหมือนการชุมนุมที่ผ่านมาหรือไม่ นายปริญญา กล่าววว่า ตนยังตอบไม่ได้ เพราะการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมเพียงแค่ 1 วัน ยังสรุปไม่ได้ คงต้องไปถามรัฐบาลว่าจะเยียวยาอย่างไร แต่ถ้ามีเงื่อนไขที่เหมือนกัน การเยียวยาไม่น่าจะต่างกัน ส่วนเรื่องการจับผู้ชุมนุมไปยังสถานที่ควบคุมที่คลอง 5 ปทุมธานีนั้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยังไม่พบว่ามีการลิดรอนสิทธิฯ.