“สรวงศ์ เทียนทอง” ปัดดึงงูเห่า ชี้ สส.โหวตหนุนนายกฯ เป็นเรื่องภายใน ทสท. ส่วนปมแชตหลุดดูดเด็ก ปชน. ไม่ใช่ พท.แน่ ชี้หลักฐานต้องหนักแน่นมากกว่านี้ ย้ำ “นายกฯ อิ๊งค์” ยังไม่ได้ส่งสัญญาณปรับ ครม. จวกสื่ออาวุโสปล่อยข่าว กระทบการปฏิบัติงานของข้าราชการขอนึกผลประโยชน์ชาติ

วันที่ 27 มี.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) 5 คน ลงมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา จะย้ายมาอยู่พรรค พท. หรือไม่ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของพรรค ทสท. ตนไม่ก้าวล่วง แต่การจะมาอยู่พรรคเราหรือไม่ หรือจะไปอยู่พรรคไหน เรื่องนี้ยังนอกเหนืออยู่ ขอให้ภายในพรรค ทสท. จัดการกันก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ สส.พรรค ทสท. หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มี ตนคุยกับ สส. 1 คนในพรรค ทสท. แค่ในกรรมาธิการ เพราะเคยอยู่กรรมาธิการเดียวกัน แต่ไม่ได้มีเรื่องของการชวนกันมาอยู่ หรือเขามาขออยู่

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการที่ ส.ส.พรรคประชาชน (ปชน.) ออกมาโพสต์ภาพแชตเรื่องการซื้องูเห่า นายสรวงศ์ กล่าวว่า เมื่อสักครู่ดูข่าว ออกมาแล้วสรุปว่าไม่ได้มาจากพรรคที่กำลังมีจำนวน สส. อะไรอยู่ มาจากพรรคที่ไม่ได้มีตัวตนแล้วด้วยซ้ำ อันนี้ตนไม่แน่ใจ เอาตรงๆ การที่จะเอาอีก 10 เสียงไม่ได้มีประโยชน์อะไร เรามั่นใจอยู่แล้ว และการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายคนอาจจะไม่ทราบหรือไม่ได้ติดตาม อย่างแรกคือ หลักฐาน การพูดจาหรืออะไรต่างๆ มันต้องหนักแน่นกว่านี้ สิ่งที่ออกมาตอนนี้ตนมองว่า การออกข่าวมาว่ามีแชตหลุด ตามหลักความจริงมันไม่น่าเป็นไปได้ แต่ไม่เป็นไร ถ้ามีการทาบทามกันอย่างหนึ่งที่ยืนยันได้คือ ไม่ใช่พรรค พท. แน่นอน

...

เมื่อถามถึงกรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.พรรคไทยก้าวหน้า ที่ลงมติไว้วางใจนายกฯ เป็นเพราะอยากจะมาร่วมงานกับรัฐบาลหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก และยืนยันว่า เราไม่ได้ทาบทามอะไรเลย เราทาบทามแต่ที่เราเห็นในข่าว ตนได้รับเกียรติและได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมาประชุมกันก่อนลงมติว่าเรายังไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งหมดทั้งปวงมีแค่นั้นเอง ส่วนเขาจะเข้ามาขออยู่ด้วยหรือไม่นั้น ขออย่าไปคิดขนาดนั้น เพราะการโหวตเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. แม้แต่พรรคก็มีมติไม่ได้ ซึ่งเป็นวิจารณญาณของแต่ละคน

เมื่อถามว่า การได้ สส. มาเพิ่ม เหมือนทำให้มีสัดส่วนรัฐมนตรีเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า อันนี้ไม่ทราบและไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน เมื่อถามอีกว่า นายกฯ มีการส่งสัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาแล้วหรือยัง นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มีอย่างที่นายกฯ กล่าวไว้ อย่างไรก็ดี โดยส่วนตัวมีชื่อในข่าวว่าจะถูกปรับ จึงอยากฝากสื่อมวลชนด้วยความเคารพจริงๆ ว่า ตัวเองไม่ได้กังวล และการจะออกข่าวโผการปรับ ครม. มันมีผลกระทบกับการทำงาน ไม่ใช่ของตน หรือไม่ใช่กับรัฐมนตรี แต่เป็นของข้าราชการ การออกข่าวแบบนี้มาช่วยคิดถึงประโยชน์ของบ้านเมืองนิดนึง ไม่ใช่ว่าได้ข่าวอะไรมาแล้วโพล่งออกมา ซึ่งบางสิ่งบางอย่างพอไม่เป็นความจริงมันมีผลต่อการทำงานของข้าราชการ การสั่งการอะไรต่างๆ มันก็มีความรู้สึกสงสัย เพราะฉะนั้น ตนฝากจริงๆ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการสื่อแล้ว การพูดอะไรหรือเสนอข่าวอะไรออกมาขอให้คำนึงผลประโยชน์ประเทศชาติบ้าง อย่าสนุกปากอย่างเดียว อย่าคิดว่าตัวเองเสนอข่าวก่อนใครอื่นแล้วจะเด่นกว่าคนอื่น ตนขอแค่นี้ และทำงานปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่า อาจจะมีการปรับ ครม. ในส่วนของพรรค พท. นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มี การทำงานของทุกคนมันต้องผ่านอุปสรรค ส่วนที่มีข่าวมาว่าเป็น 3 คนของพรรคเพื่อไทยนั้น นายกฯ พูดกับพวกเราว่า ถ้าจะมีการปรับจะมีการบอกกับเจ้าตัวก่อน และจะบอกถึงเหตุผล ยืนยันตนไม่ได้กังวลอะไร จริงๆ เหมือนที่นายกฯ บอก อำนาจการปรับ ครม. อยู่ที่นายกฯ คนเดียว และนายกฯ ยังไม่ได้บอกอะไรมา เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าเป็นการปล่อยข่าวหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่อยากคิดแบบนั้น แต่จะได้ข่าวมาจากไหน ได้มาอย่างไรก็แล้วแต่ ในเมื่อเป็นสื่อแล้วการออกมาแบบนี้ตนก็กังวลใจจริงๆ เพราะทราบว่าสื่อมวลชนรู้ดีว่าข่าวการปรับ ครม. หรือการเปลี่ยนตัวมันมีผลต่อการทำงานจริงๆ นโยบายอะไรต่างๆ ที่เราปล่อยไปคนก็คิดได้ว่าทำไปแล้วจะอยู่อีกนานหรือไม่ จะอยู่หรือไม่ แล้วถ้าอยู่ทำอย่างไรหรือไม่ทำอย่างไร ตอนนี้ตนยังทำงานอยู่ รัฐมนตรีทุกคนยังทำงานอยู่ ฉะนั้น อยากให้คิดนิดนึง แต่ก็เต็มที่

เมื่อถามว่า ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. ตัวเลขรัฐมนตรีของพรรค พท. จะเท่าเดิมหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในเรื่องของโควตาและเรื่อง ครม. เป็นอำนาจของนายกฯ คนเดียว