เหลืออีกแค่วันเดียวจะเข้าสู่อีเวนต์สำคัญ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เริ่มระเบิดศึกวันที่ 24-25 มี.ค.นี้
เวทีที่นายกฯโดนฝ่ายค้านจับขึ้นเขียงล่อเป้าเดี่ยว จึงต้องมีทีมพิเศษมาเป็นตัวช่วยโดยเฉพาะ
พรรคเพื่อไทยตั้งทีม 18 องครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่งตัวเก๋า เขี้ยวลากดิน พวกเจนสังเวียน ทั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ ประสานทีม สส.รุ่นใหม่ ร่วมทีมองครักษ์
สายบู๊ สายบุ๋น รุ่นใหญ่ รุ่นใหม่ ฟูลทีมร่วมปกป้องผู้นำมือใหม่ในศึกซักฟอกครั้งแรก
ภาวะพร้อมรับเต็มอัตราศึก กำชับลูกพรรคห้ามป่วย ห้ามสาย ห้ามขาด ต้องอยู่ด้วยกันเช้ายันดึกตลอดทัวร์นาเมนต์ รับมือด่านหิน แคมเปญ “ดีลแลกประเทศ” ของฝ่ายค้าน
เล็งชำแหละพรรคเพื่อไทยเอาผลประโยชน์ประเทศ แลกผลประโยชน์บุคคลในครอบครัว ไม่ยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง
ย้อนรอยไปเปิดโปงดีลลับสูตรพิสดารตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจับมือค่ายอนุรักษ์นิยม
ดีลลับข้ามขั้วแลกการกลับบ้านของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอาจโยงไปถึงการเบิกทางกลับบ้านรอบใหม่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหญิง เพิ่มอีกคน
เป้าหลักศึกซักฟอกที่ไม่ได้ล็อกเป้าแค่ “นายกฯอิ๊งค์” แต่หวังผลขยี้นายใหญ่ และอดีตนายกฯปู เป้าแฝงที่เป็นเป้าหมายที่แท้จริงของการอภิปรายรอบนี้
ผสมไปกับกรีดแผลโรยเกลือเพิ่ม คดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไม่ตรงปก โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เป็นข้อสอบหลักรอบนี้
เน้นขยี้อารมณ์ความรู้สึกประชาชน ให้คล้อยตามเรื่องความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม การแก้ปัญหาปากท้อง การเอื้อประโยชน์พวกพ้อง เผลอๆอาจมีช็อตเด็ดเพิ่ม ข้อสอบลับเฉพาะที่ไม่เคยผ่านหูผ่านตามาก่อน ตามคำใบ้ “บุคคลในครอบครัว” จากญัตติที่แก้ไขรอบใหม่
...
เกมซ้อนซ่อนเงื่อนที่พร้อมขยายผลไปถึงตัวละครอื่นในตระกูลชินวัตร นอกจากนายทักษิณ อาวุธลับที่หวังใช้เป็นหมัดเด็ดน็อกกันกลางสภาฯ
รูปการณ์วันอภิปรายจริงส่อเค้าชุลมุนหนัก ทีมองครักษ์ตั้งป้อมก่อหวอดประท้วงวุ่นวาย ปิดปากฝ่ายค้าน ห้ามแตะกล่องดวงใจพรรคเพื่อไทย ยังไม่รู้จะกินเวลายืดเยื้อเกินกรอบเวลา 2 วัน หรือไม่
สีแดง–สีส้ม ตั้งป้อมประจัญบาน ประลองกำลังพร้อมแตกหักเต็มที่
ตามกระแสข่าวล่าสุด มีความพยายามล่มประชุมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ วันที่ 24 มี.ค.
ยกเหตุการแก้ญัตติซักฟอกที่เปลี่ยนชื่อจาก “นายทักษิณ” เป็น “บุคคลในครอบครัว” ดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอนการบรรจุญัตติรอบใหม่
อาจสุ่มเสี่ยงต้องเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปก่อน กลับไปแก้ไขการยื่นญัตติให้ถูกต้อง เนื่องจากญัตติใหม่ของฝ่ายค้านมีปัญหา เพราะมีการเซ็นชื่อกำกับการแก้ไขญัตติ โดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านเพียงแค่คนเดียว
หมิ่นเหม่เสี่ยงขัดข้อกฎหมายที่จะต้องให้สมาชิกลงชื่อแนบท้ายในญัตติใหม่ทุกคน
คลับคล้ายคลับคลา กรณี นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีต สส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย เคยโดนข้อหาสับเปลี่ยนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของสมาชิกวุฒิสภาที่เสนอต่อประธานรัฐสภา โดยไม่มีสมาชิกรัฐสภาลงชื่อ รับรองจนถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมาแล้ว
ล่าสุด ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันนท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันความถูกต้องถึงการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจฉบับแก้ไขใหม่ ไม่จำเป็นต้องให้สมาชิกลงนามรับรองการแก้ไขญัตติกันทุกคน โดยให้ผู้นำฝ่ายค้านลงนามรับรองการแก้ไขญัตติเพียงคนเดียวก็สามารถทำได้
การันตีการเปิดเวทีซักฟอกวันที่ 24 มี.ค.นี้ ไม่มีการถูกเลื่อน ได้ระเบิดศึกแน่นอน
ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็คงแอบหวั่นไหวลึกๆ กลัวฝ่ายค้านจะมีข้อมูลประเภทโป้งปิดบัญชี
เพราะเนื้อหาในญัตติไม่ได้กะถล่มแค่ “นายกฯอิ๊งค์” แต่เปิดกว้างให้ลามไปถึงบุคคลอื่นๆในครอบครัวด้วย
แม้สุดท้ายเวทีซักฟอกจะลงเอยเป็นแค่พิธีกรรมตรวจสอบรัฐบาล ผลโหวตลงมติยังไงก็ไม่มีปาฏิหาริย์โค่น “นายกฯอิ๊งค์” ได้ แต่แต้มนอกสภาความรู้สึกประชาชนก็สำคัญไม่แพ้กัน
ตามยุทธศาสตร์ฝ่ายค้านไม่เอาให้ตายแต่เอาให้อาย ขยี้จุดเปราะบางเรื่องภาวะผู้นำ.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม