คำถามที่ผมเจอแล้วเจอเล่า...เมื่อไหร่...เรื่องมันจะจบๆกันเสียที

สถานการณ์การเมืองตอนนี้มีตัวแปรมากมาย ทั้งบนดินใต้ดิน เอาแค่เรื่องบนดินที่พอจับต้องได้ในสภาเรื่องเดียว ใครที่ตั้งใจติดตาม คงเวียนหัวตาลายแล้ว

นักแสดงบนเวทีสภา เขาคงไม่รู้ว่า เวลาถ่ายทอดตามปกติ นอกจากนักข่าวที่รับหน้าที่ประจำ ก็คงไม่มีมิตรรักนักเพลงคนไหน ติดตามดูได้ตลอด

ดึกวันพฤหัสฯ...ได้เวลานอน เปิดทีวีก็นึกว่ารายการสภาโจ๊ก ดูๆไปเป็นสภาจริง แต่เล่นได้สนุกกว่าสภาโจ๊ก ฝ่ายค้านเล่นเกมคลิปเสียงมหัศจรรย์ พยายามบอกเล่า...เคล้าอภิปรายงบประมาณ

ฝ่ายรัฐบาลดาหน้าประท้วงไม่หยุด

บังเอิญผมฟังเสียงนายกฯอภิสิทธิ์มาแล้ว ผู้ใจบุญไม่ประสงค์ ออกนามส่งมาให้ ฟังตอนแรกก็คิดว่ามันผิดฝาผิดตัวยังไงๆอยู่ น้ำเสียงเป็นอภิสิทธิ์ แต่เนื้อหาดุเด็ดเผ็ดมันเหมือนเฉลิม

เมื่อฝ่ายรัฐบาลแถลงว่า เป็นคลิปเสียงตัดต่อ ก็ถึงบางอ้อ... เทคโนโลยีสมัยใหม่เสกปั้นยังไงก็ได้

ก็บอกแล้ว เกมคลิปเสียงเขาเล่นกันแบบไม่เลิก กระบวนการอภิปรายงบประมาณก็ไม่เดินหน้า ติดอยู่แค่มาตรา 10 เวลาสักตี 1 ประธานสภาต้องใช้อำนาจปิดสภา เหมือนดูหนังกลางแปลง

แล้วนักพากย์บอกว่าหนังขาด

รุ่งขึ้นตอนเช้าหนังก็ฉายต่อ ชาวบ้านก็ต้องไปทำงาน ไม่เปิดทีวีเบื่อสภาโจ๊กเต็มที เปิดอีกทีเช้าวันเสาร์ จึงรู้ว่านักการเมืองเขาตั้งสติกันได้ อภิปรายกันแบบไม่ได้หลับนอนตลอดวันตลอดคืน

จากที่ใช้เวลากว่าชั่วโมง ไม่คืบหน้าสักมาตรา เขาใช้เวลาทั้งอภิปรายทั้งชี้แจงกันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนนุ่มนวล เหมือนคนรักกันชอบกันคุยกัน ถ้าเป็นหนัง 20 มาตรา ก็ว่ากันแบบ "ม้วนเดียวจบ"

ผมเคยอ่านหนังสือวิธีชนะมิตรและจูงใจคนของเดล คาร์เนกี จำได้ ตอนหนึ่ง เขามอบหมายให้ผู้นำองค์กรสำคัญไปเตรียมประเด็นที่ตั้งใจจะพูด โดยให้เวลาคนละ 1 นาที

...

ผล...ทุกคนพูดได้ดี เข้าประเด็น สื่อสารจูงใจได้ตรงเป้าหมาย

จากที่เคยโงกง่วงฟังอภิปรายของดาวสภา คนละชั่วโมงสองชั่วโมง มาเป็นฟังคนละ 3-5 นาที ทุกคนพูดได้ดี น่าประทับใจ ชนิดที่แฟ้มบุคคลต้องปรบมือให้...ด้วยใจจริง

เรื่องประท้วงน่าเบื่อหน่าย ถึงขนาดต้องจ้างคนตีหัวกันในสภาก็ไม่มี

ผมจึงอยากเสนอว่า ในการอภิปรายครั้งต่อๆไป ถ้าใช้วิธีพูดแบบสั้นๆ คงเรียกชาวบ้านธรรมดาให้อดทนฟังได้มาก ทั้งคงได้ดาวสภาแบบดาวค้างฟ้าอีกหลายคน

มิติใหม่ในสภา ผมคิดว่าคงได้มาจากบทเรียน ทะเลาะกันเรื่องคลิปเสียงมหัศจรรย์

รบกันแล้วไม่เพียงจะเหน็ดเหนื่อย จะเสียหน้าทั้งสองฝ่าย ยังทำให้บ้านเมืองเสียหาย เมื่อรู้ตัวกลับใจ ปรับท่าทีเป็นพูดจาภาษาคนที่จริงใจเข้าใส่กัน บรรยากาศที่ตึงเครียดก็ผ่อนคลาย

ใครที่เคยถามว่า เมื่อไหร่จะจบ...คำตอบจากผมก็คือ ปล่อยให้เขารบกันจนเหนื่อย หมดแรงแล้ว เขาก็เบื่อ เมื่อเขาเบื่อเขาก็จะหันมา จ๊ะจ๋ากันเอง แล้วบ้านเมืองก็ดีขึ้นเอง

คุณทักษิณอยู่เมืองไทยก็รวยอยู่แล้ว ออกไปจากเมืองไทยได้ข่าวว่ามีทั้งเหมืองเพชรเหมืองทอง ทำท่าจะรวยยิ่งกว่า คนทำมาค้าขึ้นคุยง่าย เจรจาอะไรก็คงตกลงกันได้ไม่ยาก

การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เนวินมือขวาทักษิณยังแยกวงมากับประชาธิปัตย์ได้

การเมืองภาคต่อไป ข้ออ้างความสงบสุขของบ้านเมือง หากประชาธิปัตย์จะจับมือกับเพื่อไทย ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก.

กิเลน ประลองเชิง