ตอกย้ำสไตล์ “ลูกสาวเถ้าแก่ใหญ่” ตัวจริงเสียงจริง
อาการแสบๆ ฟอร์มเอาเรื่อง แบบที่ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยกมือลุกขึ้นพูดช็อตแรกในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ เลือกชิงจังหวะเบิ้ลบลัฟกลับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ตอบแบบสั้นๆห้วนๆ “ที่ท่านสมาชิกอาวุโสพูดมา ไม่เป็นความจริงค่ะ”
ตบมุก “ชึ่งโป๊ะ” ตั้งใจยอกย้อนวลีเด็ดของลุงพี่ใหญ่ 3 ป. ที่เคยตอบญัตติเชือดของพรรคส้ม อารมณ์เด็กเชือดคนแก่ เรียกเสียงฮือฮา ทีมองครักษ์ ลูกแถว สส.พรรคเพื่อไทย พากันหัวเราะชอบใจเกรียวกราว นัยว่า สะใจกับฟอร์มผู้นำหญิงคนสุดท้องตระกูลชิน ที่ออกหมัดสวน “ลุงบ้านป่าฯ” เข้าตากรรมการ
แต่คนดูทางบ้านไม่ได้แก่นสารสาระใดๆ ในคำตอบแบบกำปั้นทุบดิน
ที่แน่ๆผู้นำคนสุดท้องตระกูลชิน ชิงย้อนคอหอย “ลุงบ้านป่าฯ” แบบทันทีทันควัน และไม่ทันได้ฟังเรื่อง “ไฮไลต์” ของคิวเชือดเดือดๆ มันมาตามหลังช็อตของ “ลุงป้อม” ที่เปิดช่องให้โดนยอกย้อน
แต่ “ทีเด็ด” ของเสือเฒ่าบ้านป่าฯจริงๆ “ซ่อน” ไว้ที่ “มวยซุ่ม” ตัวโนเนม
ส่งไม้ตาย มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นอภิปราย ฉายข้อมูลร้อน ปม “นิติกรรมอำพราง” ที่เป็นข้อสงสัยต่อสาธารณะ ในการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.แพทองธาร
หมกเม็ดในบัญชีแสดงรายการหนี้สินอื่น จำนวนกว่า 4,434 ล้านบาท
ประกอบไปด้วยหนี้ตามต่อสัญญาใช้เงินเพื่อชำระค่าหุ้นให้กับพี่น้องเครือญาติและบุคคลในครอบครัวของนายกฯ จากการตรวจสอบตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าว ทั้ง 9 ฉบับเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2559 ล้วนเป็นตัวสัญญาใช้เงินที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา ชำระหนี้คืนและไม่มีการคิดดอกเบี้ย
...
เหมือนมีเจตนาที่จะผ่องถ่ายทรัพย์สินโอนหุ้นกันระหว่างเครือญาติ
และจากการตรวจสอบเอกสารภาษีในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กลับไม่พบการตั้งหนี้ภาษีรายได้บุคคลธรรมดาเอาไว้และไม่พบรายจ่ายสำหรับภาษีเงินได้ที่แจ้งเอาไว้เช่นกัน จึงตั้งข้อสังเกตว่า การกู้เงินตามตั๋วสัญญาดังกล่าวนี้เป็นการทำนิติกรรมที่อาจทำให้รัฐเสียหายจากรายได้ภาษีหรือไม่
ขึ้นจอสไลด์ ไล่เรียงเอกสารเป็นฉาก เหมือนข้อมูลประทับเอกสารลับจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ทีเด็ดของ “ลุงบ้านป่าฯ” ส่งไม้ให้ลูกทีมเปิดแผล “ซุกหุ้น” ภาค 2
และนั่นก็เป็น “ชุดข้อมูลเดียว” กันเลย กับคิวของ “มือสังหาร” เบอร์หลักกองทัพส้ม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ปฏิบัติการลุยซ้ำดาบสอง
โชว์จัดระบบทางความคิดแบบวิศวกร ต้อนหน้าต้อนหลังแบบตัวตึงสภา
ไล่แกะรอยบัญชีทรัพย์สิน “แพทองธาร” มีหนี้ 9 รายการ เป็นเอกสาร 9 แผ่นกระดาษ วิธีการที่นายกรัฐมนตรีใช้ แวดวงธุรกิจเรียกกันว่า “ตั๋ว PN” ซึ่งเป็นหนี้สินเชื่อ โดยนายกรัฐมนตรีซื้อหุ้นจากพี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ เป็นการซื้อเชื่อ แล้วออกตั๋ว PN เพียงเท่านั้น ไม่ได้ซื้อขายจริง
ฉายภาพ หนังม้วนเดิม “ซิกแซ็กหุ้น” เวอร์ชันนายกฯคนลูก ตามรอยนายกฯคนพ่อ
กางข้อมูลแฉหลังจากที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีโอนหุ้นบริษัท 19 บริษัท มูลค่า 9,330.5 ล้านบาท แต่มี 2 บริษัท มูลค่า 393.5 ล้านบาท โอนไปให้แม่และพี่สาว หุ้นตัวแรก คือ บริษัทอัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ 224.1 ล้านบาท โอนไปให้ผู้เป็นแม่ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2567 และหุ้นตัวที่สอง บริษัทประไหมสุหรี พรอพเพอร์ตี้ จำกัด จำนวน 169.4 ล้านบาท โอนให้พี่สาว เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2567
ถามว่าเป็นการโอนไปด้วยวิธีการใด เป็นการให้ หรือเป็นการขายหุ้น
ถ้าการโอนหุ้นของนายกรัฐมนตรีไปให้แม่และพี่สาว ก็ต้องมีภาระในการจ่ายภาษี กรณีของแม่ต้องเสียภาษีรับให้ 10.2 ล้านบาท ในขณะที่พี่สาว 8 ล้านบาท รวมแล้วรัฐต้องได้ 18.2 ล้านบาท แต่นายกรัฐมนตรีทำนิติกรรมอำพรางในการหนีภาษีรับให้มาตั้งแต่ปี 2559 อ้างว่าให้โดยเสน่หา ภาษีสักสลึงก็ไม่ต้องเสีย
ฟาดแรง ถ้านายกฯยังทำตัวหนีภาษี ความเป็นธรรมในเรื่องภาษีจะเกิดขึ้นกับประชาชนได้อย่างไร
ลุงบ้านป่าฯ กับหลานบ้านส้ม จี้ปมอ่อนไหวผู้นำเศรษฐี นายกฯคนลูก ย่ำรอยนายกฯคนพ่อ แบบมาครบทั้งหลักฐาน เอกสารการแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน ป.ป.ช. การเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ
ถ้า “นายกฯอิ๊งค์” ตอบห้วนๆแค่ “ที่ท่านพูดมา ไม่เป็นความจริงค่ะ”
เชื่อว่าถึงรัฐบาลจะหามผ่านเวทีเชือดไปได้ แต่ส่อไม่ผ่านความไว้วางใจสังคมภายนอก.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม