“รัฐบาล-ฝ่ายค้าน” วิวาทะโหมโรงศึกซักฟอกเดือดปุด “วิสุทธิ์” ประเมินไม่ราบรื่น ฝ่ายค้านจ้องตีรวนให้ประท้วงมากที่สุด หวังให้ถูกประชาชนบูลลี่ ย้ำก่อกวนมากรัฐบาลชิงปิดอภิปราย อวยนายกฯ คลุกการเมืองแต่เด็กไม่กดดัน “อนุทิน” การันตีเสียง ภท.หนุน “อิ๊งค์” ไม่มีแตกแถว พรรคร่วมฯ คอนเฟิร์มซัพพอร์ตนายกฯ “ปกรณ์วุฒิ” ลั่นพร้อมเต็มร้อย ไฮไลต์มีให้ชมทุกวัน “วิโรจน์” แย้มถล่มมังกรกงสีอิ่มหมีทั้งตระกูล จวกมดปลวกพลีชีพ รับงานแลกขนมนายใหญ่ด้อยค่าเวทีซักฟอกให้เป็นเรื่องโจ๊ก ปชน.ปรับยุทธศาสตร์ระดมขุนพลตัวตึงขึงถล่มดุตั้งแต่วันแรก แล้วไปจบอภิปรายวันสุดท้ายแบบระทึกใจ “ลุงป้อม” ร่วมขย่ม 10 นาทีต่อจากผู้นำฝ่ายค้าน “ทักษิณ” เผยติวเข้มการบ้านลูกสาว มั่นใจนายกฯตอบได้แน่ ลั่นนโยบายซื้อหนี้ประชาชนต้องทำให้เกิดได้ปีนี้

การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.เป็นวันแรก โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) คาดการณ์ว่าน่าจะไม่ราบรื่น ประเมินฝ่ายค้านต้องการทำให้มีการประท้วงวุ่นวาย จะได้ถูกประชาชนบูลลี่ ขณะที่พรรคประชาชน (ปชน.) ปรับยุทธศาสตร์จัดคิวให้ผู้อภิปรายที่เป็นทีเด็ดมาอภิปรายเข้มข้นแบบจัดหนักตั้งแต่วันแรก

“วิสุทธิ์” ประเมินซักฟอกไม่ราบรื่น

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี วันที่ 24 มี.ค.ว่า ดูแล้วไม่ราบรื่นเป็นธรรมดาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่การยอวาที ฝ่ายค้านคงกล่าวหาบุคคลในครอบครัวนายกฯเยอะๆ เพราะต้องการให้รัฐบาลประท้วงมากที่สุด จะได้ถูกประชาชนบูลลี่ แต่ถ้าฝ่ายค้านทำผิดข้อบังคับการประชุมจริงๆจำเป็นต้องประท้วง พรรค พท.ไม่ลนลาน ไม่กีดกันการเปิดอภิปรายฯ อย่างการตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกจากญัตติ เป็นเรื่องของประธานสภาฯกับฝ่ายค้าน ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล หรือการต่อรองเวลาเป็นเรื่องปกติ ฝ่ายค้านอย่ามาขึ้นราคาให้ตัวเอง เราไม่ให้ราคา

...

ย้ำตีรวนก่อกวนมาก รบ.ชงปิดเวที

“ถ้าตีรวนปั่นป่วนมากๆ รัฐบาลมีสิทธิเสนอให้ปิดการอภิปรายได้ ยกมือตัดสิน ฝ่ายค้านแพ้อยู่แล้ว ถ้าอภิปรายกันดีๆ 2 วันไม่ว่ากัน แต่อย่ามาดราม่าว่ากันมากไป เรื่องกีดกันการอภิปราย ฝ่ายค้านได้ 28 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมง กีดกันตรงไหนยุติธรรมไหม ถ้าจะก่อกวนมากๆ เป็นสิทธิฝ่ายรัฐบาลเสนอปิดอภิปราย เราไม่ได้ขู่ แต่ไม่อยากทำ” ประธานวิปรัฐบาลกล่าว

มั่นใจนายกฯควบคุมอารมณ์ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย แนะนำนายกรัฐมนตรีให้ควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าอ่อนไหวคำพูดแดกดันของฝ่ายค้าน นายวิสุทธิ์ตอบว่า ไม่ต้องห่วง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ อยู่กับการเมืองมาตั้งแต่เด็ก มีประสบการณ์ทำงานการเมือง ไม่กังวล มั่นใจนายกฯควบคุมอารมณ์ได้ ไม่มีโกรธ การมุ่งสร้างแต่วาทกรรม ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนชอบเสมอไป ชาวบ้านอยากฟังเหตุผล ข้อเท็จจริงมากกว่าวาทกรรม อยากให้การเมืองมีความสร้างสรรค์

“ประยุทธ์” แนะไม่ประท้วงพร่ำเพรื่อ

นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวว่า เชื่อว่าการอภิปรายวันแรกจะเรียบร้อยราบรื่น อยากแนะนำ สส.ไม่ให้ประท้วงพร่ำเพรื่อ ประชาชนจะเบื่อนิดๆหน่อยๆต้องทนเอา จะประท้วงต้องดูข้อเท็จจริงกับข้อบังคับการประชุมประกอบกัน หากฝ่ายค้านเอ่ยชื่อถึงนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต้องดูคำพูดหน้างาน เจตนาและข้อบังคับการประชุมมาพิจารณา จะประท้วงหรือไม่ต้องดูหน้างานเป็นหลัก ไม่สามารถบอกได้ว่าพูดประโยคใดแล้วจะประท้วงทันที

ห่วงเสียงโหวตฝ่ายค้านแต้มหาย

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 24-25 มี.ค.ว่า วันที่ 24 มี.ค.ต้องอยู่ถึงเช้าวันที่ 25 มี.ค. จึงเตรียมทีมที่สลับปรับเปลี่ยนนั่งในห้องประชุมสภาไม่ให้รู้สึกว่า เวลาฝ่ายค้านอภิปรายไม่มีฝ่ายรัฐบาลนั่งอยู่ในห้องประชุม ขณะที่อีกทีมเป็นทีมสื่อสาร ดูแลสื่อออนไลน์ต่างๆ จะไปอยู่ที่อาคารรัฐสภา สรุปประเด็นผู้อภิปรายและผู้ชี้แจงแต่ละคน ป้องกันการนำประเด็นทำให้การเข้าใจผิด และทีมที่ 3 เตรียมไว้เรื่องข้อบังคับการประชุม ไม่ให้อภิปรายประเด็นซ้ำ หรือพาดพิงให้บุคคลอื่นเสียหาย เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ เพราะฝ่ายค้านยืนยันมีข้อมูลทีเด็ดโดยตรงกับตัวนายกฯ นายดนุพรตอบว่า ไม่กังวล เก็งข้อสอบมาแล้วฝ่ายค้านจะอภิปรายประเด็นใด บางเรื่องจะตอบคำถามให้ประชาชนคลายข้อสงสัยด้วย มั่นใจเสียงโหวตพรรคร่วมรัฐบาลไม่น่ามีปัญหา ที่เป็นห่วงคือเสียงโหวตฝ่ายค้านจะมากันครบหรือไม่

หยันจ้อให้ปังอย่าแค่ข่าวเก่าตัดแปะ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกฯกล่าวว่า ฟังฝ่ายค้านออกแขกทั้งดูถูก เหยียดเพศ หยาบคายมาตลอดสัปดาห์ ใช้ภาษาต่ำสะดือ ไม่น่าเชื่อออกจากปาก สส.ที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม พูดเสมออยากทำการเมืองใหม่ พอเห็นว่าอภิปราย 2 วันนี้จะเป็นหนังภารตะ วิ่งไล่ไปมาตามต้นไม้ กว่าจะหาประเด็นได้คนฟังคงหลับก่อน พรรค ปชน.บอกว่านายกฯมีภาวะความกังวลมากในการอภิปรายครั้งนี้ อย่าไปคิดแทนคนอื่น 2-3 วันนี้ นายกฯมีความสุขสดชื่น ไม่มีกังวล ที่ผ่านมานายกฯทำงานเต็มที่ เตรียมข้อมูลชี้แจงผลงานรัฐบาลรอบ 6 เดือนแน่นปึ้ก ฝีมือระดับ Wonder Woman ความกดดันแตกต่างกว่าทุกครั้ง ไม่ได้ตกอยู่ที่นายกฯ แต่ตกอยู่ที่ฝ่ายค้านต้องอภิปรายให้ปัง ไม่ใช่เอาแค่ข่าวเก่าข่าวแปะอภิปราย คนฟังหลับคาจอ หวังว่าจะไม่มีภาษาตลาดล่างต่ำสะดือออกมาอีก เพื่อยกระดับรัฐสภาไทยที่คนรุ่นใหม่คาดหวัง

ภท.หนุน “อิ๊งค์” ไม่มีแตกแถว

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมพรรค ภท.ว่า ไม่ใช่การเช็กเสียง สส.รอบสุดท้ายก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรค ภท.พร้อมสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ย้ำพรรค ภท.ไม่เคยมีเสียงแตกแถว ทุกคนจะลงคะแนนเสียงไว้วางใจให้กับนายกฯ ไม่มีเสียงแตก ไม่มีเห็นต่าง ทั้งหมดเป็นผลมาจากการประชุมสมาชิกของพรรคทุกครั้ง ก่อนที่จะมีการอภิปราย เพื่อกำหนดทิศทางการลงคะแนนให้เป็นไปในทางเดียวกัน ใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ให้ออกความคิดเห็นในที่ประชุม แต่เมื่อพรรคมีมติแล้วทุกคนต้องปฏิบัติตาม เมื่อถามว่า หากการอภิปรายของฝ่ายค้านนอกลู่ พาดพิงการทำงานในส่วนรัฐมนตรีของพรรค ภท. จะตั้งทีมชี้แจงอย่างไร นายอนุทินตอบว่า หวังว่าฝ่ายค้านอภิปรายอยู่ในประเด็น แต่หากพาดพิงไปที่ตัวบุคคล ตามสิทธิ์ที่มีอยู่ในสภาทุกคนสามารถชี้แจงได้

พร้อมเต็มอัตราศึกรับมือฝ่ายค้าน

เมื่อถามถึงแนวทางการชี้แจงของพรรค ภท. เพราะก่อนหน้านี้ระหว่างอภิปรายมักนำข้าราชการมาร่วมชี้แจงควบคู่ในสภาด้วย นายอนุทินตอบว่า ถ้าจำเป็นที่ต้องชี้แจงในรายละเอียด เมื่อนายกฯไม่ทราบรายละเอียด โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วหรือข้อกฎหมาย เพื่อให้ชัดเจนได้เตรียมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลเชิงรายละเอียดมาแถลงให้สื่อมวลชนรับทราบให้หมดเป็นประเด็นๆไป มีหลักฐานมายืนยันให้ชัดเจน ทำให้ข้อสงสัยเคลียร์ ไม่เช่นนั้นจะคลางแคลงใจ เมื่อถามถึงการทำงานของพรรค ภท.ช่วงการอภิปรายจะตั้งวอร์รูมติดตามข้อวิจารณ์ทางโซเชียลมีเดียหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ถ้าจะไปชี้แจงตามโซเชียลมีเดียคงไม่ไหว ดังนั้นต้องชี้แจงตามกรอบของระเบียบในสภา ตอบตามที่ฝ่ายค้านได้ลุกขึ้นอภิปราย

พรรคร่วม รบ.การันตีหนุนนายกฯ

เมื่อถามว่า ดินเนอร์หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกฯได้พูดคุยเบื้องต้นถึงการปรับ ครม. หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่มี ไม่มีทาง ไม่ได้พูดคุยกันเลย ก่อนหน้านี้นายกฯได้ย้ำกับสื่อมวลชนแล้วว่า มีความประสงค์อยากให้รัฐมนตรีได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องแบกความกังวลใดๆ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ประเมินการทำงานของรัฐมนตรีเอง ดังนั้น การปรับครม.เป็นอำนาจนายกฯทั้งสิ้น คงไม่เอาเรื่องนี้มาพูดคุยในโต๊ะอาหาร เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน ในวันนั้นนายกฯเชิญรับประทานอาหาร เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทุกฝ่ายมีความสบายใจในการสนับสนุนนายกฯ หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลได้ให้คำยืนยันเช่นนั้น

“ธนกร” ติง “โรม” ต้องรู้จักแยกแยะ

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคปชน. 1 ใน 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พยายามใช้นิติสงครามเร่งรัดเอาผิดแจ้งข้อกล่าวหาอดีต 44 สส.พรรค ก.ก.จงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เสนอแก้ไขมาตรา 112 ว่านายรังสิมันต์ต้องแยกแยะหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา ต้องตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้วตามบทบาทหน้าที่ปกติ กับความผิดหากเกิดขึ้นต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย การเป็น สส.ไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่มาบิดเบือนบอกว่าทำลายสมาธิฝ่ายค้านช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เพราะเรื่องนี้ทราบกันโดยทั่วไปว่า ป.ป.ช.รับคำร้องเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 67 ไม่ควรเบี่ยงประเด็นสร้างความสับสนและเข้าใจผิดในสังคม หากท้ายที่สุดผลออกมาเป็นอย่างไร นายรังสิมันต์และพวกต้องยอมรับ จึงจะถือว่าเป็นแบบอย่างของ สส.ที่ดีปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าอ้างคำว่านิติสงครามเลย

ฝ่ายค้านพร้อมซักฟอก 100%

วันเดียวกัน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงความพร้อมการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีวันที่ 24-25 มี.ค.ว่า มีความพร้อม 100% ประเด็นอภิปรายมีความหลากหลาย จะเกี่ยวข้องกับตัวนายกฯโดยตรง บางประเด็นอาจเกี่ยวข้องบางกระทรวงบ้าง แต่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบของนายกฯ แต่ละวันมีไฮไลต์อยู่แล้ว เมื่อถามว่าแย้มประเด็นที่พอจะทำให้รัฐบาลหวั่นไหวได้หรือไม่จะเป็นเรื่องใด นายปกรณ์วุฒิตอบว่า หากรั่วเพื่อทำให้รัฐบาลหวั่นไหว รัฐบาลอาจไม่หวั่นไหว รอติดตามในการอภิปรายเลยดีกว่า โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน จะเป็นผู้อภิปรายเปิด

มั่นใจข้อมูลพรรคร่วมฯเรียบร้อย

นายปกรณ์วุฒิกล่าวอีกว่า เรามั่นใจข้อมูลพรรคร่วมฝ่ายค้านมีการพูดคุยกันแล้ว ส่วนเสียง สส. 3 คนพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ที่เคยโหวตสวนมติฝ่ายค้าน เรื่องนี้น่าจะจบไป เพราะมีความชัดเจนนานแล้ว พรรคไทยสร้างไทยมีมาตรการลงโทษแล้ว เราคงไม่ได้นับ สส.ทั้ง 3 คนอยู่แล้ว ในทางปฏิบัติพรรคไทยสร้างไทยไม่ได้นับ สส. 3 คนนั้นว่าเป็นสส.พรรค คงไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า ในส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า เท่าที่พูดคุยเขายังมั่นใจว่าจะครบถ้วน

ซัดมดปลวกพลีชีพด้อยค่าซักฟอก

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สส.พรรค พท.ดาหน้าสบประมาทการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า สส.พวกนี้ทำตัวเป็นมดปลวกพลีชีพ ดาหน้ากันออกมารับยาฆ่าแมลง วิธีคิดแบบนี้เป็น สส.ขาดสำนึกว่าประชาชนเลือกมา เขาคิดว่ามีวันนี้เพราะนายใหญ่ให้ ชื่อเสียงเกียรติยศส่วนตัวไม่สำคัญใดๆ จึงทำเรื่องไร้สาระ ให้ข่าวด้อยค่าตัวเอง ทำลายเกียรติยศศักดิ์ศรีความเป็นผู้แทนฯ เพื่อได้รับใช้ปรนนิบัติ เอาอกเอาใจนายใหญ่และคุณหนู เรารู้เกมจึงไม่ตอบโต้ เช่น บอกเราเป็นฝ่ายค้านไม่ตรงปกบ้าง ไปรวมกับลุงบ้าง เหมือนรับประทานไบก้อนลืมเขย่าขวด เหมือนเอาฝุ่น PM 2.5 ใส่ถุงกลับไปสูดที่บ้าน จนมันทำลายเซลล์สมองไปหมดแล้ว ขอไม่เอ่ยชื่อ สส.แล้วกัน เพราะไม่มีคุณค่าแม้กระทั่งจะจารึกชื่อเอาไว้ในประวัติศาสตร์ แต่เราพูดเรื่องพฤติการณ์ว่าสมองไปหมดแล้ว ถ้าไปพูดชื่อเดี๋ยวนายใหญ่จะเรียกไปลูบหัว ให้ขนม เดี๋ยวดีใจใหญ่ แต่อยากชี้ให้เห็นว่าคนเหล่านี้ นอกจากเป้าหมายเบี่ยงประเด็นแล้ว ยังพยายามด้อยค่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้น รัฐบาลพยายามจะทำให้เวทีซักฟอกเป็นเรื่องโจ๊ก

แย้มขย่มมังกรกงสีอิ่มหมีทั้งตระกูล

เมื่อเวลา 18.00 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ปชน.โพสต์เฟซบุ๊ก โหมโรงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยภาพกราฟิกธีมหนังจีนกำลังภายใน พร้อมข้อความตอนหนึ่ง ระบุว่า 24 มี.ค.68 ประมาณ 09.10 น. เป็นต้นไป ข้าน้อย (หลินฉางซวี่) จะได้มีโอกาสสำแดงวิทยายุทธ์ให้กับเหล่าผู้อาวุโสได้ชี้แนะในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ กับกระบวนท่าที่ได้เพียรพยายามโคจรลมปราณฝึกในถ้ำใต้สำนักชั่วยามแล้วชั่วยามเล่า จนในที่สุด 18 ฝ่ามือพิชิตมังกรที่ได้สูญหายไปจากยุทธภพมานานแสนนาน ได้ถูกบัญญัติขึ้นใหม่ ให้ได้กลับมาโลดแล่นในยุทธภพอีกครั้ง ครั้งนี้ข้าน้อยต้องขอล่วงเกินแล้ว ขอท่านผู้อาวุโสโปรดยั้งมือไว้ไมตรี รับมือ! กระบวนท่าที่ 5 “มังกรกงสีอิ่มหมีทั้งตระกูล” แรงบันดาลใจจาก:ภาพยนตร์ มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ (2025)

ขยี้ดีลแลกประเทศใครได้ประโยชน์

ขณะที่เวลา 18.43 น. นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน.โพสต์เฟซบุ๊ก ภาพตัวอักษรภาษาลู ที่นิยมใช้กันในกลุ่ม LGBTQ+ “ไม่ไว้วางใจ นายกอุ๊งอิ๊ง” พร้อมแคปชันข้อความว่า ดีลแลกประเทศ ตระกูลชินวัตรได้อะไร?? ไม่ใช่เราที่ต้องตอบ ดีลนี้ใครบ้างได้รับประโยชน์! มาร่วมหาคำตอบในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 24-25 มีนาคม 2568 ความสูญเสียของประเทศไทยตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา ต้องมีคนรับผิดชอบ

ปรับคิวส่งตัวตึงถล่มตั้งแต่วันแรก

ผู้สื่อข่าวรายงาน พรรค ปชน.เตรียมการอภิปรายสะเด็ดน้ำแล้ว ขุนพลที่พรรค ปชน.เตรียมไว้มีประมาณ 20 คนบวกลบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ มีการปรับแผนเล็กน้อย จากเดิมแกนนำพรรค ปชน. จัดคิวตัวตึงเอาไว้ในการอภิปรายวันที่ 2 คือ วันที่ 25 มี.ค. แต่ล่าสุดดึงตัวตึงบางคนมาไว้ในการอภิปรายวันแรกวันที่ 24 มี.ค. เปิดด้วยอาวุธหนักตั้งแต่ต้น ด้วยกลยุทธ์การอภิปรายช่วงต้นตื่นเต้น กลางกลมกลืน จบอภิปรายแบบระทึกใจ คิวอภิปรายวันแรก คนที่ 1 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ใช้เวลาอภิปราย 40 นาที คิวต่อมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร. ใช้เวลาอภิปราย 10 นาที คั่นด้วย สส.พปชร.อีก 1 คน ใช้เวลา 20 นาที จากนั้นเป็นคิวนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ส่วนนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ จะอภิปรายวันที่ 25 มี.ค. การปรับเปลี่ยนคิวแบบนี้แกนนำพรรค ปชน. ต้องการจัดหนักเพื่อดึงความสนใจของประชาชนมาฟังการอภิปรายให้ได้ ตั้งแต่ช่วงวันแรกของการอภิปราย

“ไพบูลย์” เตือน พท.อย่าได้ประมาท

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลัง ประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ วันที่ 24 มี.ค.ว่า หลายเรื่องที่พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพรรค พปชร.นำมาอภิปราย หากข้อมูลชัดเจน เช่น ชี้ให้เห็นว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เช่น การครอบครองที่ธรณีสงฆ์ จะถือว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม เชื่อว่าจะมีส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.หรือศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญมีบรรทัดฐานวินิจฉัยไว้อยู่แล้ว และยังมีบรรทัดฐานที่ศาลฎีกาด้วย ดังนั้น น.ส.แพทองธาร และพรรค พท. อย่าเพิ่งไปประมาท คิดว่าจะผ่านไปง่ายๆ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้อาจเกิดเรื่องสำคัญมากขึ้นมาก็ได้ เช่น หากเกี่ยวกับตัวนายกฯ จะเกิดความเปลี่ยน แปลงทางการเมืองขึ้นมา ส่วนการอภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพร้อมแล้วที่จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่

“มาร์ค” เตือนประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสังคมเริ่มเป็นห่วงระบอบทักษิณคืนชีพกลับมาอีกครั้งว่า บริบทสังคมการเมืองไทย เคยพูดไว้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง เชื่อว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะกลับมาแล้ว หวังว่าเมื่อกลับมาแล้วจะได้เรียนรู้จากบทเรียนในอดีต เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มันซ้ำรอย แต่ต้องยอมรับผ่านมาเกือบ 2 ปี สังคมวิตกกังวลว่ามันกำลังจะซ้ำรอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยังหวังอยู่ว่าเราลองมองย้อนกลับไปเถอะว่าอะไรที่มันเคยมีปัญหามาแล้ว อย่าไปทำให้มันเกิดขึ้นอีก

“ทักษิณ” ติวการบ้านลูกตอบได้ทุกเรื่อง

เมื่อเวลา 18.20 น. ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ร่วมงานฉลองมงคลสมรสระหว่างนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ กับนายสุไพรพล เพ็ญแข มีนักการเมือง มวลชนเสื้อแดงร่วมแสดงความยินดีคึกคัก จากนั้นนายทักษิณให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้ให้คำแนะนำนายกฯอย่างไรบ้างว่า นายกฯคงตอบได้ คงตอบได้ทุกเรื่อง อะไรอยู่ในกติกาตอบได้หมด อะไรตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ต้องบอกให้รู้ว่ามันไม่อยู่ในกติกา หากเราอยู่ในโลกความเป็นจริงเขาถามอะไรมาเราก็ตอบตามนั้นได้ หากเขาไม่มีคำถามที่พิสดาร ถามตรงไปตรงมา เราตอบได้ นายกฯเป็นคนรุ่นใหม่ คงต้องพูดอะไรตรงไปตรงมา ได้เจอนายกฯเมื่อสักครู่ยังเห็นอารมณ์ดีอยู่ ได้นั่งคุยกันและทำการบ้านนิดหน่อยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นขึ้น คืนนี้นายกฯนอนหลับสบายเลย ไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนที่ว่าดีลแลกประเทศ และดีลหลังจากนี้ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯกลับประเทศเป็นวาทกรรม ความเหมาะสมยังไม่ใช่เวลานี้ เป็นพรรคคนรุ่นใหม่อย่าไปใช้วาทกรรมเยอะมันเลอะเทอะ หมดสภาพ ดูแล้วไม่เหมาะ ใครจะเอาประเทศไปแลก ใครมีสิทธิ์แลกประเทศ

ไม่ตื่นเต้นโรยเกลือมาโรยน้ำตาลใส่

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุจะมียุทธการโรยเกลือ ยื่น ป.ป.ช.นายทักษิณกล่าวว่า เอาเกลือที่ไหนมาโรย ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะโรยน้ำตาล เขาโรยเกลือ ตนโรยน้ำตาล อยู่ในการเมืองมา 50 ปีตั้งแต่อายุ 25 ปี เห็นพวกนี้มาเยอะแล้ว ไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรแล้ว พรรค ปชน.อยากให้เป็นรุ่นใหม่จริงๆ คนรุ่นใหม่เขาตรงไปตรงมา ไม่ใช้วาทกรรม มีอะไรถามกันตรงๆ ตอบกันตรงๆ แล้วจบ จะไม่ยืดเยื้อ เมื่อถามว่า แต่ตอนนี้สาดวาทกรรมใส่กันทั้งพรรค พท. และพรรค ปชน.นายทักษิณกล่าวว่า ไม่เป็นไร ไม่ตื่นเต้น เมื่อถามว่า ในอนาคตพรรค พท.และพรรค ปชน.จะกลับมาจับมือกันได้หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องอนาคต วันนี้พูดไม่ได้ ตอนนี้บทบาทอยู่คนละฟาก ต้องว่ากันไป

ลั่นซื้อหนี้ ปชช.ต้องทำให้เกิดปีนี้

เมื่อถามถึงดุสิตโพลประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับนโยบายซื้อหนี้ประชาชน นายทักษิณกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องทำ ต้องเข้าใจก่อนว่าประชาชนลำบากอยู่ 2-3 เรื่อง คือ 1.การบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด โดยการดึงเงินออกนอกระบบ ทำให้เศรษฐกิจมันแห้ง ทำให้ประชาชนเดือดร้อน 2.โควิด-19 และ 3.การสร้างโอกาส ให้ประชาชนไม่เพียงพอ ที่ประชาชนจะทำมาหากินได้ ฉะนั้นวันนี้ต้องหาทางให้ประชาชนเริ่มต้นใหม่ พยายามแก้หนี้ให้เขา หรือปรับโครงสร้างหนี้ ให้เขาชำระหนี้ได้มีเครดิตใหม่ และสร้างโอกาสให้จะทำให้ฟื้นได้ เมื่อถามว่า ได้คุยกับเอกชนบ้างใช่แล้วหรือไม่ที่จะให้มารับซื้อหนี้ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีปัญหา ระบบทุนนิยมเราต้องการมีกำไรอยู่ได้ และวันนี้แบงก์ให้ดอกเบี้ยต่ำ ถ้าให้ดอกเบี้ยสูงกว่านี้เขาก็มา การแก้หนี้ภาคประชาชน ภาคครัวเรือนจะเกิดขึ้นในปีนี้ และน่าจะไปได้ดี

ใจเย็นดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้น ศก.แน่

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าดิจิทัลวอลเล็ตทั้ง 2 เฟสที่ผ่านมาไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่พรรคเพื่อไทย (พท.) หวังไว้ นายทักษิณ กล่าวว่า ใจเย็นๆถ้าเราไม่ทำอะไรเลยมันจะไหลลงมากกว่านี้ ซึ่งบางทีเราทำแล้วมันหยุดการไหล แต่มันอาจจะยังไม่ขึ้นมา แต่ว่ามันจะขึ้นมาแน่นอน ขอให้ใจเย็นๆ เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมันไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียว แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในอนาคต และอีกหน่อยทุกคนจะรู้จักพรรคเพื่อไทย เพราะในเป๋าสตางค์ธรรมดา กับกระเป๋าดิจิทัลทุกคนต้องมีกระเป๋าเงินดิจิทัล เพราะในอนาคตจะมีสินทรัพย์ทางดิจิทัลอีกมากมาย ซึ่งจะไปผ่านดิจิทัลวอลเล็ตตัวนี้ และไปไหนก็จะรู้ว่าเรามีกระเป๋าดิจิทัลวอลเล็ตก็จะได้เห็นว่ามันมีประโยชน์เยอะ

ป.ป.ช.เร่งเรียกหลักฐานคดีชั้น 14

นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐที่ช่วยเหลือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้ได้รับการรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำว่า คณะไต่สวนรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่อง ทั้งพยานบุคคลเอกสาร เรียกเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การไปตรวจสถานที่ โดยมีพยานที่ให้ถ้อยคำไปร่วมตรวจด้วย รวบรวมหลักฐานให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุด ทราบว่ากรมราชทัณฑ์และ รพ.ตำรวจส่งเอกสารมาให้คณะไต่สวนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าครบถ้วนตามที่ขอไปหรือไม่ หากรวบรวมพยานหลักฐาน ครบสรุปสำนวนได้ คดีชั้น 14 ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา หลังสรุปสำนวนต้องพิจารณา 2 ส่วน คือ 1.ถ้ามีพยานหลักฐานเพียงพอจะไปสู่ขั้นตอนแจ้งข้อกล่าวหา 2.หากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอจะไต่สวนต่อไป จะสรุปความเห็นให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา

รับติดปัญหาหน่วยงานไม่ส่งข้อมูล

เมื่อถามว่า คดีนี้ติดปัญหาหรือล่าช้าตรงไหน นายสาโรจน์ตอบว่า มีข้อมูลที่เรียกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีทั้งข้อมูลเปิดเผยได้และไม่ได้ เพราะมีกฎหมายหลายฉบับคุ้มครอง คณะไต่สวนพิจารณาว่าเรื่องใดที่เปิดเผยได้และยังไม่ส่งมา หรือมีข้อจำกัดการเปิดเผยก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน แต่ละหน่วยงานมีข้อจำกัดและกรอบการดำเนินการของตัวเอง จึงอาจมีข้อขัดข้องทำให้ระยะเวลาไม่รวดเร็ว ล่าช้า เมื่อถามยํ้าว่าจากการลงพื้นที่และการได้รับเอกสาร จะทำให้การทำงานหลังจากนี้รวดเร็วขึ้นหรือไม่ นายสาโรจน์ตอบว่า หากครบถ้วนสมบูรณ์ก็เร็ว แต่ไม่ทราบว่าต้องมีเนื้อหาขนาดไหนจึงครบถ้วน เป็นดุลพินิจของคณะไต่สวน ในส่วนสำนักงาน ป.ป.ช.แค่สนับสนุนและติดตามการดำเนินการ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่