รวมไทยสร้างชาติ เผยพรรคพร้อมรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจ มั่นใจรัฐมนตรีสังกัดพรรคพร้อมสนับสนุนนายกรัฐมนตรีในการชี้แจงเต็มที่ ด้าน “ธนกร” แนะ ฝ่ายค้านใช้เวลาคุ้มค่า สร้างสรรค์ อย่าเน้นวาทกรรม มองเหมาะสมแล้ว ซักฟอก 2 วัน
วันที่ 20 มีนาคม 2568 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ในวันพรุ่งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้มีการจัดประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อควบคุมการประชุมโดยเฉพาะในการประชุมให้อยู่ในญัตติไม่ให้หลุดออกจากประเด็น
สำหรับรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 4 ท่านต่างก็พร้อมที่จะสนับสนุนการชี้แจงของนายกรัฐมนตรี หากมีการพาดพิงถึงการทำงานที่รัฐมนตรีในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติรับผิดชอบ โดยเฉพาะกระทรวงพลังงานที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมที่มีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ก็มีความพร้อมในการชี้แจงในทุก ๆ ประเด็นอย่างชัดเจน เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการของทั้ง 2 กระทรวงต่างมีมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ผลงานเป็นที่ประจักษ์ และเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในความรับผิดชอบอย่างเต็มที่
และในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติต่างมีความพร้อมในการควบคุมการประชุมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจให้สำเร็จลุล่วงไปได้ และเนื่องจากการประชุมที่มีระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน ข้ามวันข้ามคืน ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอาจเหนื่อยล้าได้ ทางพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้สับเปลี่ยนหมุนเวียนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทำหน้าที่ในสภาฯให้เกิดประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
...
“ธนกร” แนะ ฝ่ายค้านใช้เวลาคุ้มค่า สร้างสรรค์ อย่าเน้นวาทกรรม
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและ สส. บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า กรอบเวลาการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ที่วิปทั้ง 3 ฝ่ายตกลงกันที่ให้ฝ่ายค้านได้เวลา 28 ชั่วโมง คณะรัฐมนตรีและ สส. พรรคร่วมรัฐบาล ได้ 7 ชั่วโมง และประธานในที่ประชุม 2 ชั่วโมง โดยอภิปราย 2 วัน ในวันที่ 24-25 มี.ค. และลงมติในวันที่ 26 มี.ค.นั้น ตนมองว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมไม่มากหรือน้อยเกินไป เพียงพอที่จะอภิปรายด้วยข้อมูลเนื้อหาที่ตรงประเด็น หากไม่มีการประท้วงกันไปมาก็จะทำให้เวลาที่มีอยู่เกิดประสิทธิภาพได้
ทั้งนี้ นายธนกร ฝากไปยังฝ่ายค้านและรัฐบาล ว่า ให้ใช้เวลาที่มีอย่างคุ้มค่าสร้างสรรค์ ไม่ควรมุ่งเน้นใช้วาทกรรมโจมตีกันเพราะพี่น้องประชาชนต่างก็ติดตามการถ่ายทอดสดในการอภิปรายครั้งนี้ เพราะถือเป็นครั้งแรกของรัฐบาล ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสดีที่นายกฯ และ ครม. จะได้ชี้แจงถึงผลการทำงานที่ผ่านมาให้ประชาชนได้เข้าใจและทราบว่ารัฐบาลได้ดำเนินการแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชนอะไรไปแล้วบ้าง ผ่านโครงการและนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล
“เชื่อว่าหากทุกฝ่ายไม่ใช้วาทกรรมรุนแรง หรือตอบโต้ ประท้วงกันไปมา ไม่สร้างสงครามน้ำลายในสภา การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ในครั้งนี้ ก็จะราบรื่นและใช้เวลาตามที่กำหนด หรืออาจจะเร็วมากกว่านั้น ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะ สส. ทุกคนจะได้ใช้เวลาลงพื้นที่รับฟังและแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนรัฐบาลก็จะได้เดินหน้าทำงานเร่งเครื่องอย่างเต็มที่ ในวาระที่เหลืออีก 2 ปี โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องเร่งแก้ไขเป็นเรื่องแรก” นายธนกร กล่าว