"เหวง โตจิราการ" แกนนำ นปช.บุกยื่นหนังสือ "ดีเอสไอ" ร้องเร่งพิสูจน์ กรณีชายชุดดำ มีแฝงตัวอยู่ในม็อบแดงปี 53 หรือไม่? ส่วนตัว ย้ำ ไม่มีแน่นอน โยนพรรค ปชป.ต้องหาหลักฐานมาให้ได้

เมื่อวันที่ 10 ก.ย.เวลา 13.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ กรณีเข้ายื่นหนังสือ ร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ช่วยสอบสวนหาความจริงเรื่องชายชุดดำในกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเมื่อปี 2553 โดยขอให้ดีเอสไอช่วยหาข้อเท็จจริง และหลักฐานมายืนยันให้ได้ว่ากลุ่มชายชุดดำที่ถูกพรรคปชป.กล่าวหาว่าเป็นผู้สร้างความวุ่นวาย จนทำให้มีประชาชนและทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากมีอยู่จริงหรือไม่? รวมทั้งต้องการให้ดีเอสไอสอบสวนหาหลักฐาน กรณีมีคำสั่งให้พลซุ่มยิง 39 คนนั้นว่าเป็นใครบ้าง ให้ไปซุ่มยิงอยู่จุดไหน ใช้กระสุนอะไรในการปฏิบัติการ คือ ใช้กระสุนจริงหรือกระสุนปลอม

นพ.เหวง ยังอ้างอีกว่า อยากให้ทหารที่ทำหน้าที่พลซุ่มยิงทั้ง 2 นาย ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เรียกตัวมาสอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งระบุว่า ใช้กระสุนปลอมในการปฏิบัติการยิงผู้ชุมนุมนั้น ได้แสดงหลักฐานว่าใช้กระสุนปลอมจริง ไม่ใช่ใช้กระสุนจริง เพราะ นพ.เหวงตั้งข้อสังเกตว่า หากใช้กระสุนปลอมต้องมีปลอกหุ้มปลายลำกล้อง หากไม่มีปลอกหุ้มจะใช้ยิงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นแสดงว่าพลซุ่มยิงดังกล่าวใช้กระสุนจริง ทั้งนี้ได้มีการติดต่อกับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้มารับหนังสือแล้ว

อย่างไรก็ตาม นพ.เหวง ยืนยันว่า กลุ่มชายชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ส่วนตัวเห็นว่าไม่มี  ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องเป็นผู้หาหลักฐานและข้อเท็จจริงมาพิสูจน์ว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 มีกลุ่มชายชุดดำเข้ามาแฝงตัวก่อเหตุจริงหรือไม่ ไม่ใช่จะมากล่าวหากันลอยๆ ได้ ส่วนที่มีการนำคลิปวิดีโอที่เป็นชายสวมชุดดำเดินปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม แล้วยิ่งอาวุธปืน M 79 เข้าในกองทหารนั้น ก็ต้องมีการพิสูจน์กัน เพราะเห็นว่าภาพดังกล่าวสามารถตกแต่งได้

...