พักบทตบจูบหันมาเล่นบทสามัคคีรวมพลัง กระทั่งการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านผ่านพ้นไปด้วยดี

จากนี้ก็จะหันมาเล่นบทเก่าเวลาเปลี่ยนไป

เป็นเรื่องของรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีในองคาพยพทางการเมืองที่ผ่านไปสู่มิติใหม่ทางการเมือง

ด้วยมติ 319 เสียงต่อ 162 เสียงคะแนนไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวที่ถูกยื่นซักฟอกอันแสดงให้เห็นว่าเสียงสนับสนุนยังแน่นปั๋งไม่มีตกหล่น

แม้อีก 4 เสียงที่งดออกเสียงของประชาธิปัตย์ก็ไม่แปลกเพราะรับรู้กันอยู่

“งูเห่า” ที่ข้ามฟากจากฝ่ายค้านได้ลงคะแนนให้รัฐบาลก็ไม่แปลกอีก เพราะเป็นข่าวมาก่อนกาลเวลา แต่ก็ไม่เท่าจำนวนที่เป็นราคาคุยเอาไว้

แน่นอนว่าการที่พรรคแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาลสามารถรักษาคะแนนสนับสนุนได้ตามเป้าหมายไม่มีแตกแถว

ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าทุกคนทุกพรรคยังต้องการที่จะทำงานร่วมกันต่อไป

เพราะแต่ละพรรคต่างก็ต้องการที่จะสร้างผลงานเพื่อเตรียมการรองรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีอะไรที่จะเพิ่มคะแนนนิยมเพื่อสร้างตัวเลขที่น่าพึงพอใจ

โดยเฉพาะ “เพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย”!

“เพื่อไทย” นั้นแม้จะเป็นแกนนำรัฐบาล แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างผลงานที่หวังผลทำให้ชนะการเลือกตั้งได้

สำคัญยิ่งคือปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐมนตรีคลังก็ยอมรับตรงๆว่าไม่ดีในการอภิปรายในสภาครั้งนี้ แม้จะโยนว่าเป็นปัญหาที่เกิดมาก่อนหน้านี้

หมายถึงรัฐบาล “ลุงตู่” ที่บริหารประเทศถึง 10 ปี ทำให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ จีดีพีอันดับสุดท้ายในภูมิภาคอาเซียน

แต่โทษใครก็ไม่ได้ เพราะอาสาเข้ามาและประกาศว่าต้องทำให้ได้

จากนี้จะเห็น “เพื่อไทย” เดินหน้าสร้างผลงานให้ปรากฏชัดเจน นอกจากหาเงินจากโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะกาสิโน แลนด์บริดจ์ที่จ่อหัวรออยู่แล้ว

...

ก็อย่างที่ “ขุนคลัง” บอกว่าไว้นั่นแหละ ว่าไม่สามารถพิมพ์แบงก์มาใช้เองได้ก็ต้องหาเงินจากนักลงทุนต่างชาติก้อนใหญ่ๆมาใช้

อีกเรื่องคือโครงการแก้หนี้ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ขายไอเดียเอาไว้ว่าจะซื้อหนี้จากประชาชนโดยให้เอกชนรับซื้อแล้วให้ประชาชนผ่อนชำระคืน

ชาวบ้านที่ได้ยินได้ฟังก็หูผึ่งไม่ต่างกับพระมาโปรด!

เกริ่นแค่นี้ก็ได้คะแนนไปจม แต่วิธีการจะเป็นอย่างไรยังไม่มีใครรู้ได้ โดยรัฐบาลก็รับลูกทันควัน แต่การจะซื้อหนี้ทั้งหมดคงไม่ได้เพราะเม็ดเงินจำนวนมาก

ที่จะทำได้ก็คงเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น

เพียงแต่ออกข่าวโปรโมตทำให้ฟังแล้วรู้สึกว่ารัฐบาลทุ่มพลังเต็มสูบ

ยิ่งผ่านศึกซักฟอกมาได้แบบลอยลำอย่างนี้ในทางการเมืองคงเบาตัวไปมาก เพราะพรรคประชาชนซึ่งเป็นฝ่ายค้านที่แพ้สงครามมาสดๆร้อนๆ

ก็คงจะเลิกตอแยไปสักพักหนึ่งแหละ...

เหลือก็แต่ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองนี่แหละ โดยเฉพาะพรรคที่เคยทำให้เสียอารมณ์อย่าง “ภูมิใจขวาง” เท่านั้นที่ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนอีก

แต่เชื่อขนมกินได้ว่าไม่มีสงบแน่ เพราะมันเป็นวิถีทางของพรรคการเมืองที่จะต้องหาคะแนนนิยมตลอดเวลา เนื่องจากต้องการคว้าชัยไม่ต่างกัน

ยิ่งต่อจากนี้รู้ถึง “บุญคุณ” ไปที่ “เพื่อไทย” ผ่านศึกซักฟอกมาหมาดๆก็เพราะ “อนุทิน” เป็นกำลังสำคัญที่เทใจหนุนเต็มที่

เอาเป็นว่าชนะศึกนอก แต่ก็ต้องมาสู้ศึกในกันเองนี่แหละ!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม