“ชวน หลีกภัย” เผย ขออนุญาตพรรคประชาธิปัตย์ใช้เอกสิทธิ์ “งดออกเสียง” ในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เหน็บ “นายกฯ อิ๊งค์” ถามพ่อ สอบซักฟอกผ่านหรือไม่ ชี้ ไม่มีใครแกล้ง “ทักษิณ” หนีคดีทุจริตไปเอง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 26 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลงมายังห้องพยาบาลอาคารรัฐสภา เพื่อพบแพทย์ให้ตรวจตาด้านซ้ายที่มีอาการบวมแดง โดย นายชวน เปิดเผยว่า หมอบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร เมื่อถามถึงการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี นายชวน กล่าวว่า ตนได้ลงมติเรียบร้อยแล้ว โดยงดออกเสียง ย้ำจุดยืนเดิมที่มีต่อรัฐบาลชุดนี้ว่าแน่วแน่มาตั้งแต่ต้น ซึ่งได้ขออนุญาตในที่ประชุม สส.พรรคประชาธิปัตย์แล้วในการใช้เอกสิทธิ์ สส.

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตลอดทั้ง 2 วันที่ผ่านมาเห็นว่าเป็นอย่างไร นายชวน ตอบว่า ตนรับฟังและขอแสดงความยินดีกับทุกฝ่ายที่ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการในระบอบประชาธิปไตยในการคานอำนาจตรวจสอบถ่วงดุลกันและกันตามปกติ

ส่วนคำชี้แจงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มองว่าสอบผ่านหรือไม่ อย่างไร นายชวน ระบุว่า ต้องไปถามพ่อเขา พร้อมกับอมยิ้ม เมื่อถามต่อไป มองว่าคนนอกควรที่จะมาตอบเองหรือไม่ นายชวน ย้อนถามสื่อว่าคนนอกหมายถึงใคร ผู้สื่อข่าวจึงย้ำว่ากรณีของชายคนนั้น นายชวน ตอบกลับว่า ก็ต้องไปถามผู้อภิปราย เพราะมีการแก้ญัตติไม่ระบุชื่อบุคคล

สำหรับการทำหน้าที่ของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มองอย่างไร นายชวน ระบุว่า ตนก็ให้กำลังใจสำหรับบุคคลที่ทำหน้าที่ประธาน ตนก็เข้าใจและเห็นใจ ส่วนกรณีของ นายภราดร ปริศนานันท์กุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ที่ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม สังคมชื่นชมว่าทำหน้าที่อย่างโดดเด่น นายชวน กล่าวว่า เขาทำหน้าที่ของเขา ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ภายใต้เงื่อนไข ตนว่าทุกคนก็ทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่ รัฐบาลก็ใช้โอกาสในการชี้แจง บางเรื่องต้องยืนอยู่บนความเป็นจริง เช่น กรณีที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงบิดา โดยปกป้องว่าถูกกลั่นแกล้ง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่เป็นการหนีคดี นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปต่างประเทศไม่มีใครไปแกล้งท่าน เป็นเรื่องการหนีคดีอาญาที่เกิดจากข้อหาทุจริต และศาลตัดสินก็เลยหนีคดีไป สังคมก็ต้องเข้าใจความจริงที่แต่ละฝ่ายให้ข้อมูลด้วย.

...